ย่อความจากพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลี ๔๕ เล่ม รวมเล่มเดียวจบ
สุชีพ ปุญญานุภาพ จัดทำ
พระไตรปิฎก หมายถึง คัมภีร์ หรือตำราที่บรรจุคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า (และของพระสาวกสำคัญบางรูป) รวบรวมไว้เป็นหมวดหมู่ ดุจเดียวกับตะกร้าอันเป็นภาชนะสำหรับใส่รวมของต่างๆไว้ด้วยกัน
พระไตรปิฎก มีทั้งหมด ๓ หมวด คือ
๑. พระวินัยปิฎก
๒. พระสุตตันตปิฎก
๓. พระอภิธรรมปิฎก
ภาค ๑ ความรู้เรื่องพระไตรปิฎก
ภาค ๒ ว่าด้วยเรื่องเอกสารทางประวัติศาสตร์
๑.เอกสารเกี่ยวกับการชำระและการจารึกพระไตรปิฎกในรัชกาลที่ ๑ คำประกาศเทวดาครั้งสังคายนารัชกาลที่ ๑
๒.เอกสารเกี่ยวกับการชำระและการพิมพ์พระไตรปิฎกในรัชกาลที่ ๕ การสาสนูปถัมภกคือการพิมพ์พระไตรปิฎก ประกาศสังคายนา พระราชดำรัสแก่พระสงฆ์โดยพระองค์
๓.รายงานการสร้างพระไตรปิฎก (รัชกาลที่ ๗)
ภาค ๓ ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก
พระพุทธเจ้าประทานอนุญาตภิกษุณีบรรพชาโดยมีเงื่อนไข ผู้ใดจะพยาบาลเราก็พึงพยาบาลภิกษุไข้เถิด อาสวะที่พึงละได้ด้วยภาวนา (การอบรม)
ภาค ๔ ความย่อแห่งพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๑ ชื่อมหาวิภังค์
เล่มที่ ๒ ชื่อมหาวิภังค์
เล่มที่ ๓ ชื่อภิกขุนีวิภังค์
เล่มที่ ๔ ชื่อมหาวรรค
เล่มที่ ๕ ชื่อมหาวัคค์
เล่มที่ ๖ ชื่อจุลลวัคค์ (วรรคเล็ก)
เล่มที่ ๗ ชื่อจุลลวัคค์
เล่มที่ ๘ ชื่อปริวาร
เล่มที่ ๙ ชื่อทีฆนิกาย สีลขันธวัคค์
เล่มที่ ๑๐ ชื่อทีฆนิกาย มหาวัคค์
เล่มที่ ๑๑ ชื่อทีฆนิกาย ปาฏิกวัคค์
เล่มที่ ๑๒ ชื่อมัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
เล่มที่ ๑๓ ชื่อมัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
เล่มที่ ๑๔ ชื่อมัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
เล่มที่ ๑๕ ชื่อสังยุตตนิกาย สคาถวรรค
เล่มที่ ๑๖ ชื่อสังยุตตนิกาย นิทานวรรค
เล่มที่ ๑๗ ชื่อสังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค
เล่มที่ ๑๘ ชื่อสังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
เล่มที่ ๑๙ ชื่อสังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
เล่มที่ ๒๐ ชื่ออังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
เล่มที่ ๒๑ ชื่ออังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
เล่มที่ ๒๒ ชื่ออังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
เล่มที่ ๒๓ ชื่ออังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
เล่มที่ ๒๔ ชื่ออังคุตตรนิกาย ทกส-เอกาทสกนิบาต
เล่มที่ ๒๕ ชื่อขุททกนิกาย
เล่มที่ ๒๖ ชื่อขุททกนิกาย-วิมานวัตถุ, เปตวัตถุ, เถรคาถา, เถรีคาถา
เล่มที่ ๒๗ ชื่อขุททกนิกาย ชาดก ภาคที่ ๑
เล่มที่ ๒๘ ชื่อขุททกนิกาย ชาดก ภาคที่ ๒
เล่มที่ ๒๙ ชื่อขุททกนิกาย มหานิทเทส
เล่มที่ ๓๐ ชื่อขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
เล่มที่ ๓๑ ชื่อปฏิสัมภิทามรรค (ทางแห่งความแตกฉาน)
เล่มที่ ๓๒ ชื่อขุททกนิกาย อปทาน ภาคที่ ๑
เล่มที่ ๓๓ ชื่อขุททกนิกาย อปทาน ภาคที่ ๒
เล่มที่ ๓๔ ชื่อธัมมสังคณี (รวมกลุ่มธรรมะ)
เล่มที่ ๓๕ ชื่อวิภังค์ (แยกกลุ่มธรรมะ)
เล่มที่ ๓๖ ชื่อธาตุกถา และปุคคลปัญญัตติ
เล่มที่ ๓๗ ชื่อกถาวัตถุ
เล่มที่ ๓๘ ชื่อยมก ภาคที่ ๑
เล่มที่ ๓๙ ชื่อยมก ภาคที่ ๒
เล่มที่ ๔๐ ชื่อปัฏฐาน ภาคที่ ๑
เล่มที่ ๔๑ ชื่อปัฏฐาน ภาคที่ ๒
เล่มที่ ๔๒ ชื่อปัฏฐาน ภาคที่ ๓
เล่มที่ ๔๓ ชื่อปัฏฐาน ภาคที่ ๔
เล่มที่ ๔๔ ชื่อปัฏฐาน ภาคที่ ๕
เล่มที่ ๔๕ ชื่อปัฏฐาน ภาคที่ ๖
ภาค ๕ ว่าด้วยบันทึกทางวิชาการ
ไตรลักษณ์ มีอยู่แล้ว โดยปกติ
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะตถาคตเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ตาม ธาตุ, ความตั้งอยู่แห่งธรรมทำนองแห่งธรรมอันนั้น ก็ตั้งอยู่แล้ว
คือข้อที่ว่า "สังขาร (สิ่งที่ปัจจัยปรุงแต่ง) ทั้งปวงไม่เที่ยง ; สังขารทั้งปวง เป็นทุกข์ (ทนอยู่ไม่ได้) ; ธรรม (ทั้งสิ่งที่มีปัจจัยปรุงแต่ง และไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง) ทั้งปวงไม่ใช่ตัวตน ตถาคตตรัสรู้เข้าใจทำนองธรรมนั้น ครั้นตรัสรู้แล้ว เข้าใจชัดแล้ว ก็บอก, แสดง, บัญญัติ, ตั้งไว้, เปิดเผย,แจกแจง, ทำให้ง่ายถึงข้อที่ว่า สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง; สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์; ธรรมทั้งปวงไม่ใช่ตัวตน."
ติกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๐/๓๖๘
ผู้ตกนรก
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ อย่าง ย่อมตกนรกเมื่อถูกนำตัวไปวางไว้ ธรรม ๕ อย่าง คือ :-
๑. เป็นผู้ฆ่าสัตว์
๒.เป็นผู้มักลักทรัพย์
๓.เป็นผู้มักประพฤติผิดในกาม
๔. เป็นผู้ มักพูดปด
๕. เป็นผู้มักตั้งมั่นในความประมาท ด้วยการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ อย่างเหล่านี้แล ย่อมตกนรกเหมือนถูกนำตัวไปวางไว้."
อย่าโกรธ เมื่อใครติเตียนพระพุทธเจ้า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! คนเหล่าอื่นอาจกล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์.
ท่านทั้งหลายไม่พึงผูกอาฆาต ขุ่นเคือง ไม่พอใจในบุคคลเหล่านั้น. เพราะถ้าท่านทั้งหลายโกรธเคือง
หรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตียน ติเตียนพระธรรม หรือ ติเตียนพระสงฆ์นั้น อันตรายเพราะความโกรธเคืองนั้น ก็จะถึงเป็นของท่านทั้งหลายเอง.
ถ้าท่านทั้งหลายโกรธเคือง ไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์ จะรู้ได้ละหรือว่า คำกล่าวของคนเหล่าอื่นนั้น เป็นคำกล่าวที่ดี (สุภาษิต) หรือไม่ดี (ทุพภาษิต)?
" ไม่ทราบ พระเจ้าข้า."
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ท่านทั้งหลายพึงชี้แจง (คลี่คลาย) หรือที่ไม่เป็นจริง ให้เห็นว่าไม่เป็นจริง ในข้อที่คนเหล่าอื่นกล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์ ให้เขาเห็นว่าข้อนั้นไม่จริง ข้อนั้นไม่แท้ ข้อนั้นไม่มีในพวกเรา ข้อนั้นไม่ปรากฏในพวกเราดังนี้"
พรหมชาลสูตร ๙/๓
อะไรเป็นแก่นสารในพระพุทธศาสนา?
๑. ลาภสักการะ ชื่อเสียง เปรียบเหมือนกิ่งไม้ใบไม้
๒.ความสมบูรณ์ด้วยศีล เปรียบเหมือนสะเก็ดไม้
๓.ความสมบูรณ์ด้วยสมาธิ เปรียบเหมือนเปลือกไม้
๔. ญาณทัสสนะ หรือ ปัญญา เปรียบเหมือน กะพี้ไม้
๕. ความหลุดพ้น แห่งใจอันไม่กลับกำเริบ ซึ่ง ใช้คำบาภาษาบาลี
"อกุปฺปา เจโตวิมุตตฺติ" เปรียบเหมือน แก่นไม้
อ้างอิงค์จาก พระไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชน หน้าที่ ๕๐ (มหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์)