จากลงทุนแมน January 11, 2018

หลังจากนั้น แนช ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัย Harvard แต่เป็นทางมหาวิทยาลัย Princeton ที่ประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวให้เขาไปเรียนต่อปริญญาเอกด้วย

หลังจากเรียนได้ 2 ปี เขาจบปริญญาเอก ด้วยวิทยานิพนธ์ที่นิยามจุดดุลยภาพในทฤษฎีเกม (game theory) ซึ่งในภายหลัง ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญของทฤษฎียุคใหม่ที่เด็กเศรษฐศาสตร์ทุกคนต้องเคยผ่านตา

จุดดุลยภาพของแนช (Nash equilibrium) ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขา Economic Sciences ในปี 1994 ร่วมกับ Reinhard Selten และ John Harsanyi

แค่นั้นยังไม่พอ ผลงานทางคณิตศาสตร์อีกเรื่องหนึ่งของเขาคือ nonlinear partial differential equations ยังทำให้เขาได้รับรางวัลอาเบล ในปี 2015 ร่วมกับ Louis Nirenberg

และทำให้ จอห์น แนช กลายเป็นคนแรกและยังเป็นคนเดียวที่ได้รับถ้วยรางวัลที่เรียกได้ว่าสูงสุดในด้านคณิตศาสตร์จากทั้ง 2 สถาบัน

ถึงตรงนี้ ทุกคนคงพอรู้แล้วว่า แนช เป็นอัจฉริยะ..

และอาจคิดว่าเส้นทางชีวิตของเขา คงจะราบรื่นสวยหรู

แต่เรื่องจริงกลับไม่ใช่เลย

แนช ประสบปัญหาอย่างหนักในการใช้ชีวิต เพราะเขามีอาการป่วยทางจิต ซึ่งเริ่มมีอาการให้เห็นในปี 1959

ในระยะเริ่มต้น เขามีอาการหวาดระแวง (paranoia) ถึงขั้นที่เคยเชื่อว่า ผู้ชายที่ผูกเนคไทสีแดงทุกคน คือกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่พยายามจะจัดตั้งรัฐบาลของตัวเองขึ้นมาที่สหรัฐอเมริกา

อาการเขาแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทบกับการทำงาน เพราะในที่สุดเขาเริ่มที่จะสอนหนังสือไม่รู้เรื่อง

สุดท้ายต้องเข้ารับการรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลหลายครั้งในระยะเวลาหลายปี และ ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค paranoid schizophrenia อยู่กับสิ่งในจินตนาการ มีอาการหลอน และบางครั้งก็ไม่สามารถแยกแยะว่าอะไรเป็นเรื่องจริงได้

ปี 1963 ความตึงเครียดจากอาการป่วย ทำให้เขาต้องเลิกกับภรรยา

ปี 1970 อาการของเขาดีขึ้น สามารถที่จะแยะแยกความคิดของตัวเองได้มากขึ้น จึงตัดสินใจเลิกรับการรักษา

ช่วงปี 1980 เขาก็ได้กลับไปทำงานด้านวิชาการของเขาอีกครั้ง

และในปี 2001 กลับมาแต่งงานกับภรรยาเก่าที่คอยช่วยเหลือและมีส่วนสำคัญที่ทำให้อาการทางจิตเขาดีขึ้น

เรื่องราวก็ดูเหมือนจะ happy ending ในบั้นปลายชีวิตของเขา

แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น..

วันที่ 23 พฤษภาคม ปี 2015

หลังจากที่บินกลับมาจากงานรับรางวัลอาเบลที่ประเทศนอร์เวย์ จอห์น แนช และภรรยา เสียชีวิตพร้อมกันจากอุบัติเหตุรถชน..

ชะตาชีวิตดูเหมือนจะชอบเล่นตลกกับมนุษย์อยู่เสมอ..

คนเราถูกกำหนดให้เป็นคนมีเหตุผลมาตั้งแต่เด็ก

เราต้องเรียนเก่งหรือทำงานหนัก เพื่อเข้าโรงเรียนดีมีชื่อเสียง มีหน้าที่การงานที่ดี

แต่จริงๆแล้วชีวิตคนเรานั้น อาจจะเจอสิ่งที่เราไม่ได้คาดการณ์ไว้อยู่เสมอ

สิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตเราบางทีมันก็เป็นเรื่อง ไม่สมเหตุผล

คนที่ดีพร้อมทุกอย่าง อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตเหมือนคนอื่นก็เป็นได้

บางสิ่งในชีวิตเรา เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลสอดคล้องกัน

ถ้าเรารู้สึกว่าโลกนี้เอาเปรียบเรา

จอห์น แนช เป็นอัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์ที่ทั้งชีวิตอยู่กับหลักการและเหตุผล แต่กลับต้องเป็นโรคที่ทำให้คิดอย่างมีเหตุผลไม่ได้

นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของเรื่องจริงที่ทำให้เราเข้าใจโลกนี้ได้มากขึ้น

อย่าพยายามมองหาเหตุผลกับทุกเรื่องของชีวิต

อย่าพยายามแก้ไขให้ทุกเรื่องมีเหตุผล

สิ่งที่เราทำได้ก็คือ การปล่อยวาง ไม่ต้องไปย้ำคิด แก้ไขในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

สิ่งที่เราอาจจะพอกำหนดได้บ้างก็คืออนาคต ที่ต้องทำให้ดีที่สุดด้วยความสามารถของเราในวันนี้

แล้วที่เหลือก็เป็นการปล่อยให้ชีวิตเดินไปตามทางของมัน เท่านั้นเอง..

DON’T REASON WITH LIFE, LET IT BE AS IT IS..

———————-

ลงทุนแมนมี “แอพ” แล้ว โหลดฟรีที่ longtunman.com/app

———————-

ถ้าชอบเรื่องราวแบบนี้ อ่านบทความของลงทุนแมนแบบรวมเล่มได้ในหนังสือ ลงทุนแมน 1.0 หาซื้อได้ที่ ร้านหนังสือชั้นนำได้แล้ววันนี้

สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ SE-ED https://m.se-ed.com/Product/Detail/9786160830985

หรือ ที่เว็บไซต์ shoptAt24 ส่งฟรีที่ร้าน 7-11 ทุกสาขา goo.gl/Z125LL

———————-

Source

-https://en.wikipedia.org/wiki/John_Forbes_Nash_Jr.

-https://en.wikipedia.org/wiki/Schizophrenia