จาก NEXTEMPIRE by Pae,Feb 8, 2018 7:43 PM
writer of Thought Leader
HIGHLIGHTS
Warren Buffett (วอเรน บัฟเฟต) ชายวัย 78 ปี ที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เขาจะลงทุนตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต นักลงทุนไม่ว่าจะหน้าเก่าหน้าใหม่ไม่มีใครไม่รู้จักบัฟเฟต เขาได้รับการขนานนามว่าเป็น "ปราชญ์แห่งโอมาฮา" (Oracle of Omaha)
จริง ๆ แล้วความมั่งคั่งของมหาเศรษฐี วอเรน บัฟเฟต นั้นเกิดจากความขยันและพรสวรรค์ด้านการลงทุนของเขา รู้มั้ยว่าธุรกิจแรกในชีวิตเกิดขึ้นตอนบัฟเฟตอายุ 5 ขวบ เรื่องราวของเขาน่าสนใจมาก เรามารู้จักความเป็นตัวตนเขาผ่านเรื่องราวชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตกัน
วอเรน บัฟเฟต เกิดที่เมืองโอมาฮา รัฐเนบราสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเป็นเด็กที่ชอบลงทุนทำธุรกิจมาก ธุรกิจแรกในชีวิตของเขาคือ "ขายน้ำมะนาว" ตอน 5 ขวบ ซึ่งวิธีการขายนั้นไม่ใช่แค่ออกมาขายหน้าบ้านธรรมดา แต่มันผ่านกระบวนการคิดมาแล้วว่า "ต้องไปขายที่หน้าบ้านเพื่อน เพราะตรงนั้นมีคนเดินผ่านเยอะ" คุณอ่านไม่ผิดหรอก นี่คือความคิดของเด็ก 5 ขวบ
l บัฟเฟตรู้จักวางกลยุทธ์การตลาดตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
แล้วหลังจากนั้นเด็กชายบัฟเฟตก็ขายของอีกมากมาย ทั้งขายลูกกอล์ฟเก่า ขายป๊อปคอร์นและถั่ว ขายหมากฝรั่ง ขายน้ำอัดลม ฯลฯ การขายของตอนเด็กของเขาไม่เหมือนเด็กทั่วไป เขาวางกลยุทธ์ทางการตลาดได้ดีมาก อย่างเช่นลูกกอล์ฟเก่าที่เก็บมาขายก็ศึกษามูลค่าว่าแบรนด์ไหนมีราคาเท่าไหร่แล้วถึงจะตั้งราคา
ต้องบอกก่อนว่าคุณพ่อของบัฟเฟตเป็นโบรคเกอร์ซื้อขายหุ้น และในตอนที่บัฟเฟตอายุได้ 11 ปี เขานำเงินเก็บจากการขายของมาลงทุนซื้อหุ้น "Cities Services" ครั้งแรก ในราคาหุ้นละ 38.25 ดอลล่าร์ พอหุ้นตกเขาก็เครียดมาก แต่พอหุ้นขึ้นถึง 40 ดอลล่าร์เขาก็รีบขายออกทันที ซึ่งภายหลังต่อมาหุ้นได้ทะยานสูงถึง 200 ดอลล่าร์
l การซื้อหุ้นตอนอายุ 11 คือบทเรียนแรกในการซื้อหุ้นที่บัฟเฟตได้เรียนรู้ว่า "การลงทุนระยะยาวเป็นอย่างไร"
ชีวิตในวัยเด็กของบัฟเฟตน่าสนใจมาก ความสามารถของเขาเป็นที่กล่าวขานในหมู่เพื่อนฝูงจนได้ฉายาในหนังสือรุ่นว่า "likes math; a future stockbroker" ผลงานที่น่าสนใจของเขาคือ
l บัฟเฟตเป็นนักสะสมประสบการณ์และเงินทุน เพื่อนำไปต่อยอดสร้างเม็ดเงินให้งอกเงย
นอกจากประสบการณ์ที่ทำให้บัฟเฟตเป็นนักลงทุนชั้นเซียนแล้ว ยังมีนิสัยรักการอ่านที่สอนให้เขาได้รู้จักวิธีการลงทุนในแบบต่าง ๆ เขามุ่งมั่นตั้งแต่เด็กว่าจะต้องอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนให้ได้อย่างน้อย 100 เล่ม และหนังสือที่เป็น Favorite ของเขาคือ "One thousand ways to make $1,000" แต่หนังสือที่พลิกชีวิตของบัฟเฟตในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อคือ “The Intelligent Investor“ ของ Benjamin Graham
l ในปี 1951 บัฟเฟตตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Columbia เพื่อพบ เบนจามิน เกรแฮม ไอดอลของเขา
แนวคิดของเบนจามินที่บัฟเฟตสนใจคือ "การลงทุนแบบเน้นคุณค่า" มองการซื้อหุ้นให้เหมือนเป็นการซื้อธุรกิจ ซึ่งมันเป็นแนวคิดที่บัฟเฟตใช้มาตลอดชีวิตการลงทุน ยิ่งได้มาเรียนกับเบนจามินและอาจารย์อีกสองสามคนก็ยิ่งส่งเสริมแนวคิดนี้ แล้วเขาก็นำมาปรับใช้กับการลงทุนเรื่อยมา
ในตอนนั้นที่บัฟเฟตลงทุนซื้อ Berkshire Hathaway เป็นเพราะว่าราคามันถูกมาก เป็นธุรกิจสิ่งทอที่บัฟเฟตมองว่ามันจะอยู่ได้อีกประมาณ 20 ปีเท่านั้น ซึ่งถือว่าขัดกับแนวคิดการลงทุนระยะยาวของเขาอย่างมาก เขาจึงนำเงินสดที่ได้จากธุรกิจสิ่งทอ ออกมาซื้อบริษัทที่มีอัตราการเติบโตสูงในระยะยาวอย่างบริษัทประกัน หนังสือพิมพ์ น้ำมัน เป็นต้น
l บัฟเฟตจะไม่ลงทุนกับบริษัทที่เขาไม่เห็นการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องใน 5 ปี หรือสิ่งที่เขาไม่ถนัด เช่น เทคโนโลยี
และในที่สุด Berkshire Hathaway ก็กลายเป็น Holding Company ที่ถือหุ้นในบริษัทยักษ์ใหญ่มากมาย สร้างรายได้ให้บัฟเฟตสามารถนอนอยู่เฉย ๆ ก็สบายไปได้ทั้งชีวิต แต่เขาก็ได้บอกไว้แล้วว่าเขาจะไม่หยุดลงทุน ถ้ายังมีลมหายใจ
ปัจจุบัน บัฟเฟตยังคงอาศัยอยู่โอมาฮา บ้านที่เขาซื้อมาเมื่อปี 1985 ในราคา 31,500 ดอลล่าร์
นอกจากนี้เขายังนำเงินไปบริจาคเพื่อการกุศลมากมาย อย่างในปี 2010 บัฟเฟตกับ บิล เกตส์ ก็ชวนกันทำ The Giving Pledge เชิญชวนให้เศรษฐีคนอื่นบริจาคเงินครึ่งนึงของทรัพย์สินตัวเอง บัฟเฟตมีความตั้งใจว่า จะนำเงินไปบริจาคเพื่อการกุศลให้ได้มากที่สุด
ถ้าคุณไม่สามารถหาทางที่จะมีรายได้ในขณะที่หลับได้...คุณก็จะต้องทำงานไปจนตาย
"If you don't find a way to make money while you sleep, you will work until you die." - Warren Buffett
----------
ราคาเป็นตัวเลขที่คุณจะต้องจ่าย แต่คุณค่าคือสิ่งที่คุณจะได้รับ
"Price is what you pay, value is what you get." - Warren Buffett
----------
อย่าทดสอบความลึกของแม่น้ำด้วยเท้าทั้งสองข้างพร้อม ๆ กัน
"Never test the depth of river with both feet." - Warren Buffett
----------
ความเสี่ยงนั้นเกิดจาก การที่คุณไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
"Risk come from not knowing what you're doing." - Warren Buffett
----------
ถ้าไม่มีแรงขับ คุณก็จะไม่มีพลังงาน และถ้าไม่มีพลังงาน คุณก็จะไม่มีอะไรเลย
"Without passion, you don't have energy. Without energy, you have nothing." - Warren Buffett
-----------
ฉันได้ทำในสิ่งที่ฉันชอบในทุก ๆ วันของปี
"I got to do what i like to do every single day of the year." - Warren Buffett
-----------
ด้วยประสบการณ์กับความคิดที่เฉียบคมและรอบคอบ Warren Buffett ควรค่าแล้วกับการได้รับขนานนามว่า "ปราชญ์แห่งโอมาฮา" มหาเศรษฐีระดับโลกย่อมมีแนวคิดที่แตกต่างแต่อยู่บนหลักแห่งความเป็นจริง ทีนี้ก็ยังมีมหาเศรษฐีอันดับ 3-6 จากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes ให้ติดตามอีก จะได้เอาไปปรับใช้กับตัวเอง และความสำเร็จก็จะไม่ได้อยู่ไกลอย่างที่คิด
Sources
https://www.forbes.com/profile/warren-buffett/
http://www.berkshirehathaway.com/subs/sublinks.html
https://www.finnomena.com/fiftytwohurtz/warren-buffett-history/