ศาสตราจารย์ อุบาสิกา รัญจวน อินทรกำแหง เกิดเมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๔ ที่ตำบลบางรัก กรุงเทพฯ เป็นบุตรีนายพันเอกพระศรีพิชัยบริบูรณ์ (เหมือน) และ นางเชย อินทรกำแหง เข้ารับการศึกษาระดับประถมถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ที่โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย กรุงเทพฯ จากนั้นในปีพ.ศ.๒๔๗๕ ได้ย้ายตามบิดาไปเรียนต่อที่โรงเรียนสุรนารีวิทยา จ.นครราชสีมา จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ แล้วศึกษาต่อที่โรงเรียนสวนสุนันทาวิทยาลัย จนจบมัธยมศึกษาปีที่ ๘ ในพ.ศ.๒๔๘๑ และศึกษาต่อโรงเรียนฝึกหัดครูสวนสุนันทา (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา) สำเร็จประกาศนียบัตรประโยคครูประถมในพ.ศ.๒๔๘๓ จากนั้นรับราชการอยู่ระยะหนึ่งจึงได้รับทุนจากUSOMไปดูงานด้านบรรณารักษศาสตร์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริการเป็นเวลา ๑ ปี ระหว่างนั้นได้ขอเปลี่ยนจากทุนดูงานเป็นทุนการศึกษา จนสำเร็จปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิต (B.A.) จาก Florida State University มลรัฐฟลอริดา ในปีพ.ศ.๒๔๙๘ และได้รับทุนศึกษาต่อระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยเดียวกันอีก ๑ ปี จึงสำเร็จการศึกษาปริญญาศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (M.A.) สาขา Library Science ในปีพ.ศ. ๒๔๙๙ หลังจากกลับจากสหรัฐอเมริกา ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นศึกษานิเทศก์ ฝ่ายห้องสมุดโรงเรียนของกรมวิสามัญศึกษา จากนั้นเป็นผู้อำนวยการกองการสัมพันธ์ต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในปีพ.ศ.๒๕๑๕ ท่านได้ลาออกจากราชการไปเป็นอาจารย์พิเศษที่ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
โดยปกติ ท่านมีนิสัยใฝ่ในทางธรรม มักจะหาโอกาสไปปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ มีครั้งหนึ่งท่านได้ไปรับฟังธรรมจากพอจ.เทสก์ เทสรังสี ที่วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย เกิดความรู้สึกชุ่มเย็นจิตใจ ปลอดโปร่งโล่งสบาย จนรู้สึกว่าได้เห็นหนทางสว่างของชีวิตที่จะเดินต่อไป ต่อมาในปีพ.ศ.๒๕๒๓ ท่านมีโอกาสไปปฏิบัติธรรมกับพอจ.ชา สุภัทโท ที่วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ก็ยิ่งเกิดความเข้าใจในความสุขและทุกข์ ในเรื่องความเสื่อมของลาภยศสรรเสริญ จึงขอเป็นศิษฐ์พอจ.ชา และตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงในปีพ.ศ.๒๕๒๔ เพื่อปล่อยวางจากทุกสิ่ง มุ่งสู่การปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังที่วัดถ้ำแสงเพชร จ.อำนาจเจริญ จนกระทั่งพอจ.ชา มรณภาพ ในปีพ.ศ.๒๕๒๕ จึงเดินทางไปสวนโมกขพลาราม วัดธารน้ำไหล อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อขอรับการฝึกอบรมจากพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) ท่านได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมอยู่ที่สวนโมกขพลารามอย่างเคร่งครัด และเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในหลายด้าน เช่น การจัดระบบห้องสมุดพุทธทาสบรรณาลัย เป็นผู้นำการจัดตั้ง "ธรรมาศรมธรรมมาตา" ตามเจตนารมณ์ของท่านพุทธทาสภิกขุ ที่ต้องการให้เพศแม่ได้มีโอกาสศึกษาและปฏิบัติธรรมได้เต็มที่ และเป็นการเสริมแทนภิกษุณีที่ยังขาดอยู่
ท่านมีส่วนในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในวงกว้าง ทั้งเผยแผ่โดยตรง ผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุ เช่นรายการ "ธรรมสนทนา" ในช่วงพ.ศ.๒๕๓๐ ถึง พ.ศ.๒๕๕๐ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นรายการธรรมะที่เข้าใจง่าย แต่เข้าถึงแก่นธรรม ในส่วนของสื่อหนังสือ ท่านมีผลงานมากมาย ทั้งทางวิชาการและธรรมะบรรยาย เช่น ลอยธรรมะมาลัย (๒๕๓๖) สวนโมกข์ทำไม ทำไมสวนโมกข์ (๒๕๓๖ และ ๒๕๓๗) ก่อนหยุด หยุดก่อน (๒๕๓๖) ท่านอาจารย์พุทธทาสในฐานะครู (๒๕๓๘) และอีกมากมาย
หลังจากท่านพุทธทาสภิกขุมรณภาพในปีพ.ศ.๒๕๓๖ ท่านได้หยุดการบรรยายธรรม และมุ่งสู่การปฏิบัติธรรม โดยมาพำนักตามลำพังที่วัดป่างหนองไผ่ ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร จนถึงปีพ.ศ.๒๕๕๙ ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช จนในวาระสุดท้ายของชีวิต ท่านได้กล่าวย้ำซ้ำหลายรอบด้วยเสียงที่แผ่วลงเป็นลำดับว่า "เห็นพระพุทธเจ้า เห็นพระธรรมเจ้า เห็นพระสังฆเจ้า" จนถึงนาทีสุดท้ายที่ท่านถึงแก่อนิจกรรมในวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๙ สิริรวมอายุ ๙๔ ปี ๑๑ เดือน ๔ วัน
🌏 เฟสบุ๊คและเว็บไซต์
➡️ เว็บไซต์ "พิพิธภัณฑ์ศาสตราจารย์ คุณรัญจวน อินทรกำแหง"
➡️ เฟสบุ๊ค "พิพิธภัณฑ์ศาสตราจารย์ คุณรัญขวน อินทรกำแหง วัดป่าหนองไผ่ สกลนคร"
กลุ่ม "อุบาสิกา รัญจวน อินทรกำแหง" มีจำนวน ๓๓ ฉบับ