ท่านสัตยา นารายัน โกเอ็นก้า (Satya Narayan Goenka) เกิดเมื่อ๓๐ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๗ ในครอบครัวนักธุรกิจชาวอินเดียในประเทศเมียนมาร์(พม่า) ท่านเป็นนักธุรกิจมีชื่อเสียงที่ประสบความสำเร็จมาก และเป็นผู้นำชุมชนอินเดียในเมียนม่าร์ตั้งแต่วัยหนุ่ม รวมทั้งเป็นประธานองค์กรการค้าต่างๆ ท่านเคยกล่าวว่า ความสำเร็จอย่างมากในทางโลกเหล่านี้ ทำให้ท่านเกิดปมเด่น ถือตนเองเป็นใหญ่ เกิดอัตตาอย่างรุนแรง จนถูกคุกคามด้วยโรคไมเกรน ปวดศีรษะอย่างรุนแรง แม้จะเดินทางพบแพทย์ที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ใช้เงินทองและเวลาในการรักษามากมาย แต่ก็ไม่สามารถรักษาได้ ท่านจึงกลับบ้านเกิดด้วยสภาพที่ทรุดโทรม จนกระทั่งในปีพ.ศ.๒๔๙๘ เมื่ออายุ ๓๑ ปี ท่านได้พบกับเพื่อนสนิทคนหนึ่งของท่าน แนะนำให้ท่านลองปฏิบัติธรรมตามแนวทางของท่านอาจารย์อูบาขิ่น ซึ่งเป็นวิปัสสนาจารย์ที่ชาวเมียนมาร์ให้ความเคารพนับถืออย่างมาก
หลังจากได้เข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานหลักสูตร ๑๐ วันกับท่านอาจารย์อูบาขิ่น ในวันที่ ๑-๑๑ กันยายน พ.ศ.๒๔๙๘ ท่านเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในสาระคำสอนในแนวทางปฏิบัตินี้เป็นอย่างมาก จึงเข้าปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จนต่อมาท่านอาจารย์อูบาขิ่นได้แต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ผู้ช่วยสอน ท่านอาจารย์อูบาขิ่นมีความปรารถนาแรงกล้ามาแต่เดิมว่าประเทศอินเดียมีบุญคุณที่ได้มอบธรรมะขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กับเมียนมาร์ แต่ธรรมะเหล่านี้กลับสูญหายไปจากอินเดีย ท่านจึงมีความปรารถนาตอบแทนคุณโดยการหาทางนำธรรมะกลับไปเผยแผ่ในประเทศอินเดียอีกครั้ง ท่านอาจารย์อูบาขิ่นจึงได้ส่งเสริมและสนันสนุนให้ท่านอาจารย์โกเอ็นก้า เปิดอบรมวิปัสสนาในประเทศอินเดีย
ในปีพ.ศ.๒๕๑๒ ขณะอายุได้ ๔๕ ปี ท่านอาจารย์โกเอ็นก้าได้เดินทางกลับไปยังประเทศอินเดีย เพื่อจัดอบรมหลักสูตรวิปัสสนาเป็นครั้งแรกให้กับบิดา มารดา และญาติมิตร และนับจากนั้นก็มีผู้มาขอให้ท่านจัดหลักสูตรวิปัสสนาอย่างต่อเนื่อง จนปีพ.ศ.๒๕๑๗ ท่านจึงได้ก่อตั้งสถาบันวิปัสสนานานาชาติ "ศูนย์ธรรมคีรี" ใกล้เมืองบอมเบย์ และได้จัดอบรมวิปัสสนาหลักสูตร ๑๐ วัน และหลักสูตรระยะสั้น-ระยะยาวอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อเปิดอบรมในอินเดียได้ครบ๑๐ปี ในปีพ.ศ.๒๕๒๒ ท่านจึงได้เริ่มเดินทางไปอบรมที่ประเทศทางตะวันตก เช่น ฝรั่งเศส แคนาดา อังกฤษ และได้เปิดศูนย์วิปัสสนาตามสถานที่-ประเทศต่างๆมากกว่า ๒๐๐ ศูนย์ในเวลาต่อมา
ในปีพ.ศ.๒๕๒๕ ท่านได้แต่งตั้งอาจารย์ผู้ช่วย ดำเนินการอบรมแทนท่าน โดยใช้วีดีโอของท่านเป็นแนวทางในการสอน เพื่อรองรับกับความต้องการอบรมที่เพิ่มสูงขึ้น จนมีอาจารย์ผู้ช่วยและอาสาสมัครหลายพันคน เปิดอบรมหลักสูตรวิปัสสนาในแนวทางนี้กว่าพันหลักสูตรทั่วโลก โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆกับผู้เข้ารับการอบรม ท่านอาจารย์โกเอ็นก้า อาจารย์ผู้ช่วย และอาสาสมัครทุกคนก็ไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ
ในปีพ.ศ.๒๕๓๒ ขณะที่ท่านไปอบรมที่ฝรั่งเศส แล้วไปอบรมที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในขณะเดินทางไปเปิดศูนย์ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้เดินทางผ่านประเทศไทย ศิษย์ชาวไทยนำโดยยุวพุทธิกสมาคมจึงเชิญให้ท่านแสดงปาฐกถาธรรม ณ ธรรมสถาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ ๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๒ ซึ่งมีผู้เข้าฟังอย่างล้นหลาม หลังการปาฐกถา มีผู้เรียนเชิญให้ท่านมาจัดอบรมวิปัสสนาด้วยตัวท่านเองในประเทศไทย และท่านได้ตอบรับคำเชิญนั้น โดยในปีถัดมา ท่านได้เดินทางมาจัดอบรมหลักสูตร ๑๐ วันเป็นครั้งแรกที่ธรรมสถานว่องวานิช ในระหว่างวันที่ ๒๑-๓๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๓ และหลังจากนั้นได้เดินทางมาอบรมในหลักสูตร ๑๐ วัน อีก ๒ ครั้ง ในปีพ.ศ.๒๕๓๖ และ ๒๕๓๘ รวมทั้งเปิดอบรมวิปัสสนาหลักสูตร ๓๐ วันเป็นครั้งแรกที่ศูนย์ธรรมกมลาในปีพ.ศ.๒๕๔๑
ตลอดระยะเวลาที่ท่านอบรมวิปัสสนา ท่านได้รับการยกย่องและได้รับรางวัลทั้งในประเทศเมียนมาร์ ประเทศอินเดีย และจากนานาประเทศอย่างมากมาย
ท่านอาจารย์โกเอ็นก้าถึงแก่กรรมในคืนวันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๖ สิริรวมอายุ ๙๐ ปี ทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ ๑ ตุลาคม ณ เมืองมุมไบ แล้วครอบครัวของท่านนำเถ้าอัฐิไปลอยอังคารที่ประเทศเมียนมาร์ซึ่งเป็นมาตุภูมิของท่าน
🌏 เฟสบุ๊คและเว็บไซต์
➡️ เว็บไซต์ "การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน"
กลุ่ม "ท่านอาจารย์โกเอ็นก้า" มีจำนวน ๙๓ ฉบับ