พระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน) หรือที่มักเรียกกันติดปากว่า หลวงตามหาบัว หรือบางทีเรียกสั้นๆว่า หลวงตาบัว ท่านมีชื่อเดิมว่า บัว โลหิตดี เกิดเมื่อ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๖ ที่ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี มีพี่น้องทั้งหมด ๑๖ คน ในวัยเด็กท่านเป็นคนเลื่อมใสในศาสนาพุทธ ได้ทำบุญใส่บาตรกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ เมื่ออายุครบอุปสมบทแล้ว จึงได้อุปสมบทในวันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๗ ที่วัดโยธานิมิตร ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายานามว่า "ญาณสมฺปนฺโน" แปลว่า ถึงพร้อมแล้วด้วยญาณ
ท่านได้เริ่มศึกษาพุทธประวัติและประวัติพุทธสาวก โดยพบว่าหลังจากพุทธสาวกได้รับพระโอวาทแล้ว ก็จะเดินทางไปบำเพ็ญในป่าอย่างจริงจังจนสำเร็จอรหันต์ ทำให้ท่านตั้งสัจอธิษฐานว่า เมื่อเรียนจบเปรียญธรรม ๓ ประโยคแล้ว ก็จะออกปฏิบัติกรรมฐานอย่างเดียว แต่อย่างไรก็ตาม ท่านก็ยังสงสัยว่า ถ้าทำตามแนวพระสาวกเหล่านั้น ท่านจะสามารถบรรลุในแบบเดียวกัน และสงสัยว่ามรรคผลนิพพานนั้น ยังมีเหมือนครั้งพุทธกาลหรือไม่ ในเวลานั้นพระอุปัชฌาย์ของท่านได้อาราธนานิมนต์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ให้ไปจำพรรษาที่จ.อุดรธานี ท่านจึงเดินทางกลับไป ด้วยความมุ่งหวังว่าพระอาจารย์มั่น จะสามารถไขข้อสงสัยดังกล่าวของท่านได้ และท่านได้พบกับพระอาจารย์มั่นเป็นครั้งแรกที่วัดเจดีย์หลวง จากนั้นท่านศึกษาปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นเอก และ เปรียญธรรม ๓ ประโยคในปี พ.ศ.๒๔๘๔ ขณะที่ท่านบวชได้ ๗ พรรษา
หลังจากสำเร็จทางปริยัติ ท่านได้เดินทางไปปฏิบัติกรรมฐานที่จ.นครราชสีมาระยะหนึ่ง แล้วจึงเดินทางไปจ.สกลนคร ด้วยความตั้งใจไปถวายตัวเป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์มั่น เมื่อรับท่านเป็นลูกศิษฐ์แล้ว พระอาจารย์มั่นได้พูดขึ้นว่า "มรรคผลจริงๆอยู่ที่ใจ ขอให้กำหนดจิตต่อด้วยสติที่หัวใจ จะเห็นความเคลื่อนไหวของทั้งธรรมทั้งกิเลาอยู่ภายใจ แล้วขณะเดียวกัน ก็จะเห็นมรรคผลนิพพานไปโดยลำดับ" คำกล่าวนี้ทำให้ท่านหมดข้อสงสัยที่มีแต่เดิมจนสิ้น
ในพรรษาที่ ๑๐ ท่านฝึกสมาธิอยู่ ๕ ปี จนสมาธิมั่นคง สามารถอยู่ในสมาธิได้เท่าไหร่ก็ได้ และมีความสุขอย่างยิ่งจากจิตใจที่ไม่ฟุ้งซ่าน แต่ท่านก็ไม่ก้าวไปสู่ขั้นปัญญา จนพระอาจารย์มั่นให้อุบายเตือนท่านว่า "สมาธิของพระพุทธเจ้า สมาธิต้องรู้สมาธิ ปัญญาต้องรู้ปัญญา อันนี้มันเอาสมาธิเป็นนิพพานเลย สมาธินอนตายอยู่นี่หรือเป็นสัมมาสมาธิ" ท่านจึงออกจากสมาธิและพิจารณาทางปัญญาต่อไป จนบรรลุธรรมขั้นสูงสุด
ต่อมาโยมมารดาของท่านล้มป่วย ท่านจึงพากลับมารักษาตัวที่บ้านตาด หลังรักษาหายแล้ว ท่านพิจารณาว่าโยมมารดาอายุมากแล้ว จะพาตามไปอยู่ถิ่นทุรกันดารขณะท่านปลีกวิเวกก็คงลำบาก ประกอบกับตอนนั้นชาวบ้านบ้านตาดต้องการให้ท่านตั้งวัดขึ้นที่นั่น จึงร่วมกันถวายที่ดินให้เป็นที่ตั้งวัด ท่านจึงก่อตั้งวัดป่าบ้านตาดขึ้น ณ หมู่บ้านบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ในปีพ.ศ.๒๔๙๘ และกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศเป็นวัดในพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๑๓ โดยให้ชื่อว่า วัดเกษรศีลคุณ
นอกเหนือจากงานเทศนา และงานด้านพระพุทธศาสนาแล้ว ท่านยังได้ช่วยเหลือสังคม ทั้งในด้านสาธารณสุข สงเคราะห์หน่วยงานราชการ อย่างต่อเนื่อง และหลวงตามหาบัวเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นหลังวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วงปีพ.ศ.๒๕๔๐ จากการที่ท่านได้ดำเนินการทอดผ้าป่าทองคำและเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐ ภายใต้ชื่อโครงการผ้าป่าช่วยชาติ เพื่อนำมาใช้เป็นทุนสำรองของประเทศ
จากปีพ.ศ.๒๕๕๓ หลวงตามหาบัว อาพาธลำไส้อุดตันและปอดติดเชื้ออยู่กว่า ๖ เดือน คณะแพทย์ถวายการรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่อาการอาพาธไม่ดีขึ้น จนเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๔ ตรวจพบสมองของหลวงตาหยุดทำงาน ต่อมาตรวจพบม่านตาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ออกซิเจนในเลือดเป็น ๐ และต่อมาจึงหยุดหายใจ มรณภาพอย่างสงบ สิริรวมอายุได้ ๙๗ ปี ๕ เดือน ๑๘ วัน พรรษา ๗๗
หลังหลวงตามหาบัวมรณภาพ โครงการช่วยชาติยังดำเนินต่อ และมอบเงินเข้าคลังหลวงครั้งที่ ๑๖ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย รวมเป็นการบริจาคทองแท่งเข้าคลังทั้งสิ้น ๑,๐๔๐ แท่ง น้ำหนัก ๑๓,๐๐๐,๐๕ กิโลกรัม และเงินสกุลดอล์ล่าร์สหรัฐอีก ๑๐,๒๑๔,๖๐๐ ดอลล่าร์ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้รวมกันคิดเป็นมูลค่า(ในขณะนั้น) ๑๙,๔๙๕,๓๗๘,๓๕๓ บาท
🌏 เฟสบุ๊คและเว็บไซต์
➡️ เว็บไซต์ "หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน"
กลุ่ม "พอจ.มหาบัว ญาณสัมปันโน" มีจำนวน ๗๐ ฉบับ
หนังสือของพอจ.มหาบัว ญาณสัมปันโน ที่แปลเป็นภาษาต่างชาติ (จำนวน 8 เล่ม)