หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ชื่อเดิม ดูลย์ ดีมาก เกิดที่บ้านปราสาท ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๓๑ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) เป็นบุตรคนที่ ๒ มีโยมพี่สาว ๑ คน โยมน้องชาย ๑ คน และโยมน้องสาว ๒ คน (รวม ๕ คน) อุปสมบท ณ วัดจุมพลสุทธาวาส จ.สุรินทร์ ในปีพ.ศ.๒๔๕๓ ได้พากเพียรศึกษาและปฏิบัติกรรมฐานอย่างเคร่งครัด จนล่วงเข้าพรรษาที่ ๖ จึงหันมาศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดสุปัฏนาราม จ.อุบลราชธานี จนสอบได้นักธรรมตรีเป็นรูปแรกของจ.อุบลราชธานี และได้ศึกษาไวยากรณ์บาลีจนแตกฉาน สามารถแปลพระธรรมบทได้ ในเวลาต่อมาหลวงปู่ดูลย์มีโอกาสได้พบและฟังธรรมจากพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต แล้วเกิดความเลื่อมใสศรัทธา หยุดการศึกษาพระปริยัติแล้วออกธุดงค์ตามพระอาจารย์มั่นไปในสถานที่ต่างๆหลายแห่ง ได้เที่ยวธุดงค์หาความวิเวกตามป่าเขา เป็นระยะเวลาถึง ๑๙ ปี
ต่อมาสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส) เจ้าคณะมณฑลนครราชสีมาในขณะนั้น ได้ขอให้หลวงปู่ดูลย์กลับไปบูรณะวัดบูรพาราม ที่จ.สุรินทร์บ้านเกิดของท่านใในปีพ.ศ.๒๔๗๖ หลวงปู่ดูลย์จึงจำต้องระงับกิจธุดงค์ แล้วกลับไปบูรณะวัดตามที่ได้รับมอบหมาย
หลวงปู่ดูลย์เน้นหนักไปทางการปฏิบัติภาวนามากกว่าการเทศนาสั่งสอน หลวงปู่ท่านไม่เทศน์เป็นกัณฑ์ หรือแสดงธรรมเป็นเรื่องยาวๆ และไม่เคยแสดงธรรมเทศนาในงานพิธีการใดเลยน เมื่อมีพระสงฆ์หรือญาติโยมเข้าไปกราบนมัสการของฟังธรรม หลวงปู่ก็จะแสดงหัวข้อธรรมสั้นๆ ธรรมเทศนาหรือโอวาทของหลวงปู่ดูลย์จึงค่อนข้างเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง โดยมากท่านจะเน้นย้ำในเรื่อง จิต และ การพิจารณาจิต ท่านมักสอนว่า หลักธรรมที่แท้จริงคือจิตของเราทุกคนนั่นแหละ
ตามคำบอกเล่า ด้านสุขภาพ หลวงปู่สุขภาพแข็งแรงอย่างยิ่ง ว่องไว แจ่มใส สงบเสงี่ยม เยือกเย็น วาจาของท่าน เสียงใหญ่แต่พูดเบา พูดน้อย แต่พูดจริงและพูดตรง ไม่พูดปลอบโยน ไม่พูดประชด ไม่พูดติดตลก ไม่พูดถึงความฝันหรือนิทานปรัมปรา มักพูดสั้นย่อ แต่ไม่มีผิดพลาด และแฝงความหมายไว้โดยสมบูรณ์ ด้านจิตใจ ท่านจะเบิกบานอยู่เสมอ ไม่หลงไหลไปตามเหตุการณ์ ไม่ถูกภาวะรอบข้างครอบงำ ไม่เคยแสดงความอึดอัด หงุดหงิด หรือรำคาญใจ เรียกว่าท่านอยู่โดยปราศจากทุกข์
ในด้านสมณศักดิ์พัดยศของหลวงปู่ดูลย์ มีดังนี้
ได้รับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชแต่งให้ดำรงสมณศักดิ์พัดยศ เป็นพระครูประทวนสมณศักดิ์ ที่ พระครูดูลย์ อตุโล
๑ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๙ รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พัดยศ เป็นพระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูรัตนากรวิสุทธิ์
๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๐๔ รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พัดยศขึ้น เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญยก เจ้าคณะจังหวัด ที่ พระรัตนากรวิสุทธิ์ วินยานุยุตต์ ธรรมิกคณิสสร
๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๒ รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พัดยศขึ้น เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชวุฒาจารย์ ศาสนภารธุราทร ยติคณิสสร บวรสังฆราม คามวาสี
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ได้ละสังขาร มรณภาพด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๒๖ สิริรวมอายุได้ ๙๖ ปี ๒๖ วัน พรรษา ๗๔
🌏 เฟสบุ๊คและเว็บไซต์
➡️ เว็บไซต์ ""
กลุ่ม "ลป.ดูลย์ อตุโล" มีจำนวน ๑๒ เล่ม