คุณสุชีพ ปุญญานุภาพ เกิดเมื่อวันที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๐ ที่ต.บางไทรป่า อ.บางปลา (ปัจจุบันคืออ.บางเลน) จ.นครปฐม แต่เดิมท่านชื่อว่า บุญรอด สงวนเชื้อ พ่อแม่ท่านตั้งชื่อนี้ให้ตามความที่ว่า ท่านมีพี่น้องทั้งหมด ๑๒ คน แต่ทั้งหมดเสียชีวิตลงตั้งแต่วัยเยา เหลือท่านเพียงคนเดียว โดยภายหลังที่ชื่อว่า สุชีพ นั้นตั้งตามฉายาสงฆ์ ซึ่งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) พระอุปัชฌาย์ตั้งให้ว่า สุชีโว (แปลว่า ผู้มีชีวิตที่ดี)
เมื่อราวอายุได้ ๑๓ ปี หลังจากเรียนจบชั้นประถมปีที่ ๕ ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดสัมปทวน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ท่านหมั่นศึกษาจนสอบได้นักธรรมและภาษาบาลี เปรียญธรรม ๗ ประโยคตั้งแต่ตอนยังเป็นสามเณร ต่อมาในปีพ.ศ.๒๔๘๐ ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดกันมาตุยาราม ได้รับฉายาว่า สุชีโว หลังอุปสมบทได้ ๒ พรรษา ท่านก็สอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค
นอกจากความรู้ด้านพุทธศาสนาและภาษาบาลีอันแตกฉานแล้ว ท่านยังมีความชำนาญด้านอื่นๆ เช่น ภาษาอังกฤษ โหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ ภาษาสันสกฤต ภาษาปรากฤต โดยท่านหมั่นศึกษาวิชาในหลากหลายสาขาจากตำราทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ทำให้ท่านเป็นภิกษุหนุ่มผู้มีความรู้ในวิชาการสมัยใหม่ มีโลกทัศน์กว้างไกล และมีการเทศนาธรรมแนวใหม่ที่ทันสมัย เป็นที่นิยมชมชอบในหมู่พุทธศาสนิกชน อีกทั้งยังเป็นพระภิกษุรูปแรกที่บรรยายธรรมเป็นภาษาอังกฤษ ท่านได้เริ่มประยุกต์พระพุทธศาสนาให้เข้ากับสัมคมร่วมสมัย และถ่ายทอดวิชาต่างๆแก่ภิกษุสามเณรที่วัดมาตุยาราม ทำให้ต่อมาพระเถรานุเถระ(คณะธรรมยุต)ทราบเรื่อง และสนับสนุนแนวทางของสุชีโวภิกขุ จนกระทั่งจัดตั้งขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกในประเทศไทย ใช้ชื่อว่า สภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย ในปีพ.ศ.๒๔๘๘ ท่านได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการสภาการศึกษามหามกุฏฯ เป็นรูปแรก และเป็นผู้วางรากฐานด้านวิชาการให้กับมหาวิทยาลัยเป็นเวลา ๕ ปี
ผลงานโดดเด่นของท่านชิ้นหนึ่งคือ การย่อความพระไตรปิฎกจำนวน ๔๕ เล่ม ให้เหลือเพียง ๕ เล่ม โดยใช้ชื่อว่า พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน ซึ่งทำให้ง่ายและสะดวกในการศึกษาพระธรรม และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการศึกษาพระไตรปิฎกและพุทธศาสนา
นอกจากนั้น ท่านยังเป็นผู้ริเริ่มงานวรรณกรรม โดยแต่งนวนิยายอิงหลักธรรม เช่น ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ที่เล่าเรื่องรางขององคุลีมาลกับพระพุทธเจ้า ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือธรรมจักษุ ปีพ.ศ.๒๔๙๔ และได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ต่อมาท่านประพันธ์เรื่อง กองทัพธรรม เป็นเรื่องราวพระสารีบุตรกับพระธรรมเสนาบดี และ ลุ่มน้ำนัมมทา เชิงหิมพานต์ และ นันทะ-ปชาบดี
สุชีโวภิกขุ ขณะที่เป็นภิกษุสงฆ์ ได้สร้างผลงานไว้มากมาย มีชื่อเสียงโด่งดังไปในวงกว้าง ยากที่จะหาใครเทียบได้ในยุคนั้น ท่านอยู่ในสมณเพศจนได้ตำแหน่ง พระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ในราชทินนามที่ พระศรีวิสุทธิญาณ แต่ครั้งเมื่อท่านมีอายุได้ ๓๕ ปี ในปีพ.ศ.๒๔๙๕ ท่านได้ลาสิกขาสู่เพศฆราวาส มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากร้องไห้ด้วยความเสียดาย จากนั้นท่านได้เช่าห้องพักที่ถนนข้าวสาร บางลำภู ก่อนที่จะย้ายไปปลูกบ้านบริเวณถนนสุขุมวิท แต่ถึงท่านจะเป็นฆราวาส ท่านก็ยังได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจ รวมถึงเป็นอาจารย์สอนและที่ปรึกษาในสภาการศึึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย และในมหาวิทยาลัยต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
อ.สุชีพ ถือเป็นนักปราชญ์ผู้สุภาพอ่อนโยน ได้รับการยกย่องจากศจ.สัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานองคมนตรีและประธานองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกว่าเป็น "พระไตรปิฎกเคลื่อนที่" เพราะท่านสามารถอธิบายและตอบคำถามทางพระพุทธศาสนา หรือ หลักพุทธธรรม ได้อย่างละเอียด พร้อมอ้างอิงที่มาในพระไตรปิฎกได้อย่างแม่นยำ
อ.สุชีะถึงแก่กรรมในวันที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๓ สิริรวมอายุ ๘๓ ปี ๒๑ วัน
กลุ่ม "อ.สุชีพ ปุญญานุภาพ" มีจำนวน ๒๒ เล่ม
หมายเหตุ : สุชีโว ภิกขุ คือ ฉายาขณะอ.สุชีพเป็นสงฆ์