1. พัฒนาการทางเพศและการปรับตัวเมื่อเขาสูวัยรุน
วัยรุนจะมีการเปลี่ยนแปลงทางรางกายอยางรวดเร็ว และมีพัฒนาการทางเพศควบคู
กันไปดวย โดยเพศชายและเพศหญิงจะมีความแตกตางกัน


1.1 การเปลี่ยนแปลงทางรางกายของเพศหญิง  การเขาสูชวงวัยรุนของเด็กหญิงจะเกิดขึ้นเร็ว

กวาเด็กชาย คือ จะเริ่มขึ้นเมื่ออายุประมาณ 11-13 ป ตอมใตสมองจะผลิตฮอรโมนที่ไปกระตุนการเจริญเติบโต และกระตุนการทํางานของรังไขใหสรางเซลลสืบพันธุและผลิตฮอรโมนเพศหญิง ในชวงนี้

วัยรุนหญิงจะมีการเจริญเติบโตอยางรวดเร็ว สวนสูงและนําหนักเพิ่มมากขึ้น อวัยวะเพศโตขึ้น มีขนขึ้นบริเวณหัวเหนาและรักแร เอวคอด สะโพกผายออก เตานมโตขึ้น อาจมีสิวขึ้นตามใบหนา สวนมดลูก รังไข และอวัยวะที่เกี่ยวของ เจริญเติบโตขึ้น เริ่มมีประจําเดือน ซึ่งลักษณะการมีประจําเดือนในเพศหญิงจะเปนการ

บงบอกวา วัยรุนหญิงไดบรรลุวุฒิภาวะทางเพศแลว และสามารถตั้งครรภได
       การมีประจําเดือน (menstruation) เปนปรากฏการณตามธรรมชาติที่เกิดในเพศหญิงเมื่อยางเขาสูวัยรุน โดยรังไขจะสรางฮอรโมนและผลิตไข ปกติไขจะเจริญเติบโตและสุกเดือนละ 1 ฟอง สลับกันระหวางรังไขซายและขวา เมื่อไขสุกจะหลุดออกจากรังไขแลวถูกพัดพาเขาไปในทอรังไขหรือปกมดลูก เพื่อรอรับการผสมจากตัวอสุจิของเพศชาย

      ขอควรปฏิบัติขณะมีประจําเดือน คือ ใชผาอนามัยอยางถูกวิธี และลางมือใหสะอาดทุกครั้ง นอกจากนี้ขณะมีประเดือน บางคนมีอาการบางอยางดังกลาวขางตน และอาจมีการปวดทองนอยเพิ่มดวย ซึ่งเปนอาการปกติที่จะหายไปเองเมื่อประจําเดือนหยุด หากมีอาการผิดปกติที่รุนแรง เชน ปวดทองมากขณะมีประจําเดือน มีประจําเดือนนานเกิน 7 วัน หรือประจําเดือนมาคลาดเคลื่อนจากปกติมาก ควรปรึกษาแพทยโดยเฉพาะสูตินรีแพทยผาอนามัยควรเปลี่ยนบอย ๆ อยางนอยวันละ 2-3 ครั้ง และทุกครั้งหลังอาบน้ำหรือหลังถายอุจจาระ รักษาความสะอาดของรางกายและเสื้อผาที่สวมใส ไมใชเสื้อผารวมกับผูอื่น ออกกําลังกายใหนอยลงกวาปกติ พักผอนใหเพียงพอ ทําจิตใจใหราเริงแจมใส



1.2 การเปลี่ยนแปลงทางรางกายของเพศชาย  เด็กชายจะเริ่มเขาสูวัยรุนเมื่ออายุประมาณ 13-15 ป ตอมใตสมองจะผลิตฮอรโมนที่ไปกระตุนใหรางกายเจริญเติบโต และกระตุนใหอัณฑะผลิตเซลลสืบพันธุและฮอรโมนเพศชายมีการเปลี่ยนแปลงของรางกายที่เห็นไดชัดโดยเฉพาะความสูงและน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น แขนขายาว

เกงกางไหลกวางออก กระดูกและกลามเนื้อแข็งแรงขึ้นและมีกําลังมากขึ้น เสียงแตก นมแตกพานมีหนวดเครามีขนขึ้นที่หนาแขง รักแร และบริเวณอวัยวะเพศ บางคนอาจมีสิวขึ้นบริเวณใบหนาหนาอก หรือหลัง อวัยวะเพศโตขึ้นและแข็งตัวเมื่อมีความรูสึกทางเพศหรือถูกสัมผัส และมีการหลั่งน้ำอสุจิหรือน้ำกามออกมาในขณะหลับ (ฝนเปยก) ซึ่งเปนอาการที่บงบอกวาไดบรรลุวุฒิภาวะทางเพศแลว และยังหมายถึงการมีความสามารถที่จะทําใหเพศหญิงเกิดการตั้งครรภไดอีกดวย
       การฝนเปยก (wet dream) เปนปรากฏการณตามธรรมชาติที่เกิดในเพศชายกลาวคือในดานรางกายลูกอัณฑะจะทําหนาที่สรางฮอรโมนเพศชายและตัวอสุจิ โดยจะเก็บสะสมไวที่ถุงเก็บน้ำอสุจิ ในดานจิตใจและอารมณ ฮอรโมนเพศจะมีผลทําใหวัยรุนเริ่มมีความรูสึกทางเพศ และสนใจเพศตรงขาม เมื่อรางกายมีการผลิตน้ำอสุจิเก็บไวมากขึ้น ประกอบกับจิตใจและอารมณมีการเปลี่ยนแปลงดังกลาว จะมีผลทําใหเกิดความตึงเครียดของประสาท ในขณะหลับอาจฝน จินตนาการเกี่ยวกับเรื่องเพศหรือเรื่องที่หวาดเสียว สงผลใหถุงเก็บน้ำอสุจิรัดตัวทําใหตัวอสุจิและน้ำหลอเลี้ยงถูกบีบเขาสูทอปสสาวะและขับเคลื่อนออกมาภายนอกโดยอัตโนมัติ ซึ่งเรียกอาการที่เกิดขึ้นนี้วา ฝนเปยก ซึ่งนับวาเปนการผอนคลายความตึงเครียดทางจิตใจและอารมณทางเพศตามธรรมชาติ จึงไมถือวาผิดปกติแตอยางใด


1.3 ตอมไรทอที่มีอิทธิพลตอการควบคุมพัฒนาการทางเพศ  ตอมไรทอที่มีอิทธิพลตอการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุนที่สําคัญ ไดแกตอมใตสมองหรือตอมพิทูอิทารี (Pituitary gland) ตอมเพศ (Gonads)

ตอมไทรอยด (thyroid gland)และตอมหมวกไต (adrenal or suprarenal glands) ซึ่งตอมไรทอแตละตอม

สงผลตอการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุน
1.4 อารมณทางเพศ (sexuality) หรือความตองการทางเพศ (sexusl desire)  ในที่นี้จะหมายถึง ความรูสึกของบุคคลที่มีผลมาจากสิ่งเราภายในหรือสิ่งเราภายนอกที่เปนปจจัยที่มากระตุนใหเกิดความรูสึกทางเพศขึ้น โดยมีระดับความแตกตางมากนอยตางกัน ขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมอารมณและพื้นฐานทางดานวุฒิภาวะของแตละบุคคลจากความหมายดังกลาวจะเห็นไดวา สิ่งเราภายในและสิ่งเราภายนอกเปนปจจัยสําคัญที่จะสงผลใหอารมณและอารมณทางเพศเกิดขึ้น   โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธจนกวาจะไดทําการสมรสหรือยูในชวงวัยที่เหมาะสมอารมณทางเพศที่เกิดขึ้นในชวงการเขาสูวัยรุน เปนพัฒนาการอยางหนึ่งที่แสดงใหเห็นถึงความพรอมของรางกายที่จะสืบทอดและดํารงไวซึ่งเผาพันธุ


การจัดการกับอารมณทางเพศของวัยรุนมีแนวทางการปฏิบัติที่สําคัญอยู 2 ลักษณะ ประกอบดวย แนวทางการปฏิบัติเพื่อระงับอารมณทางเพศ และแนวทางการปฏิบัติเพื่อผอนคลายความตองการทางเพศ
      แนวทางการปฏิบัติเพื่อระงับอารมณทางเพศแนวทางการปฏิบัติเพื่อระงับอารมณทางเพศ หมายถึง ความพยายามในการที่จะหลีกเลี่ยงตอสิ่งเราภายนอกที่มากระตุนใหอารมณทางเพศมีเพิ่มมากขึ้น แนวทางในการปฏิบัติ มีดังนี้หลีกเลี่ยงการดูหรืออานขอความจากสื่อตาง ๆ ที่มีภาพหรือขอความที่สามารถยั่วยุใหเกิดอารมณทางเพศ เชน การดูหนังสือ หรือภาพยนตร หรือสื่ออินเทอรเน็ตที่มีภาพหรือขอความที่แสดงออกทางเพศ ซึ่งเปนการยั่วยุใหเกิดอารมณทางเพศหลีกเลี่ยงการปฏิบัติหรือการทําตัวใหวางหรือปลอยตัวใหมีความสบายเกินไปเชน การนอนเลน ๆ โดยไมหลับ การนั่งฝนกลางวันหรือนั่งจิตนาการที่เกี่ยวของกับเรื่องเพศ การอยูในสภาพของบรรยากาศที่มีแสงสีเสียงที่กอหรือปลุกเราใหเกิดอารมณทางเพศอยางไรก็ตาม แมในทางจิตวิทยาและในทางการแพทยจะมีความเห็นที่สอดคลองกันวา การบําบัดความใครดวยตนเองโดยทั่วไปจะไมกอใหเกิดความผิดปกติทั้งทางรางกายและจิตใจ แตก็ไมควรปฏิบัติบอยจนเกิดความหมกมุนตอเรื่องดังกลาว ซึ่งจะกอใหเกิดเปนลักษณะนิสัยซึ่งอาจสงผลลบตอบุคลิกภาพและความเขมแข็งทางดานการควบคุมอารมณที่ดีได ดังนั้น หากมีความจําเปนและไมสามารถที่จะหลีกเลี่ยงการปฏิบัติในเรื่องดังกลาวได ควรระลึกและคํานึงถึงหลักการปฏิบัติที่เกี่ยวของใน 3 ลักษณะที่สําคัญ คือ ตองคํานึงในหลักของความสะอาดเปนพื้นฐานตองคํานึงถึงสถานที่ในการปฏิบัติ คือ ตองมีความเปนสวนตัว ไมประเจิดประเจอและตองไมปฏิบัติดวยวิธีการที่รุนแรง ซึ่งอาจกอใหเกิดบาดแผลหรือมีการอักเสบหรือติดเชื้อได


1.5 การปรับตัวทางเพศเมื่อเขาสูวัยรุน  เมื่อเขาสูวัยรุน เพื่อชวยใหสามารถปรับตัวไดอยางถูกตองและเหมาะสมกับเพศของตนดียิ่งขึ้น วัยรุนควรมีแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้

        1) ศึกษาใหเขาใจถึงการเปลี่ยนแปลงทางเพศของรางกายและจิตใจเมื่อยางเขาสูวัยรุน จะทําใหเขาใจและสามารถปฏิบัติตนไดอยางถูกตอง

       2) ปรับตัวเขากับเพื่อนตางเพศใหเหมาะสม วัยรุนเปนวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเพศหลายอยางทั้งชายและหญิงเริ่มมีความสัมพันธกันทางสังคมมากขึ้น ทําใหชายและหญิงตางมีความสนใจในเพื่อนตางเพศมากขึ้น การคบเพื่อนตางเพศไมใชสิ่งเสียหาย แตตองปฏิบัติตนอยูในขอบเขตที่เหมาะสมและรูจักมารยาทที่ควรปฏิบัติตอกัน ดังนี้ฝายชาย ควรใหเกียรติฝายหญิง ไมเกี้ยวพาราสีหรือฉวยโอกาส มีความบริสุทธิ์ใจ และควรใหความชวยเหลือฝายหญิง เชน ชวยถือของ สละที่นั่งให ไมแสดงกิริยาวาจาที่ไมเหมาะสม เชน พูดจาหยาบโลน หรือใชกําลังรุนแรง  เป็นต้น ฝายหญิง ควรวางตัวใหเหมาะสม สงวนตัว ไมอยูในที่รโหฐานกับเพศตรงขามตามลําพัง ไมไปในที่เปลี่ยว แตงตัวสุภาพ ไมแสดงกิริยาวาจาที่ไมเหมาะสม เชน สงเสียงดัง หรือกลาวคําผรุสวาท เปนตน แสดงความมีน้ําใจและใหเกียรติฝายชาย

        3) ควรรีบปรึกษาผูใหญเมื่อมีปญหาหรือมีอุปสรรคใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศ วัยรุนสวนมากมักจะมีความวิตกกังวลในเรื่องตาง ๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางดานรางกายและจิตใจ เมื่อมีปญหาเกิดขึ้นควรจะปรึกษาพอแม ครู ญาติพี่นอง และผูใหญที่ไววางใจ เพราะทานมีประสบการณมากกวาเรา ยอมจะชวยแนะแนวทางปฏิบัติที่ถูกตองใหแกเราได

       4) ปฏิบัติตามขนมธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม โดยการเคารพเชื่อฟงผูใหญหมั่นศึกษาเลาเรียน ไมประพฤติไปในทางชูสาวกอนเวลาอันเหมาะสม การยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามจะชวยเตือนใจใหเราปฏิบัติในทางที่ถูก



2. วัยรุนกับการคบเพื่อน
       วัยรุนเปนวัยที่ใหความสําคัญกับเพื่อนและตองการใหตนเองเปนที่นิยมชมชอบในกลุมเพื่อน การมีเพื่อนที่ดีจะทําใหวัยรุนมีผูที่คอยรวมทุกขรวมสุข ปรับทุกข ชี้แนะแนวทางในการแกไขปญหาอยางถูกตอง

แตถาวัยรุนคบเพื่อนที่ไมดีก็จะชักนําไปสูทางที่ไมดี วัยรุนจึงควรรูจักเลือกคบเพื่อนที่ดีและสรางความสัมพันธที่ดีกับเพื่อน ซึ่งจะชวยใหสามารถปรับตัวใหเขากับสังคมไดตอไป
      2.1 หลักการคบเพื่อน
       ควรมีหลักปฏิบัติในการคบเพื่อน คือวัยรุนควรพิจารณากลุมเพื่อนที่คบวามีความประพฤติเปนอยางไร ถาเพื่อนคนใดประพฤติตนในทางไมดี ก็ควรแนะนําและชักจูงใหเขาประพฤติในทางที่ดี รูจักปฏิเสธและไมหลงเชื่อคําชักชวนหรือปฏิบัติตามเพื่อนที่มีความประพฤติไมดีเชน ชวนใหหนีเรียนเที่ยวกลางคืน เลนการพนัน เสพสารเสพติด เปนตน

    2.2 หลักทั่วไปในการผูกมิตร หลักทั่วไปในการผูกมิตร มีแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้
1) รูจักยอมรับคําติชม

2) รูจักอารมณขัน มองโลกในแงดี และควรเปนคนยิ้มงาย

3) รูจักออนนอมถอมตน ไมคุยโออวดความสามารถของตน ไมพูดจาดูถูกหรือยกตนขมผูอื่น

4) รูจักรับผิดชอบตอหนาที่ เชน หนาที่สําคัญของนักเรียนคือเรียน

5) รูจักประนีประนอม เมื่อเกิดปญหาหรืออุปสรรคขึ้น

6) รูจักเอาใจเขามาใสใจเรา

7) รูจักใหกําลังใจคนอื่น เชน ยกยองใหเกียรติ ใหกําลังใจผูอื่นดวยการชมเชย

8) รูจักไววางใจคนอื่น คือ รูจักไวเนื้อเชื่อใจคนอื่นบางตามสมควร

9) รูจักรวมมือกับคนอื่น
10) รูจักเคารพสิทธิของผูอื่น เชน ไมควรใชทรัพยสิ่งของของผูอื่นโดย


2.3 หลักในการสรางเสริมความสัมพันธอันดีกับกลุมเพื่อน  มีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
1) รูจักตนเองและรูจักคนอื่น วัยรุนตองมีความเขาใจในความตองการของตนและของเพื่อนยอมรับสภาพความเปนจริงของตน และยอมรับความแตกตางในตัวเพื่อนกับตัวเอง

2) มีมนุษยสัมพันธที่ดี รูจักพูด รูจักฟง เรียนรูที่จะพูดเรื่องตาง ๆ ในจังหวัดที่เหมาะสม เปดโอกาสใหเพื่อนไดแสดงความคิดเห็น และรับฟงความคิดเห็นของเพื่อน

3) การมองโลก ใหมองในแงที่เปนจริง ไมมองในแงดีจนเกินไป อันอาจถูกหลอกลวงและคดโกงได แตไมมองคนในแงรายจนเกินไป อันจะทําใหเปนคนใจแคบ ไมรูจักการใหอภัย
4) มีน้ําใจเปนนักกีฬา ยอมรับผิดเมื่อรูวาตนผิด