1. การออกกําลังกายแบบเกร็งกล้ามเนื้ออยูกับที่ ไ่มมีการเคลื่อนไหว (Isometric Exercise) ซึ่งจะ ไม่มีการเคลื่อนที่ หรือมีการเคลื่อนไหวของร่างกาย อาทิ การบีบกําวัตถุ การยืนต้นเสา หรือกําแพงเหมาะกับผู้ที่ ทํางานนั่งโต๊ะเป็นเวลานานจนไม่มีเวลาออกกําลังกาย แต่ไม่เหมาะสมกับรายที่เป็นโรคหัวใจ หรือโรคความดัน โลหิตสูง เป็นการออกกําลังกายที่ไม่ได้ช่วยส่งเสริมสมรรถภาพทางกายได้อย่างครบถ้วน
2. การออกกําลังกายแบบมีการ ยืด – หดตัวของกล้ามเนื้อ (Isotonic Exercise)จะมีการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ขณะที่ออกกําลังกาย อาทิ การวิดพื้น การยกน้ําหนัก การดึงขอ เหมาะกับผู้ที่มีความ ต้องการสร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนของร่างกาย อาทิ นักเพาะกาย หรือนักยกน้ําหนัก
3. การออกกําลังกายแบบให้กล้ามเนื้อทํางานเป็นไปอยางสม่ําเสมอ ตลอดการเคลื่อนไหว (Isokinetic Exercise) อาทิ การถีบจักรยานอยูกับที่ การก้าวขึ้นลงแบบขั้นบันได หรือการใช้เครื่องมือทาง ชีวกลศาสตร์ เหมาะกับการใช้ทดสอบสมรรถภาพทางกายของนักกีฬา หรือผู้ที่มีความสมบูรณทางร่างกายเป็น ส่วนใหญ่
4. การออกกําลังกายแบบไม่ต้องใช้ออกซิเจนในระหว่างที่มีการเคลื่อนไหว (Anaerobic Exercise) อาทิ วิ่ง 100 เมตร กระโดดสูง ปฏิบัติกันในหมู่นักกีฬาที่ทําการฝึกซ้อม หรือแข่งขัน จึงไม่เหมาะกับบุคคลทั่วไป
5. การออกกําลังกายแบบใช้ออกซิเจน (Aerobic Exercise)คือ จะเป็นลักษณะที่มีการหายใจเขา – ออก ในระหว่างที่มีการเคลื่อนไหว อาทิ การวิ่งจ็อกกิ้ง การเดินเร็ว หรือการว่ายน้ํา นิยมกันมากในหมู่ของนักออก กําลังกาย นักวิทยาศาสตรการกีฬา ตลอดจนวงการแพทย ์สามารถบงบอกถึงสมรรถภาพร่างกายของบุคคลนั้น ๆได้เป็นอย่างดี