เรื่องที่ 4 แนวทางการป้องกันและการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากหมอกควัน
4.1 การเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การเกิดหมอกควัน หมอกควัน เป็นปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีและทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน แพร่ น่านหรือจังหวัดเชียงราย สาเหตุหลักเกิดจากไฟป่า ฝุ่นละอองจากท้องถนน ควันจาก ภาคอุตสาหกรรม และเขม่าจากน้ำมันดีเซล ทำให้คุณภาพอากาศแย่ลง ประกอบกับสภาพภูมิ ประเทศซึ่งมีภูเขาล้อมรอบทำให้มลพิษต่าง ๆ ถูกกักไว้และแผ่ปกคลุมทั่วเมือง จากผลวิจัยพบ ปริมาณผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจในจังหวัดทางภาคเหนือโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่และ เชียงราย เพิ่มขึ้นทุกปีในการเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์หมอกควันที่อาจจะเกิดขึ้น นั้น สามารถปฏิบัติได้ดังนี้
4.1.1 ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกัน ลด ละ เลิก หรือหลีกเลี่ยงการเผาหรือการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นควันเพิ่มขึ้น
4.1.2 หากเรามีความรู้เรื่องปัญหาหมอกควัน ก็ควรให้ความรู้แก่ผู้อื่นว่าการก่อ มลพิษทางอากาศทุกชนิดโดยเฉพาะการเผา นอกจากจะบั่นทอนสุขภาพตัวเองแล้ว ยังบั่นทอน สุขภาพของผู้อื่นอีกด้วย นอกจากนี้การเผายังผิดกฎหมายอาญา มาตรา 220 อาจถูกปรับ ถึง 14,000 บาท จ าคุกถึง 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับได้
4.1.3 ทุกคนมีส่วนร่วมในการเก็บใบไม้กิ่งไม้เพื่อทำปุ๋ยหมักแทนการเผา
4.1.4 พยายามลดการสร้างหรือเพิ่มจำนวนขยะ เมื่อมีขยะในครัวเรือนอาจใช้วิธี แยกขยะอย่างถูกวิธี เพื่อลดปริมาณขยะที่มักเป็นสาเหตุของการเผา
4.1.5 หากเราเป็นเจ้าของที่ดินควรดูแลที่ดินของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เช่น มีการ แผ้วถางและปลูกต้นไม้ เพื่อป้องกันมิให้มีการเผาเกิดขึ้น
4.2 การปฏิบัติตนขณะเกิดหมอกควัน
4.2.1 การดูแลตนเอง
1) ติดตามสถานการณ์มลพิษและหมอกควันอยู่เสมอ ดูสุขภาพและหลีกเลี่ยง สถานที่มีควันไฟหรือหมอกควัน
2) รักษาความสะอาดโดยใช้น้ำสะอาดกลั้วคอ แล้วบ้วนทิ้งวันละ 3-4 ครั้ง
3) งดเว้นการสูบบุหรี่และงดกิจกรรมการเผาที่จะเพิ่มปัญหาควันมากขึ้น
4) หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายและการทำงานหลักที่ต้องออกแรงมากใน บริเวณหมอกควัน
5) กรณีที่จำเป็นต้องอยู่ในบริเวณที่มีหมอกควัน ควรสวมแว่นตา เพื่อป้องกัน การระคายเคืองตา และควรใช้หน้ากากอนามัยปิดปากและจมูก หรือใช้ผ้าที่ทำจากฝ้ายหรือลินิน มาทบกันหลายชั้นคาดปากและจมูกแทนหน้ากาก และควรใช้น้ำพรมที่ผ้าดังกล่าวให้เปียกหมาด ๆ เพื่อช่วยซับกรองและป้องกันฝุ่นละอองได้ดีขึ้น และควรเปลี่ยนใหม่หากหน้ากากสกปรกหรือเริ่ม รู้สึกอึดอัดหายใจไม่สะดวก
6) ส าหรับผู้ใช้รถใช้ถนนให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ไม่ขับรถเร็ว เปิดไฟหน้ารถหรือไฟตัดหมอก จะช่วยให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า ให้มากกว่าปกติ ไม่แซงหรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน หากทัศนวิสัยแย่มากจนมองไม่เห็นเส้นทาง ให้จอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย
4.2.2 การดูแลผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง
1) ให้การดูแลอย่างใกล้ชิดและหมั่นสังเกตอาการของผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก คนชรา ผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ และโรคเกี่ยวกับหัวใจและ หลอดเลือด หากพบอาการผิดปกติเช่น หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ควรรีบพบแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านเพื่อรับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที
2) ให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยโรคปอด หอบหืด โรคหัวใจ เด็ก หญิงตั้งครรภ์และ คนชรา ให้พักผ่อนอยู่ในบ้าน รวมทั้งควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม
4.2.3 การดูแลบ้านเรือน
1) หากจำเป็นต้องอยู่ในสถานที่ที่มีฝุ่นละอองติดต่อกันยาวนาน เกินกว่า สัปดาห์ หรือเป็นเดือน ควรเตรียมความพร้อมด้านการกรองอากาศในที่อยู่อาศัย เช่น ติดระบบ กรองอากาศในบ้าน ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบของฝุ่นต่อร่างกายได้ โดยเลือกใช้ระบบกรองอากาศที่ เหมาะสม และสามารถถอดออกมาล้างได้และควรเปลี่ยนหรือหมั่นล้างระบบกรองอากาศเป็น ประจำในระยะยาว
2) หากที่พักอาศัยไม่มีระบบระบายอากาศหรือระบบปรับอากาศ ต้องปิด ประตูหน้าต่างไม่ให้ควันไฟหรือหมอกควันเข้ามาในอาคาร
3) บริเวณพื้นที่ว่างเปล่าบริเวณบ้านควรปลูกพืชคลุมหน้าดินไว้ เพื่อลด โอกาสที่ฝุ่นละอองจะลอยฟุ้งขึ้นมาในอากาศได้
4) การเปิดพัดลมในอาคารบ้านพัก ควรเป่าลงกระทบผิวน้ าก่อน จะช่วยลด ปริมาณฝุ่นละอองในอากาศได้
5) งดการรองรับน้ำฝนไว้ใช้อุปโภคชั่วคราว แต่ถ้าหากจำเป็นต้องรองน้ำ ควร รองน้ำไว้ในช่วงเวลาที่มั่นใจว่าน้ำฝนชะล้างสารมลพิษทางอากาศ ในบรรยากาศหมดไปแล้ว
4.2.4 การดูแลชุมชน
1) ช่วยกันดูแล ไม่ให้มีการเผาวัสดุทุกชนิดและการประกอบกิจกรรมใด ๆ ที่ ก่อให้เกิดหมอกควันในพื้นที่ เช่น เผาขยะมูลฝอย เผาหญ้า เผาตอซังข้าว เป็นต้น รวมทั้งงดการเผา วัสดุ และหญ้าแห้งในเขตชุมชน ริมข้างทาง ใกล้แนวชายป่าและในป่า เพราะจะส่งผลให้ สถานการณ์หมอกควันรุนแรงมากขึ้น
2) ดับเครื่องยนต์ของยานพาหนะทุกชนิด ทุกครั้งเมื่อจอด
4.3 การปฏิบัติตนหลังเกิดหมอกควัน
4.3.1 ติดตามรับฟังข่าวสารและข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความ เข้าใจและมีการปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง
4.3.2 เมื่อมีอาการผิดปกติหลังจากสูดดมหมอกควัน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที