เรื่องที่ 4 แนวทางและการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากดินโคลนถล่มในการป้องกันภัยธรรมชาติจากการเกิดดินโคลนถล่มนั้นนอกเหนือจากเป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบโดยตรงคือหน่วยงานของรัฐแล้วยังมีส่วนของภาคประชาชนที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการหาแนวทางป้องกันภัยแผ่นดินถล่มหรือดินโคลนถล่ม ดังนี้
4.1 แนวทางการป้องกันการเกิดเหตุดินโคลนถล่ม
4.1.1 แนวทางการป้องกันการเกิดเหตุดินโคลนถล่มที่ดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐการป้องกันดินโคลนถล่มที่ดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐบาลในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นการดำเนินการป้องกันดินโคลนถล่มที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น เช่น การตัดภูเขาเพื่อสร้างถนนทำให้เกิดแนวดินข้างถนนที่ตัดผ่านเป็นลักษณะลาดชัน การสร้างแนวป้องกันต้องใช้งบประมาณมากแต่มีความจำเป็นเนื่องจากเป็นเส้นทางที่ใช้ในการคมนาคมจึงต้องมีแนวทางในการป้องกันปัญหาดินโคลนถล่ม สรุปได้ดังนี้
1) ลดแรงกระทำซึ่งเป็นเหตุให้มวลดินเกิดการเคลื่อนตัวโดยปรับความลาดชัน
2) เพิ่มกำลังให้มวลดิน เช่น ลดระดับน้ำใต้ดินและลดความชื้นของดิน เป็นต้น
3) ติดตั้งอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความต้านทานการเคลื่อนของมวลดิน เช่น กำแพง กันดินหรือการตอกเสาเข็ม
4) การป้องกันหน้าดินโดยการปลูกพืชคลุมดินหรือการพ่นคอนกรีต
4.1.2 แนวทางการป้องกันการเกิดเหตุแผ่นดินถล่มที่ดำเนินการโดยภาคประชาชนการป้องกันการเกิดดินโคลนถล่มที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาตินั้นนอกจากจะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงแล้วคนในชุมชนควรร่วมมือกันในการกำหนดแนวทางการป้องกันภัยพิบัติการเกิดดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยง สรุปได้ดังนี้
1) ร่วมกันดูแลรักษาและป้องกันไม่ให้มีการตัดต้นไม้ทำลายป่าในพื้นที่ป่าและบริเวณลำห้วยให้มีความอุดมสมบูรณ์
2) คนในชุมชนควรร่วมกันจัดสรรเขตพื้นที่ป่าเป็นเขตป่าอนุรักษ์และเขตป่าใช้ประโยชน์ออกจากกันเพื่อป้องกันการโค่นล้มต้นไม้
3) สำรวจบริเวณพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการเกิดดินโคลนถล่มโดยสังเกตลักษณะ พื้นที่ ได้แก่
- เป็นภูเขาหัวโล้น ทำให้ดินขาดรากไม้ยึดเหนี่ยวอาจเกิดการถล่มลงมาได้ง่าย
- มีชั้นดินหนาวางตัวอยู่ตามลาดภูเขาที่มีความลาดเอียงสูงหรือเป็นหน้าผา
- มีชั้นหินที่รองรับชั้นดินเป็นหินชนิดที่ผุง่าย
4) ทำลายหรือขนย้ายเศษกิ่งไม้ต้นไม้แห้งที่ถูกน้ำพัดมาสะสมขวางทางน้ำ
5) ควรทำการอพยพประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนกีดขวางทางน้ำขึ้นไปอยู่บนเนินหรือที่สูงชั่วคราวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเตือนภัยว่าจะเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน
6) จัดตั้งกลุ่มเครือข่ายเฝ้าระวังและแจ้งเหตุแผ่นดินถล่ม
7) จัดทำแผนการอพยพแผนการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยและควร ฝึกซ้อมตามแผนการอพยพในโอกาสที่เสี่ยงจะเกิดแผ่นดินถล่ม
4.2 การเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การเกิดดินโคลนถล่ม
4.2.1 ก่อนเกิดเหตุการณ์ดินโคลนถล่มในกรณีที่ตั้งบ้านเรือนหรือที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงผู้มีความเสี่ยงประสบเหตุ ดินโคลนถล่มควรปฏิบัติตน ดังนี้
1) สังเกตลักษณะบริเวณโดยรอบที่ตั้งของชุมชนและบริเวณที่เสี่ยงภัยจากการเกิดดินโคลนถล่ม
(1) อยู่ติดกับภูเขาและใกล้ลำห้วย
(2) มีร่องรอยดินไหลหรือดินเลื่อนบนภูเขา
(3) มีรอยแยกของพื้นดินบนภูเขา
(4) อยู่บนเนินหน้าหุบเขาและเคยมีโคลนถล่มลงมาบ้าง
(5) ถูกน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมบ่อย
(6) มีกองหินเนินทรายปนโคลนและต้นไม้ในห้วยหรือใกล้หมู่บ้าน
2) สังเกตและเฝ้าระวังน้ำและดิน
(1) มีฝนตกหนักถึงตกหนักมากตลอดทั้งวัน
(2) ปริมาณน้ำฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตรต่อวัน
(3) มีเสียงดังผิดปกติบนภูเขาและในลำห้วย เนื่องจากการถล่มและเลื่อนไหลของน้ำดินและต้นไม้
(4) ระดับน้ำในลำห้วยสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีน้ำไหลหลากล้นตลิ่ง
(5) สีของน้ำขุ่นข้น และเปลี่ยนเป็นสีดินของภูเขา
(6) มีเศษของต้นไม้ขนาดเล็กไหลมากับน้ำ
3) การเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ดินโคลนถล่ม
(1) ติดตามสถานการณ์และข่าวการพยากรณ์อากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงท้องถิ่น เสียงตามสายหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านอย่างใกล้ชิด
(2) จัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และอุปกรณ์ฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้เมื่อประสบเหตุ
(3) ซ้อมแผนการอพยพแผนการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยแผ่นดินถล่ม
(4) หากมีการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับเตือนภัยไว้ในพื้นที่เสี่ยงภัยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือผู้ที่มีความเสี่ยงประสบเหตุควรหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์แจ้งเตือนภัยให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
(5) หากสังเกตแล้วพบว่ามีความเสี่ยงในการเกิดดินโคลนถล่มควรทำการอพยพออกจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงหรืออยู่ในบริเวณที่ปลอดภัย
(6) แจ้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือผู้นำชุมชนให้ทราบโดยเร็วเพื่อแจ้งเตือนภัยให้ผู้ที่มีความเสี่ยงประสบเหตุรายอื่นๆได้ทราบอย่างทั่วถึงและเตรียมความพร้อมได้อย่างทันท่วงที
4.2.2 การปฏิบัติขณะเกิดดินโคลนถล่มผู้ประสบเหตุดินโคลนถล่มควรปฏิบัติตน ดังนี้
1) ตั้งสติแล้วรวบรวมอุปกรณ์ฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้เมื่อประสบเหตุ
2) ทำการอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงหรืออยู่ในบริเวณที่ปลอดภัย
3) แจ้งสถานการณ์เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องผู้นำชุมขนให้ทราบเพื่อแจ้งเหตุ และ เตรียมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามแผนการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยแผ่นดินถล่ม
4.2.3 การปฏิบัติหลังเกิดดินโคลนถล่มผู้ประสบเหตุดินโคลนถล่มควรปฏิบัติตน ดังนี้
1) ติดตามสถานการณ์และข่าวการพยากรณ์อากาศออกอากาศสถานีวิทยุกระจายเสียงท้องถิ่นเสียงตามสายหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
2) จัดเวรยามเพื่อเดินตรวจตาดูสถานการณ์รอบๆหมู่บ้านเพื่อสังเกตสิ่งผิดปกติ
3) ติดต่อขอรับความช่วยเหลือและฟื้นฟูจากบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง