ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศเดียวที่กำลังประสบภัยแล้งครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษหลายประเทศทั่วโลกก็กำลังต่อสู้กับวิกฤตขาดแคลนน้ำไฟป่าที่รุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเกิดภัยแล้ง
3.1 สถานการณ์ภัยแล้งในประเทศไทย สถานการณ์ภัยแล้งในปัจจุบันเป็นผลมาจากปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนหลายแห่งต่ำประกอบกับภาวะฝนทิ้งช่วงซึ่งในเดือนตุลาคม 2556 ถึงเดือนเมษายน 2557 มีจังหวัดที่ได้รับ
ผลกระทบและประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยภัยแล้ง ทั้งหมด 44 จังหวัด 311 อำเภอ 1,927 ตำบล 18,355 หมู่บ้าน แบ่งเป็นภาคเหนือ 13 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด ภาคกลาง 7 จังหวัด ภาคตะวันออก 7 จังหวัดและภาคใต้ 7 จังหวัด โดยปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดภาวะแล้งคือปริมาณฝน ที่ถึงแม้ว่าปริมาณฝนสะสมทั้งประเทศในปีพ.ศ. 2556 จะสูง กว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 14 แต่กลับพบว่ามีฝนที่ตกบริเวณพื้นที่รับน้ำของเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ค่อนข้างน้อยที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งรวมถึงน้อยกว่าปีพ.ศ. 2548 และ 2553 ที่ประเทศไทยเกิดภัยแล้งรุนแรง สำหรับในปีพ.ศ. 2558 มีพื้นที่ประสบภัยกว่า 20 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นส่วนใหญ่ เช่น จังหวัดนครสวรรค์ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ตาก น่าน ลพบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น ชัยภูมิ สกลนคร อ านาจเจริญ สุรินทร์ เป็นต้น เนื่องจากภัยแล้งนี้เกิดขึ้นช่วงกลางฤดูฝน คือตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม โดยรับอิทธิพลจากความแปรปรวนสภาพภูมิอากาศโลกจึงเรียกอีกนัยหนึ่งว่าเป็น “ภัยแล้งนอกฤดูกาล” ซึ่งภัยแล้งในลักษณะปัจจุบัน ทำให้ปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งประเทศต่ำกว่าค่าปกติราวร้อยละ 46 ปริมาณน้ำต้นทุนทั้งประเทศค่อนข้างต่ าอยู่ที่ราวร้อยละ 45 ของปริมาณความจุเขื่อนทั้งประเทศ
3.2 สถานการณ์การเกิดภัยแล้งในประเทศต่าง ๆ ในโลก เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงความแห้งแล้งที่เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น ประเทศต่างๆในโลกที่กำลังเผชิญความแห้งแล้งครั้งร้ายแรงซึ่งเป็นสถิติจากการรวบรวมของยูเอสเอทูเดย์ ได้แก่ บราซิล มลรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา แอฟริกาใต้และเกาหลีเหนือ ในรอบ 100 ปีประเทศยุโรปตอนใต้ เช่น สเปน และโปรตุเกส ก็ประสบกับปัญหาไฟป่าที่รุนแรงอย่างแสนสาหัสและนักวิทยาศาสตร์ยังคงคาดการณ์ว่าปัญหาดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปและอาจเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ปัญหาภัยแล้งในแอฟริกา กำลังกระทบกับชีวิตประชาชนในภูมิภาคกว่า 10 ล้านคน บางพื้นที่ต้องโยกย้ายจนต้องไปอาศัยรวมกันอยู่ในค่ายอพยพอย่างแออัดพื้นที่ของแอฟริกาตะวันออกกำลังประสบกับปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี ส่งผลให้ชีวิตของผู้คนกว่า 10 ล้านคนตกอยู่ความเสี่ยงโดยภัยแล้งกระทบโดยตรงกับพืชผลทางการเกษตร เกิดการขาดแคลนอาหารในบางพื้นที่ของเอธิโอเปีย เคนย่า ดิบูติ และโซมาเลียสถานการณ์ภัยแล้งในสหรัฐอเมริกาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาได้แผ่ขยายพื้นที่ไปในวงกว้างถือเป็นพื้นที่กว่าครึ่งของทวีป อเมริกาสหรัฐฯ เคยเผชิญหน้ากับภัยแล้งรุนแรงมาแล้วในช่วงปี ค.ศ. 1930 และ ค.ศ. 1950 อย่างไรก็ตามสถานการณ์ภัยแล้งของสหรัฐฯ รายงานประเมินความแห้งแล้งประจำเดือน แห่งนอร์ทคาโรไลน่าเปิดเผยว่าพื้นที่ร้อยละ 55 ของสหรัฐอเมริกาประสบภาวะแห้งแล้งรุนแรง นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานักภูมิศาสตร์ได้เปรียบเทียบความแห้งแล้งที่เกิดขึ้นใน สหรัฐฯ ปัจจุบันเทียบกับความแห้งแล้งที่เกิดขึ้นเมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา พบว่าภัยแล้งที่เกิดขึ้นในปีนี้ เกิดขึ้นเร็วผิดปกติเพราะเกิดเพียงแค่ช่วงเวลาไม่กี่เดือนซึ่งโดยปกติแล้วจะต้องใช้เวลาในการก่อตัวหลายฤดูกาลหรือหลายปี
3.3 สถิติการเกิดภัยแล้งในประเทศต่างๆ ของโลกความแห้งแล้งได้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของโลกรวมทั้งประเทศไทยและนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นบริเวณพื้นที่ที่เกิดและช่วงเวลาที่เกิดก็ยาวนานมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ภัย แล้งในประเทศจีนแม่น้ำฉางเจียงและแม่น้ำหวางเหอ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของประเทศมีระดับน้ำลดลงอย่างผิดปกติ ส่งผลให้ประเทศจีนหลายล้านคนขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคและยังมีอีกหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันนี้ดังตารางที่สรุปให้เห็นอย่างชัดเจน ดังนี้
สื่อต่างประเทศรายงานว่าอุณหภูมิความร้อนของโลกได้ทำลายสถิติครั้งใหม่โดยในการตรวจวัดรายเดือนพบว่าเดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดเท่าที่เคยมีการตรวจวัดมาอยู่ในปีพ.ศ.2558 นี้ถึง4เดือนด้วยกัน คือ กุมภาพันธ์มีนาคม พฤษภาคม และมิถุนายนที่ผ่านมา ชุดวิชา การเรียนรู้สู้ภัยธรรมชาติ 3 - 14 เป็นความร้อนที่ทำลายสถิติในรอบระยะเวลามากกว่า 135 ปีสถิติขององค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา(โนอา) ชี้ว่าครึ่งแรกของปีนี้โลกเผชิญอุณหภูมิความร้อนสูงที่สุดและมีแนวโน้มว่าจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปปรากฏการณ์“เอลนิโญ” ซึ่งอุณหภูมิผิวน้ำทะเลของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกพุ่งสูงขึ้นมากจนเรียกได้ว่าเป็น Monster El Nino ที่ สามารถก่อมหันตภัยความร้อนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจากสถิติข้อมูลที่มีการบันทึกเป็นรายเดือนนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2423 ชี้ว่าปีที่จัดได้ว่ามีอุณหภูมิความร้อนทั้งบนบกและในทะเลสูงที่สุดนั้นมี14 ปีที่อยู่ในศตวรรษที่ 21และปีพ.ศ. 2558 จะเป็นปีที่โลกได้เห็นสถิติใหม่โดยเดือนมิถุนายนปีนี้เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดทำลายสถิติเดิม คือ เดือนมิถุนายน 2541 สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าอุณหภูมิน น้ำทะเลที่อุ่นกว่าปกติของปรากฏการณ์เอลนิโญในเวลานี้มีแนวโน้มความเป็นไปได้ถึงร้อยละ 90 ว่าจะลากยาวไป จนถึงฤดูหนาวปีพ.ศ. 2559 ส่วนความเป็นไปได้ที่ว่าอาจร้อนเช่นนี้ไปเพียงแค่ฤดูใบไม้ผลิปีหน้านั้น ก็สูงถึงร้อยละ 80 ปรากฏการณ์เอลนิโญสามารถส่งผลต่อสภาพดินฟ้าอากาศแตกต่างกันไปในหลายพื้นที่ เช่น ภัยแล้งรุนแรงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย ขณะเดียวกันอาจก่อให้เกิดพายุและฝนกระหน่ำรุนแรงรวมทั้งน้ำท่วมฉับพลันในทวีปอเมริกาผลกระทบรุนแรงที่สุดของเอลนิโญเกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2540-2541แต่นักวิเคราะห์ให้จับตาสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปีนี้ไว้เช่นกันเนื่องจากเชื่อว่าแนวโน้มอุณหภูมิที่สูงขึ้นกำลังจะสร้างสถิติใหม่หลายประเทศในซีกโลกใต้ เช่น นิวซีแลนด์รัฐบาล ได้ประกาศเตือนเกษตรกรให้พร้อมรับมือสภาวะอากาศที่จะทำให้ผลผลิตลดน้อยลงและ สถานการณ์ดังกล่าวก็ทำให้ราคาพืชผลบางประเภท อาทิ ข้าวสาลี ข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับราคาขยับสูงขึ้นส่วนออสเตรเลียซึ่งกำลังมีความกังวลเกี่ยวกับภัยแล้งเช่นกันมีรายงานการวิเคราะห์ ของธนาคารแห่งชาติออสเตรเลียกล่าวว่าผลผลิตข้าวสาลีในปีนี้อาจจะลดลงถึงร้อยละ 50 ทั้งนี้ ออสเตรเลียเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก ส่วนความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในแหล่งเกษตรกรรมที่สำคัญแหล่งอื่นๆของโลกท่ามกลางปรากฏการณ์“ซูเปอร์เอลนิโญ” ในปีนี้นั้นนักวิเคราะห์ยกตัวอย่าง เช่น อินเดียอาจจะมีผลผลิตข้าวและน้ำตาลลดลงเนื่องมาจากภัยแล้ง ส่วนบราซิลที่จะเผชิญสภาพอากาศร้อนผลผลิต กาแฟ อาจลดลงส่วนชิลีซึ่งเป็นแหล่งผลิตทองแดงอาจเผชิญพายุฝนกระหน่ำและน้ำท่วมเหมืองเป็น ผลให้ความสามารถในการผลิตและส่งออกทองแดงในปีนี้ลดลงไปด้วย