เรื่องที่ 4 แนวทางการป้องกันและการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากไฟป่า
4.1 การเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันการเกิดไฟป่า
4.1.1 ร่วมกันดูแลเพื่อรักษาพื้นที่ป่าไม้ไม่ตัดไม้ทำลายป่า เพื่อสร้างความชุ่มชื้น และรักษาสมดุลทางระบบนิเวศของผืนป่า จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า
4.1.2 ก าจัดวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิง โดยเก็บกวาดใบไม้แห้ง กิ่งไม้แห้ง หรือหญ้าแห้ง ไม่ให้กองสุม เพราะหากเกิดไฟไหม้ จะเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ไฟลุกลามเป็นไฟป่า
4.1.3 สร้างแนวป้องกันไฟกันไฟลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียงโดยจัดทำคันดินกั้น หรือขุดเป็นร่องดินล้อมรอบพื้นที่ จะช่วยสกัดมิให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว รวมถึงตรวจสอบ แนวกันไฟมิให้มีต้นไม้พาดขวาง เพราะหากเกิดไฟป่า จะทำให้เพลิงลุกลามไหม้ต้นไม้ข้ามแนวกัน ไฟส่งผลให้ไฟป่าขยายวงกว้างขึ้น
4.1.4 งดเว้นการเผาขยะหรือวัชพืชใกล้แนวชายป่าหรือในป่าให้กำจัดโดยการฝัง กลบแทนการเผา เพื่อลดความเสี่ยงที่ทำให้ไฟลุกลามกลายเป็นไฟป่า
4.1.5 ไม่เก็บหาของป่าหรือล่าสัตว์ด้วยวิธีจุดไฟหรือรมควันเช่น การหาเห็ด ใบตองตึง ไม้ไผ่ น้ำผึ้ง ผักหวานป่า ไข่มดแดง หนู กระต่าย นก เป็นต้น เพราะมีความเสี่ยง ที่ไฟจะลุกลามเป็นไฟป่า
4.1.6 หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดไฟป่าไม่ทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพง หญ้าแห้ง หากก่อกองไฟ ควรดับไฟให้สนิททุกครั้ง พร้อมจัดเตรียมถังน้ำไว้ใกล้กับบริเวณที่ก่อไฟ หากไฟลุกลามจะได้ดับไฟทัน
4.1.7 ดูแลพื้นที่การเกษตร โดยหมั่นตัดหญ้าและเก็บกวาดใบไม้แห้งมิให้กองสุม เพราะหากเกิดไฟไหม้ จะเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ไฟลุกลามกลายเป็นไฟป่า
4.1.8 เตรียมพื้นที่การเกษตรหรือเพาะปลูกพืชโดยวิธีฝังกลบ ไม่เผาตอซังข้าวและ วัชพืชในพื้นที่เกษตร เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงที่ไฟจะลุกลามกลายเป็นไฟป่า
4.1.9 เพิ่มความระมัดระวังการจุดไฟหรือก่อกองไฟในป่าเป็นพิเศษไม่จุดไฟใกล้ บริเวณที่มีกิ่งไม้ หญ้าแห้งกองสุม เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า พร้อมดับไฟให้สนิททุก ครั้งเพื่อป้องกันไฟลุกลามเป็นไฟป่า
แนวทางการป้องกันไฟป่าตามพระราชด าริป่าเปียกมี 6 วิธีด้วยกัน คือ
1. ทำระบบป้องกันไฟไหม้ป่า โดยใช้แนวคลองส่งน้ำและแนวพืชชนิดต่าง ๆ ปลูกตาม แนวคลอง
2. สร้างระบบการควบคุมไฟป่าด้วยแนวป้องกันไฟป่าเปียก โดยอาศัยน้ำชลประทาน และน้ าฝน
3. การปลูกต้นไม้โตเร็วคลุมแนวร่องน้ำ เพื่อให้ความชุ่มชื่นค่อยๆทวีขึ้นและแผ่ขยาย ออกไปทั้งสองข้างของร่องน้ำ ซึ่งจะท าให้ต้นไม้งอกงามและมีส่วนช่วยป้องกันไฟป่าเพราะไฟป่าจะ เกิดขึ้นง่ายหากป่าขาดความชุ่มชื้น
4. การสร้างฝายชะลอความชุ่มชื่น หรือเรียกว่า “check Dam” ขึ้นเพื่อปิดกั้นร่องน้ า หรือลำธารขนาดเล็กเป็นระยะๆเพื่อใช้เก็บกักน้ำและตะกอนดินไว้บางส่วน โดยน้ำที่เก็บไว้จะซึม เข้าไปสะสมในดิน เพื่อทำให้ความชุ่มชื่นแผ่ขยายเข้าไปทั้งสองด้านกลายเป็น “ป่าเปียก”
5. การสูบน้ าเข้าไปในที่ระดับสูงที่สุดเท่าที่ทำได้ แล้วปล่อยน้ำลงมาทีละน้อยให้ค่อย ๆ ไหลซึมลงดิน เพื่อช่วยเสริมการปลูกป่าบนพื้นที่สูงในรูป “ภูเขาป่า” ให้กลายเป็น “ป่าเปียก” ซึ่งสามารถป้องกันไฟป่าได้อีกด้วย
6. ปลูกต้นกล้วยในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นช่องว่างของป่า ประมาณ 2 เมตร หากเกิดไฟ ป่าก็จะปะทะต้นกล้วยซึ่งอุ้มน้ำไว้ได้มากกว่าพืชอื่น ทำให้ลดการสูญเสียลงไปได้มาก
4.2 การปฏิบัติขณะเกิดไฟป่า
4.2.1กรณีไม่มีเครื่องมือดับไฟป่า
1) กรณีที่ยังไม่มีอุปกรณ์ เครื่องมือหรือยังไม่มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากหน่วย ควบคุมไฟป่า อย่าเสี่ยงเข้าไปดับไฟ เว้นแต่เป็นการลุกไหม้เล็กน้อยของไฟที่เกิดจากพวกหญ้า ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หญ้าคา หญ้าขจรจบ หรือหญ้าสาบเสือ เป็นต้น
2) ควรช่วยกันตัดกิ่งไม้สด ตีไฟที่ลุกไหม้ตามบริเวณหัวไฟให้เชื้อเพลิงแตก กระจาย แล้วตีขนานไปกับไฟป่าที่ก าลังจะเริ่มลุกลาม
3) ถ้ามีรถแทร็กเตอร์ ควรไถไร่อ้อยหรือต้นข้าวให้โล่งว่าง เพื่อทำให้เป็นแนว กันไฟ ไม่ให้เกิดการติดต่อลุกลามมาได้
4.2.2 กรณีมีอุปกรณ์เครื่องมือดับไฟป่า เครื่องมือพื้นฐานในการดับไฟป่า
1) ที่ตบไฟ ที่ตบไฟนี้ ส่วนหัวจะทำจากผ้าใบชนิดหนาเคลือบด้วยยางขนาด 30 x 40 เซนติเมตร ใช้ในการดับไฟทางตรง โดยการตบคลุมลงไปบนเปลวไฟเพื่อป้องกันไม่ให้ อากาศเข้าไปทำปฏิกิริยากับไฟ เปลวไฟก็จะดับลง เหมาะส าหรับการดับไฟที่ไหม้เชื้อเพลิงเบา ได้แก่ หญ้า และใบไม้แห้ง เป็นต้น
2) ถังฉีดน้ำดับไฟ อาจเป็นถังประเภทถังแข็งคงรูป หรือถังอ่อนพับเก็บได้ ใช้สำหรับฉีดลดความร้อนของไฟในการดับไฟทางตรงเพื่อให้เครื่องมือดับไฟป่าชนิดอื่นสามารถเข้า ไปทำงานที่ขอบของไฟได้ นอกจากนี้ยังใช้ฉีดดับไฟที่ยังเหลือคงอยู่ในโพรงไม้ ในรอยแตกของไม้ หรือในฐานกอไผ่ ที่เครื่องมืออื่นเข้าไปไม่ได้
3) ครอบไฟป่า ลักษณะของครอบไฟป่าด้านหนึ่งจะเป็นจอบ อีกด้านหนึ่งเป็น คราด ใช้ในการทำแนวกันไฟ โดยใช้ด้ามที่เป็นจอบในการถากถาง ขุด สับ ตัด เชื้อเพลิงที่เป็น วัชพืช จากนั้นจึงใช้ด้านที่เป็นคราด คราดเอาเชื้อเพลิงเหล่านี้ออกไปทิ้งนอกแนวกันไฟ
4) พลั่วไฟป่า ตัวพลั่วปลายจะเรียวแหลมและมีคมสามด้านใช้ขุด ตัดถาก ตัก และสาด ตบไฟ รวมทั้งใช้ในการขุดหลุมบุคคลสำหรับเป็นที่หลบกำบังจากไฟป่าในกรณีฉุกเฉิน
5) ขวานขุดไฟป่าหรือพูลาสกี้หัวเป็นขวานอีกด้านหนึ่งเป็นจอบหน้าแคบ ใช้ในการขุดร่องสนาม เพื่อเป็นแนวกันไฟในการดับไฟกึ่งผิวดินกึ่งใต้ดิน โดยการใช้ด้านที่เป็นจอบ หน้าแคบในการขุดดินและเชื้อเพลิง ในขณะที่ด้ามที่เป็นขวานใช้ในการตัดรากไม้ที่สานกันแน่น
6) คบจุดไฟ ใช้เป็นเครื่องมือในการจุดไฟ เพื่อชิงเผากำจัดเชื้อเพลิงหรือ ใช้ในการจุดไฟเผากลับในการดับไฟด้วยไฟ
4.3 การปฏิบัติหลังเกิดไฟป่า
4.3.1 ตรวจดูบริเวณที่ยังมีไฟคุกรุ่น เมื่อพบแล้วจัดการดับให้สนิท
4.3.2 ค้นหาและช่วยเหลือคน สัตว์ที่หนีไฟออกมาและได้รับบาดเจ็บ
4.3.3 ระวังภัยจากสัตว์ที่หนีไฟป่าออกมา จะทำอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้
4.3.4 ทำการปลูกป่าทดแทน ปลูกพืชคลุมดิน ปลูกไม้โตเร็ว