หลักสูตรและเนื้อหาเรียน รูปแบบประโยคภาษาจีนเบื้องต้น
🔹 1. ประโยคบอกเล่า (肯定句 Kěndìng jù)
🔸 ความหมาย:
ประโยคบอกเล่า คือประโยคที่ใช้เพื่อ "บอกเล่า" หรือ "บอกข้อมูล" อย่างตรงไปตรงมา เช่น บอกว่าใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร หรือเมื่อไหร่ โดยไม่มีการปฏิเสธ
🔸 โครงสร้างพื้นฐานของประโยคบอกเล่าในภาษาจีน:
主语 + 谓语 + 宾语
Zhǔyǔ + Wèiyǔ + Bīnyǔ
ประธาน + กริยา + กรรม
主语 (Zhǔyǔ) = ประธาน เช่น 我 (wǒ) = ฉัน
谓语 (Wèiyǔ) = กริยา เช่น 吃 (chī) = กิน
宾语 (Bīnyǔ) = กรรม เช่น 米饭 (mǐfàn) = ข้าว
💡หมายเหตุ: ภาษาจีนมักมีโครงสร้างที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา โดยตำแหน่งของคำมีความสำคัญมากกว่าการผันคำแบบภาษาไทยหรืออังกฤษ
🔸 ตัวอย่างประโยคบอกเล่า
✅ ตัวอย่างที่ 1
我学习汉语。
Wǒ xuéxí hànyǔ.
แปล: ฉันเรียนภาษาจีน
我 (wǒ) = ฉัน → ประธาน
学习 (xuéxí) = เรียน → กริยา
汉语 (hànyǔ) = ภาษาจีน → กรรม
✅ ตัวอย่างที่ 2
他在学校工作。
Tā zài xuéxiào gōngzuò.
แปล: เขาทำงานที่โรงเรียน
他 (tā) = เขา
在学校 (zài xuéxiào) = ที่โรงเรียน → วลีแสดงสถานที่
工作 (gōngzuò) = ทำงาน
โครงสร้างเพิ่มเติม:
主语 + 在 + สถานที่ + 动词
(ประธาน + อยู่ที่ + สถานที่ + กริยา)
✅ ตัวอย่างที่ 3
妈妈每天做饭。
Māma měitiān zuò fàn.
แปล: แม่ทำอาหารทุกวัน
妈妈 (māma) = แม่
每天 (měitiān) = ทุกวัน
做饭 (zuò fàn) = ทำอาหาร
🔹 2. ประโยคปฏิเสธ (否定句 Fǒudìng jù)
🔸 ความหมาย:
ประโยคปฏิเสธ คือประโยคที่ใช้ในการ “ปฏิเสธ” ว่าบุคคลนั้น ไม่ทำ บางสิ่งบางอย่าง หรือ ไม่มี บางสิ่ง เช่น "ฉันไม่กินข้าว" หรือ "เขาไม่มีหนังสือ"
ในภาษาจีนจะใช้คำว่า 不 (bù) และ 没 / 没有 (méi / méiyǒu) ในการสร้างประโยคปฏิเสธ ขึ้นอยู่กับลักษณะของการกระทำหรือเหตุการณ์นั้น ๆ
🔸 โครงสร้างพื้นฐานของประโยคปฏิเสธ
❶ ประธาน + 不 + กริยา + กรรม
ใช้เมื่อพูดถึงการ ไม่ทำ บางสิ่งใน “ปัจจุบันหรืออนาคต” เช่น ไม่กิน ไม่ดู ไม่ไป
❷ ประธาน + 没 / 没有 + กริยา + กรรม
ใช้เมื่อพูดถึงการ ไม่ได้ทำ บางสิ่งใน “อดีต” หรือ “ยังไม่เกิดขึ้น” เช่น ยังไม่ได้ไป ยังไม่ได้กิน
❸ ประธาน + 没有 + คำนาม
ใช้เมื่อต้องการบอกว่า ไม่มีสิ่งของ หรือไม่มีความเป็นเจ้าของ เช่น ไม่มีเงิน ไม่มีโทรศัพท์
🔸 ตัวอย่างประโยคปฏิเสธ
✅ ตัวอย่างที่ 1 — ใช้ 不 (bù)
我不吃肉。
Wǒ bù chī ròu.
แปล: ฉันไม่กินเนื้อ
– 我 (wǒ) = ฉัน
– 不 (bù) = ไม่
– 吃 (chī) = กิน
– 肉 (ròu) = เนื้อ
ในที่นี้หมายถึง โดยปกติ ฉันไม่กินเนื้อเลย เช่น เป็นมังสวิรัติ
✅ ตัวอย่างที่ 2 — ใช้ 没 (méi)
我没去学校。
Wǒ méi qù xuéxiào.
แปล: ฉันไม่ได้ไปโรงเรียน
– 我 (wǒ) = ฉัน
– 没 (méi) = ไม่ (ในอดีต)
– 去 (qù) = ไป
– 学校 (xuéxiào) = โรงเรียน
ประโยคนี้ใช้ปฏิเสธการกระทำในอดีต เช่น เมื่อเช้านี้ฉันไม่ได้ไปโรงเรียน
✅ ตัวอย่างที่ 3 — ใช้ 没有 (méiyǒu)
他没有手机。
Tā méiyǒu shǒujī.
แปล: เขาไม่มีโทรศัพท์มือถือ
– 他 (tā) = เขา
– 没有 (méiyǒu) = ไม่มี
– 手机 (shǒujī) = โทรศัพท์มือถือ
ในที่นี้หมายถึง เขาไม่มีสิ่งของนั้นอยู่ในครอบครอง
🔸 สรุปเนื้อหา
ใช้ 不 (bù) กับกริยาทั่วไป เมื่อพูดถึงพฤติกรรมที่เป็นประจำหรือในอนาคต เช่น ฉันไม่ดื่มกาแฟ
ใช้ 没 (méi) กับกริยาเมื่อพูดถึงการที่ "ยังไม่ได้ทำ" ในอดีต เช่น ฉันยังไม่ได้กินข้าว
ใช้ 没有 (méiyǒu) กับคำนาม เพื่อบอกว่าไม่มีสิ่งนั้น เช่น เขาไม่มีรถยนต์
🔹 3. ประโยคคำถาม (疑问句 Yíwèn jù) — ใช้คำว่า “吗 (ma)”
🔸 ความหมาย:
ประโยคคำถามแบบใช้คำว่า 吗 (ma) คือประโยคคำถามแบบง่ายในภาษาจีน ซึ่งใช้เพียงแค่เติม 吗 ท้ายประโยคบอกเล่า เพื่อเปลี่ยนให้กลายเป็นประโยคคำถามที่ต้องการคำตอบว่า “ใช่/ไม่ใช่” หรือ “ใช่ไหม”
ลักษณะคำถามแบบนี้คล้ายกับการขึ้นเสียงสูงในภาษาไทยตอนท้ายประโยค เช่น
– เธอไปไหม?
– เขารู้หรือเปล่า?
🔸 โครงสร้างประโยคคำถามแบบใช่/ไม่ใช่
ประธาน + กริยา + กรรม + 吗?
เพียงแค่เติม 吗 (ma) ที่ท้ายประโยคบอกเล่าเท่านั้น ก็กลายเป็นประโยคคำถาม
🔸 ตัวอย่างประโยคคำถาม
✅ ตัวอย่างที่ 1
你喜欢中国菜吗?
Nǐ xǐhuān Zhōngguó cài ma?
แปล: คุณชอบอาหารจีนไหม?
– 你 (nǐ) = คุณ
– 喜欢 (xǐhuān) = ชอบ
– 中国菜 (Zhōngguó cài) = อาหารจีน
– 吗 (ma) = ไหม / หรือเปล่า (ใช้เปลี่ยนให้เป็นคำถาม)
หากไม่มีคำว่า “吗” ประโยคจะหมายถึง “คุณชอบอาหารจีน” แต่พอใส่ “吗” ก็กลายเป็นคำถามทันที
✅ ตัวอย่างที่ 2
他是老师吗?
Tā shì lǎoshī ma?
แปล: เขาเป็นครูใช่ไหม?
– 他 (tā) = เขา
– 是 (shì) = เป็น
– 老师 (lǎoshī) = ครู
– 吗 (ma) = ใช่ไหม?
เป็นคำถามที่ต้องการให้ผู้ตอบตอบว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่
✅ ตัวอย่างที่ 3
你会说汉语吗?
Nǐ huì shuō Hànyǔ ma?
แปล: คุณสามารถพูดภาษาจีนได้ไหม?
– 你 (nǐ) = คุณ
– 会说 (huì shuō) = สามารถพูด
– 汉语 (Hànyǔ) = ภาษาจีน
– 吗 (ma) = ไหม?
เหมาะกับการถามความสามารถ เช่น พูดได้ไหม ทำได้ไหม เป็นต้น
🔸 สรุปเนื้อหา
– ประโยคคำถามที่ใช้ “吗” เป็นประโยคคำถามแบบง่ายที่สุดในภาษาจีน
– เพียงแค่เอา ประโยคบอกเล่า แล้วเติม 吗 ท้ายประโยค
– ผู้ตอบจะตอบว่า “ใช่” (是的 shì de) หรือ “ไม่ใช่” (不是 bú shì) ก็ได้
🔹 4. ประโยคขอร้อง (祈使句 Qíshǐ jù) — ใช้คำว่า “请 (qǐng)”
🔸 ความหมาย:
ประโยคขอร้องคือประโยคที่ใช้ในการ ร้องขอ หรือเชิญชวน ให้ผู้อื่นทำบางสิ่งอย่างสุภาพ โดยเฉพาะเมื่อต้องการพูดให้สุภาพหรือแสดงความเคารพ
ในภาษาจีนมักใช้คำว่า 请 (qǐng) ซึ่งมีความหมายว่า “กรุณา...” หรือ “โปรด...” อยู่หน้ากริยาเพื่อแสดงความสุภาพ
🔸 โครงสร้างประโยค
请 (qǐng) + กริยา + ส่วนอื่น ๆ
สามารถใช้กับกริยาใดก็ได้ เช่น:
– 请坐 (โปรดนั่ง)
– 请看 (กรุณาดู)
– 请帮我 (กรุณาช่วยฉัน)
🔸 ตัวอย่างประโยคขอร้อง
✅ ตัวอย่างที่ 1
请帮我。
Qǐng bāng wǒ.
แปล: กรุณาช่วยฉัน
– 帮 (bāng) = ช่วย
– 我 (wǒ) = ฉัน
– 请 (qǐng) = กรุณา
เป็นประโยคสุภาพและเรียบง่ายที่ใช้ในสถานการณ์ทั่วไป เช่น ขอให้ใครช่วยถือของ หรือช่วยอธิบายบางอย่าง
✅ ตัวอย่างที่ 2
请坐这儿。
Qǐng zuò zhèr.
แปล: เชิญนั่งตรงนี้
– 坐 (zuò) = นั่ง
– 这儿 (zhèr) = ตรงนี้
– 请 (qǐng) = เชิญ / กรุณา
ใช้ในสถานการณ์สุภาพ เช่น ต้อนรับแขกหรือลูกค้า
✅ ตัวอย่างที่ 3
请说慢一点。
Qǐng shuō màn yìdiǎn.
แปล: กรุณาพูดช้าหน่อย
– 说 (shuō) = พูด
– 慢一点 (màn yìdiǎn) = ช้าหน่อย
– 请 (qǐng) = กรุณา
ใช้เมื่อฟังไม่ทันหรือพูดกับคนจีนแล้วอยากให้เขาพูดช้าลง
🔸 สรุปเนื้อหา
– คำว่า 请 (qǐng) คือคำแสดงความสุภาพ แปลว่า “กรุณา...” หรือ “โปรด...”
– ใช้นำหน้ากริยาเพื่อขอร้องหรือเชิญชวนอย่างสุภาพ
– เหมาะสำหรับใช้ในบทสนทนาในชีวิตประจำวัน สถานการณ์ทางการ หรือต่อผู้ใหญ่