เรื่องที่ 5 การออม

ความหมายของการออม

การออมเป็นการแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งในปัจจุบันไปเก็บสะสมไว้ใช้ในอนาคต ซึ่งสามารถทำได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การเก็บสะสมด้วยตนเอง เช่น หยอดกระปุกออมสิน เก็บสะสมไว้ที่บ้าน ไปจนถึงการนำไปฝากไว้กับสถาบันการเงิน ซึ่งมักอยู่ในรูปแบบที่มีความ เสี่ยงต่อการสูญเสียเงินต้นต่ำ และได้รับผลตอบแทนไม่สูงนักเมื่อเทียบกับการลงทุน เช่น การฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ บัญชีเงินฝากประจำ การซื้อสลากออมทรัพย์


ประโยชน์ของการออม

1. ช่วยแบ่งเบาภาระเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยไม่ต้องก่อหนี้หรือขอ ความช่วยเหลือจากบุคคลอื่น

2. ช่วยลดความเสี่ยงที่จะมีปัญหาการเงิน เมื่อมีเหตุทำให้เงินที่มีไม่พอต่อ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ก็สามารถนำเงินออมออกมาใช้ก่อนได้

3. ช่วยทำให้ความฝันเป็นความจริง เงินออมที่มีอาจนำไปเป็นเงินทุนเพื่อ ทำกิจการของตนเอง เรียนเพิ่มทักษะ คอมพิวเตอร์ ภาษา หรือปริญญาโท

4. ช่วยสร้างโอกาสให้มีรายได้มากขึ้น เช่น นำเงินออมไปซื้อหุ้นพันธบัตร กองทุนรวม หรือนำไปลงทุนซื้อห้องแถวให้เช่า ก็มีโอกาสที่จะทำให้เงินที่มีอยู่งอกเงยมากขึ้น


เป้าหมายการออม

1. เงินออมเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน เป็นเงินที่ออมไว้ใช้จ่ายหากเกิดเรื่อง ไม่คาดคิด เช่น อุบัติเหตุ เจ็บป่วย หรือรายได้ลดกะทันหัน ซึ่งควรมีเงินออมก้อนนี้อย่างน้อย 6 เท่าของรายจ่ายจำเป็นต่อเดือน


2. เงินออมเพื่อใช้จ่ายในยามชรา เป็นเงินที่ออมไว้ใช้จ่ายในยามที่ไม่มีรายได้ แล้ว หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จำนวนเงินที่ต้องใช้จ่ายในยามชรานั้นค่อนข้างสูง จึง ออมเงินไว้เพื่อใช้จ่ายในยามชราตั้งแต่ตอนที่ยังมีรายรับอยู่ จำนวนเงินที่จะต้องใช้ในยามชรา


3.เงินออมเพื่อค่าใช้จ่ายจำเป็นที่เป็นก้อนใหญ่ การวางแผนล่วงหน้าจะทำให้ ทราบจำนวนเงินที่ต้องใช้จ่ายและวางแผนออมเงินได้ทันเวลา เช่น ค่าเทอมบุตร ค่าดาวน์บ้าน ค่าซ่อมบ้าน ซึ่งการวางแผนออมแต่เนิ่น ๆ จะทำให้เรามีเวลาพอสมควรที่จะทยอยออมและ ทำให้ยอดออมต่อครั้ง


ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

หลักการออมเงินของ กอช. กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เป็นกองทุนสำหรับประชาชนที่มีอายุ ตั้งแต่ 15 – 60 ปี ซึ่งไม่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญภาครัฐหรือเอกชนหรือกองทุนตามกฎหมาย อื่นที่ได้รับเงินสมทบจากรัฐหรือนายจ้าง หลักการออมแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เงินที่สมาชิกออม และเงินที่รัฐจ่ายสมทบ ซึ่งสมาชิกทุกคนไม่จำเป็นต้องส่งเงินสะสมเข้ากองทุนทุกเดือน ในกรณีที่ส่งเงินสะสมต้องไม่ต่ำกว่า ครั้งละ 50 บาท สูงสุดไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี และรัฐจะจ่ายสมทบให้ตามช่วงอายุ


การได้รับเงินคืนของ สมาชิก กอช.

1) กรณีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ (รวมทั้งสมาชิกที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปี ขึ้นไป เมื่อครบระยะเวลา 10 ปี หรือลาออกเมื่ออายุครบ 60 ปี) หากคำนวณเงินบำนาญได้ ตามเกณฑ์ที่กำหนด จะได้รับเงินบำนาญตลอดชีวิต หากได้น้อยกว่าเกณฑ์จะได้รับเป็น เงินดำรงชีพเดือนละ 600 บาทจนกว่าเงินในบัญชีจะหมด

2) กรณีทุพพลภาพก่อนอายุครบ 60 ปี สามารถเลือกได้ว่าจะรับเงินที่ สมาชิกสะสมเองพร้อมดอกผลทั้งจำนวนหรือบางส่วน โดยขอรับได้เพียงครั้งเดียว และเงิน ส่วนที่รัฐจ่ายสมทบพร้อมดอกผลจะจ่ายเป็นเงินบำนาญหลังอายุครบ 60 ปี หากยังมีเงินสะสม เหลืออยู่ในกองทุน ก็จะนำมาคำนวณการจ่ายบำนาญด้วย

3) กรณีลาออกจากกองทุน จะได้รับเงินที่สมาชิกส่งสะสมเองพร้อม ดอกผลทั้งจำนวน แต่เงินส่วนที่รัฐสมทบจะตกเป็นของกองทุน

4) กรณีเสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์ที่สมาชิกแจ้งชื่อไว้จะได้รับเงิน ในบัญชีทั้งหมด