การฝากเงิน
เมื่อได้รับเงินจากแหล่งต่าง ๆ เช่น รายได้จากการประกอบอาชีพ สิ่งที่ควรทำ คือแบ่งเงินบางส่วนไปเก็บออมเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เป็นค่าใช้จ่ายหลัง เกษียณหรือเลิกทำงาน การมองหาสถานที่เก็บรักษาเงินจึงเป็นเรื่องจำเป็น โดยแหล่งเก็บเงิน ที่นิยมกันคือการฝากเงินไว้กับธนาคาร ซึ่งนอกจากมีความปลอดภัยกว่าการเก็บเงินสดไว้กับตัว หรือไว้ที่บ้านแล้ว การฝากเงินไว้กับธนาคารยังทำให้ได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย เงินฝากด้วย อย่างไรก็ดี การจะได้รับดอกเบี้ยมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าเป็นบัญชีเงินฝาก ประเภทใด มีเงื่อนไขอย่างไร เราจึงจ าเป็นต้องรู้จักบัญชีเงินฝากแต่ละประเภท เพื่อเลือกบัญชี ที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด โดยปัจจุบันบัญชีเงินฝากที่รู้จักและใช้กัน มาก เช่น บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ บัญชีเงินฝากประจำ
ประเภทของบัญชีเงินฝาก
1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์
ลักษณะ
ประโยชน์
ข้อจำกัด
บัญชีนี้เหมาะกับใคร
นอกจากนี้ บางธนาคารมีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ ซึ่งให้อัตราดอกเบี้ย ที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ แต่จะมีเงื่อนไขที่เพิ่มขึ้นด้วย เช่น เงินฝากขั้นต่ำ 10,000 บาท ถอนได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อเดือน หากถอนตั้งแต่ครั้งที่ 3 เป็นต้นไปในเดือนนั้นจะถูกคิด ค่าธรรมเนียมครั้งละ 500 บาท ซึ่งบัญชีในลักษณะนี้เหมาะกับการออมเงินมากกว่าที่จะใช้เป็น บัญชีเพื่อชำระค่าใช้จ่าย
คำแนะนำ
1. ควรทำรายการฝาก ถอน หรือโอนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยง การถูกคิดค่าธรรมเนียมรักษาบัญชีกรณีบัญชีเงินฝากไม่เคลื่อนไหว และมียอดเงินฝากคงเหลือ น้อยกว่าที่กำหนด
2. ปรับสมุดบัญชีอย่างสม่ าเสมอเพื่อดูว่ามีเงินคงเหลือในบัญชีเพียงพอ สำหรับการหักบัญชีหรือเงื่อนไขต่าง ๆ ที่กำหนดหรือไม่ เช่น ค่าใช้จ่ายที่จะถูกตัดออกจากบัญชี ยอดเงินขั้นต่ำที่ธนาคารกำหนด เพื่อไม่ให้พลาดการชำระเงินหรือมีเงินไม่พอที่จะชำระซึ่งอาจทำให้ ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
3. หากไม่มีความจำเป็นต้องใช้บัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิตควรแจ้งยกเลิก บัตร หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าไม่ต้องการทำบัตร จะช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมที่ไม่จำเป็นได้
ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์
สำรวยเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ธนาคารมุ่งมั่นเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 58 จำนวน 10,000 บาท ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากในอัตรา 3% ต่อปี โดยธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยให้ในวันที่ 30 มิ.ย. และ 31 ธ.ค. ของทุกปี หากส ารวยฝากเงินไว้ทั้งปี โดยไม่ถอนเงินออกหรือฝากเงินเพิ่ม และไม่ได้ถอนดอกเบี้ยออกมาใช้ในระหว่างปี หากครบ 1 ปี ส ารวยจะมีเงินฝากในบัญชีรวม ดอกเบี้ยเป็นเงินเท่าไร
วิธีการคำนวณ
1. ระยะเวลาในการคำนวณจำนวนวันในการฝากเงิน จะคำนวณถึงวันก่อนวันที่ จ่ายดอกเบี้ย ดังนี้ จ่ายดอกเบี้ย 30 มิ.ย. 58 จะเริ่มนับตั้งแต่
วันที่ 1 ม.ค. 58 ถึง 29 มิ.ย. 58 = 180 วัน จ่ายดอกเบี้ย 31 ธ.ค. 58 จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. 58 ถึง 30 ธ.ค. 58 = 184 วัน
2. อัตราดอกเบี้ย 3% ในที่นี้ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ไม่ต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย 15% จึงสามารถนำมาคำนวณในสูตรได้
3. เงินฝากออมทรัพย์นี้ให้ดอกเบี้ยทบต้น ดังนั้น ต้องนำเงินต้นบวกดอกเบี้ยก่อน จากนั้นจึงนำผลที่ได้ไปเป็นฐานคำนวณดอกเบี้ยสำหรับ
งวดถัดไป
ตัวอย่าง การคำนวณเงินรวมที่จะได้จากดอกเบี้ยทบต้นอย่างง่าย
พอใจฝากเงิน 10,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 ปี ธนาคารให้อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี เท่ากันทุกปี โดยจ่ายดอกเบี้ยให้ปีละครั้ง หากพอใจไม่มีการฝากเพิ่มระหว่างปี และไม่ถอน เงินต้นหรือดอกเบี้ยออกมาใช้ จะสามารถคำนวณเงินรวมเมื่อครบ 3 ปีตามสูตรได้ ดังนี้
2. บัญชีเงินฝากประจำ มีหลายรูปแบบ เช่น
2.1 บัญชีเงินฝากประจำทั่วไป
ลักษณะ
แต่ฝากยังไม่ถึง 3 เดือนแล้วต้องการถอนออกมาจะไม่ได้รับดอกเบี้ย หรือถอนหลัง 3 เดือนไปแล้ว แต่ยังไม่ครบกำหนด 6 เดือน จะได้รับดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ พร้อมทั้ง ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย นอกจากนี้ บางธนาคารมีรูปแบบการฝากประจำแบบพิเศษ เช่น ให้ เลือกระยะเวลาการฝากได้ตามที่สะดวก กำหนดระยะการฝากเป็นจ านวนวัน (เช่น 99 วัน) หรือ จ่ายดอกเบี้ยเงินฝากตั้งแต่วันแรกที่ผู้ฝากเปิดบัญชี โดยอาจมีเงื่อนไขที่ก าหนดจ านวนเงินฝาก ที่ค่อนข้างสูง เช่น 100,000 บาทขึ้นไป
บัญชีนี้เหมาะกับใคร
ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยเงินฝากประจำ
รุ่งโรจน์เลือกเปิดบัญชีเงินฝากประจ า 3 เดือน จำนวน 10,000 บาท ได้รับอัตรา ดอกเบี้ย 3% ต่อปีแบบทบต้น โดยเริ่มต้นฝากวันที่ 1 ม.ค. 58 และเมื่อครบกำหนด 3 เดือน นายรุ่งโรจน์ก็ยังคงฝากอย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีการถอนเงินต้นและดอกเบี้ย ให้คำนวณ ว่าเมื่อครบกำหนดทุก 3 เดือนในช่วงเวลา 1 ปี รุ่งโรจน์จะได้รับเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเงิน เท่าไร
วิธีคำนวณ
1. ระยะเวลาในการคำนวณจำนวนวันในการฝากเงิน จะค านวณถึงวันก่อนวันที่ จ่ายดอกเบี้ย ดังนี้
จ่ายดอกเบี้ย 1 เม.ย. 58 จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 58 ถึง 31 มี.ค. 58 รวม 90 วัน
จ่ายดอกเบี้ย 1 ก.ค. 58 จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 58 ถึง 30 มิ.ย. 58 รวม 91 วัน
จ่ายดอกเบี้ย 1 ต.ค. 58 จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 58 ถึง 30 ก.ย. 58 รวม 92 วัน
จ่ายดอกเบี้ย 1 ม.ค. 59 จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 58 ถึง 31 ธ.ค. 58 รวม 92 วัน
2. ดอกเบี้ยที่ได้รับจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยที่รุ่งโรจน์ จะได้รับหลังหักภาษี ณ ที่จ่าย เท่ากับ 2.55% (3 x 0.85)
3. เงินฝากประจำนี้ธนาคารให้ดอกเบี้ยทบต้น ดังนั้น ต้องนำเงินต้นบวก ดอกเบี้ยก่อน จากนั้นจึงน าผลที่ได้ไปเป็นฐานคำนวณดอกเบี้ยสำหรับงวดถัดไป