การเป็นส่วนหนึ่งของสังคมประชาธิปไตยไม่ใช่แค่เรื่องของสิทธิและหน้าที่ทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของ วิถีชีวิตและนิสัย ที่เราใช้ร่วมกันในชีวิตประจำวันด้วย สังคมประชาธิปไตยที่เข้มแข็งเริ่มต้นจากพลเมืองที่มีคุณภาพ และช่วงวัยรุ่นนี่แหละคือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะนิสัยเหล่านี้ ถ้าเราฝึกฝนตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ เราก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ดีขึ้นได้ครับ
ก่อนอื่น เรามาดูกันก่อนว่านิสัยแบบไหนที่เรียกว่า "นิสัยแบบคนในสังคมประชาธิปไตย"
เคารพความแตกต่าง: ยอมรับว่าผู้คนมีความคิด ความเชื่อ เชื้อชาติ ศาสนา หรือวิถีชีวิตที่หลากหลาย
รับฟังและแลกเปลี่ยน: เปิดใจฟังความคิดเห็นของผู้อื่น แม้จะไม่เห็นด้วย และสามารถแสดงความคิดเห็นของตัวเองอย่างมีเหตุผล
คิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ: ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ พิจารณาข้อมูลจากหลายแหล่ง ก่อนตัดสินใจ
รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม: ตระหนักถึงผลของการกระทำของตัวเอง และมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสังคม
มีเหตุผลและใจเย็น: ใช้เหตุผลในการตัดสินใจและแก้ปัญหา ไม่ใช้อารมณ์หรือความรุนแรง
เคารพกฎกติกา: ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ตกลงร่วมกัน
มีส่วนร่วมและไม่เฉยชา: สนใจและแสดงบทบาทในการพัฒนาสังคมเล็กๆ รอบตัว ไปจนถึงสังคมใหญ่
มาดูกันว่าพิเชษฐ์และเพื่อนๆ วัยรุ่นจะสามารถฝึกฝนนิสัยเหล่านี้ได้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรบ้างครับ:
1. เริ่มต้นจาก "การรับฟัง" และ "การพูดคุย"
ฟังให้มากขึ้น พูดให้น้อยลง: ลองฝึกเป็นผู้ฟังที่ดีในวงสนทนา ไม่ว่าจะเป็นกับเพื่อน ครอบครัว หรือในชั้นเรียน พยายามทำความเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการสื่อสารอย่างแท้จริง โดยไม่ขัดจังหวะหรือรีบสรุป
ฝึกพูดอย่างมีเหตุผล: เมื่อเราต้องการแสดงความคิดเห็น ให้ฝึกพูดโดยอ้างอิงจากข้อมูล ข้อเท็จจริง และแสดงความรู้สึกของเราอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์หรือถ้อยคำที่รุนแรง
เปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง: หากเพื่อนมีความเห็นไม่ตรงกับเรา ลองเปิดใจฟังเหตุผลของเขา ถามคำถามเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป แต่ต้องเคารพในความเห็นนั้น
2. ฝึกคิดวิเคราะห์และหาข้อมูล
ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ: ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารเยอะมาก โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย ลองฝึกตรวจสอบข้อมูลจากหลายๆ แหล่งก่อนที่จะเชื่อหรือแชร์ต่อ
ตั้งคำถาม "ทำไม" และ "อย่างไร": เมื่อเจอข้อมูลอะไร ลองถามตัวเองว่า "ทำไมถึงเป็นแบบนั้น" "มันจริงหรือไม่" "มีมุมมองอื่นอีกไหม"
หาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ: ฝึกใช้ห้องสมุด เว็บไซต์ข่าวที่น่าเชื่อถือ หรือปรึกษาผู้รู้ แทนที่จะพึ่งแต่ข้อมูลจากเพื่อนหรือโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว
3. มีส่วนร่วมในกิจกรรมและรับผิดชอบต่อส่วนรวม
มีส่วนร่วมในโรงเรียน/กลุ่มกิจกรรม: ลองเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน ชมรม หรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องมีการทำงานร่วมกัน การระดมความคิด หรือการตัดสินใจร่วมกัน เช่น การจัดงานวันกีฬา การทำโปรเจกต์กลุ่ม
แบ่งเบาภาระในบ้าน: ช่วยทำงานบ้าน หรือรับผิดชอบหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ สิ่งนี้จะช่วยฝึกความรับผิดชอบและการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
สนใจปัญหารอบตัว: สังเกตว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในโรงเรียน ชุมชน หรือสังคมบ้าง และลองคิดว่าเราจะสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขได้อย่างไรบ้าง อาจจะเริ่มจากเรื่องเล็กๆ เช่น การคัดแยกขยะ การประหยัดพลังงาน
4. เคารพกฎกติกาและสิทธิของผู้อื่น
ปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียน/สังคม: เข้าใจว่ากฎเกณฑ์ต่างๆ มีไว้เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
เคารพสิทธิส่วนบุคคล: ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ไม่แอบถ่ายรูป ไม่แชร์ข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
ยอมรับผลของการตัดสินใจร่วมกัน: หากมีการโหวตหรือการตัดสินใจร่วมกันแล้ว ผลออกมาไม่ตรงใจเราทั้งหมด ก็ต้องรู้จักยอมรับและปฏิบัติตาม
5. จัดการอารมณ์และฝึกความใจเย็น
ฝึกควบคุมอารมณ์โกรธ/ผิดหวัง: เมื่อรู้สึกไม่พอใจ ลองหายใจเข้าลึกๆ และหาเวลาสงบสติอารมณ์ก่อนที่จะตอบโต้
มองหาทางออกร่วมกัน: เมื่อเกิดความขัดแย้งกับผู้อื่น แทนที่จะเอาชนะกัน ลองเปลี่ยนมาหาทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับได้
ฝึกให้อภัย: เมื่อคนอื่นทำผิดพลาด ยอมรับว่าทุกคนผิดพลาดได้ และให้โอกาสในการแก้ไข
การสร้างนิสัยแบบคนในสังคมประชาธิปไตยอาจต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่ทุกๆ การฝึกฝนเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน จะช่วยหล่อหลอมให้เราเติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสังคมที่เปิดกว้าง เคารพซึ่งกันและกัน และก้าวหน้าได้อย่างยั่งยืนครับ