ในเส้นทางการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นระดับมัธยม หรือมหาวิทยาลัย เรามักต้องพบเจอผู้คนมากมายจากหลากหลายพื้นเพ และในจำนวนนั้น อาจมีเพื่อนร่วมชั้นบางคนที่เราสังเกตเห็นว่ามีลักษณะ "เห็นแก่ตัว" การต้องทำงานกลุ่ม ทำกิจกรรม หรือแม้แต่ใช้ชีวิตในรั้วสถาบันร่วมกับคนประเภทนี้ อาจเป็นประสบการณ์ที่บั่นทอนกำลังใจและสร้างความหงุดหงิดได้ บทความนี้ ครูจะมาแนะนำแนวทางในการรับมือและอยู่ร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นที่เห็นแก่ตัว เพื่อให้เรายังคงโฟกัสกับการเรียนรู้ และรักษาสุขภาพใจไว้ได้
"ความเห็นแก่ตัว" ในบริบทของเพื่อนร่วมชั้นอาจแสดงออกได้หลายรูปแบบ ไม่ได้จำกัดแค่การไม่แบ่งปันสิ่งของ แต่รวมถึงพฤติกรรมที่เน้นประโยชน์ของตนเองเหนือผู้อื่นเสมอ เช่น:
เอาเปรียบเรื่องงาน: ไม่รับผิดชอบงานกลุ่ม ปล่อยให้เพื่อนทำคนเดียว หรือเอาหน้าเมื่อผลงานออกมาดี
ช่วงชิงโอกาส: พยายามเสนอตัวทำในสิ่งที่ตัวเองได้เปรียบ หรือตัดโอกาสของผู้อื่นเพื่อประโยชน์ของตัวเอง
ขาดความเห็นอกเห็นใจ: ไม่สนใจว่าพฤติกรรมของตัวเองจะส่งผลกระทบต่อผู้อื่นอย่างไร
ไม่แบ่งปันข้อมูล: เก็บข้อมูลหรือเทคนิคการเรียนไว้กับตัวเอง ไม่ยอมช่วยเหลือเพื่อน
พูดจาไม่ถนอมน้ำใจ: วิจารณ์หรือพูดจาในลักษณะที่ทำให้ตัวเองดูดีขึ้น โดยไม่แคร์ความรู้สึกของผู้อื่น
การจัดการกับสถานการณ์นี้ต้องใช้ทั้งความเข้าใจ ความอดทน และเทคนิคในการสื่อสารที่เหมาะสม:
1. กำหนดขอบเขตให้ชัดเจนและมั่นคง
นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อต้องทำงานร่วมกับคนเห็นแก่ตัว คุณต้องกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนตั้งแต่แรก เช่น:
งานกลุ่ม: แบ่งงานให้ชัดเจนว่าใครรับผิดชอบส่วนไหน กำหนด deadline และวิธีการตรวจสอบความคืบหน้า หากเพื่อนไม่ทำตามข้อตกลง ต้องมีการพูดคุยและอาจจำเป็นต้องแจ้งอาจารย์ผู้สอนหากปัญหายังคงอยู่
การแบ่งปัน: หากเพื่อนชอบยืมของแล้วไม่คืน หรือขอความช่วยเหลือบ่อยเกินไปจนคุณเสียเวลา คุณมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธอย่างสุภาพ หรือกำหนดเงื่อนไข เช่น "ครั้งนี้ช่วยได้นะ แต่ครั้งหน้าคงไม่สะดวกแล้ว"
2. สื่อสารอย่างตรงไปตรงมาแต่สุภาพ
หลีกเลี่ยงการพูดลับหลังหรือเก็บกดความรู้สึก หากพฤติกรรมของเพื่อนส่งผลกระทบต่อคุณ ลองเลือกจังหวะและสถานที่ที่เหมาะสมในการพูดคุย:
เน้นที่พฤติกรรม ไม่ใช่นิสัย: แทนที่จะบอกว่า "เธอมันเห็นแก่ตัว" ลองพูดว่า "ฉันรู้สึกไม่สบายใจเลยที่เธอไม่ช่วยงานในส่วนของเธอ ทำให้ฉันต้องทำงานหนักคนเดียว"
พูดถึงผลกระทบ: อธิบายว่าพฤติกรรมของเขาส่งผลเสียต่อตัวคุณ หรืองานกลุ่มอย่างไร
เสนอทางออก: ชวนกันหาทางแก้ปัญหา ไม่ใช่แค่ตำหนิ
3. ปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน คะแนน หรือโอกาสต่างๆ คุณมีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเอง อย่าปล่อยให้การถูกเอาเปรียบกลายเป็นเรื่องปกติ:
งานกลุ่ม: หากเพื่อนไม่ยอมทำงานในส่วนของตัวเองจริงๆ และคุณจำเป็นต้องแจ้งอาจารย์เพื่อความเป็นธรรม อย่าลังเลที่จะทำ
การสอบ/การบ้าน: หากเพื่อนพยายามลอกหรือขอคำตอบ คุณต้องปฏิเสธอย่างหนักแน่น เพื่อรักษาความซื่อสัตย์ทางวิชาการของตัวเอง
ข้อมูล/ความรู้: คุณไม่จำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูลทุกอย่าง หากการแบ่งปันนั้นเป็นการเอื้อให้เขาเอาเปรียบคุณ
4. รักษาพลังงานบวกและโฟกัสที่เป้าหมาย
การต้องรับมือกับคนเห็นแก่ตัวอาจทำให้รู้สึกเหนื่อยและหงุดหงิดได้ง่ายๆ พยายามอย่าปล่อยให้เรื่องนี้มาบั่นทอนจิตใจและสมาธิในการเรียนของคุณ:
จำกัดปฏิสัมพันธ์: หากเป็นไปได้ ลองลดการปฏิสัมพันธ์ในเรื่องที่ไม่จำเป็น
ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนที่ดี: หาเวลาอยู่กับเพื่อนที่สนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กัน จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น
เตือนตัวเองถึงเป้าหมาย: เป้าหมายหลักของคุณคือการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง อย่าให้ความเห็นแก่ตัวของคนอื่นมาเป็นอุปสรรค
5. ยอมรับในสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
คุณไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยหรือพฤติกรรมของผู้อื่นได้ สิ่งที่คุณควบคุมได้คือ การตอบสนอง และ การตั้งรับ ของตัวคุณเอง ยอมรับว่าเพื่อนคนนี้มีลักษณะนี้ และปรับวิธีการอยู่ร่วมกันแทนที่จะพยายามเปลี่ยนเขา
การมีเพื่อนร่วมชั้นที่เห็นแก่ตัวเป็นบทเรียนสำคัญที่จะสอนให้เราเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ และพัฒนาทักษะในการรับมือกับความท้าทายในสังคม ซึ่งเป็นทักษะที่มีค่าอย่างยิ่งในการใช้ชีวิตในอนาคตครับ
หากนักเรียนคนไหนกำลังเผชิญสถานการณ์เช่นนี้อยู่ ขอให้กำลังใจ และหวังว่าแนวทางเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการช่วยให้นักเรียนผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่นนะครับ