บทที่ ๔ แนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของ ผตน.
บทที่ ๔
แนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของ ผตน.
๑. ทั่วไป
ดังกล่าวแล้วว่า ผตน. ย่อมมีหน้าที่หรือความรับผิดชอบในหลายสถาน ทั้งหน้าที่ในการเป็นเจ้าหน้าที่ในชุดหลักยิง ป. เป็นเจ้าหน้าที่ในระบบ คปม. เป็นผู้ประสานการยิงสนับสนุนให้หน่วยระดับกองร้อยกลยุทธที่ตนไปสนับสนุนหลังจากที่เตรียมคนและเตรียมหน่วยให้พร้อมไว้แล้วในยามปกติ การเริ่มปฏิบัติหน้าที่ของ ผตน. ควรจะดำเนินการตามข้อพิจารณาในแต่ละเรื่องดังต่อไปนี้
๒. การเตรียมการก่อนออกปฏิบัติภารกิจ
ก่อนที่การยุทธจะเริ่มต้น ผตน. จะต้องเตรียมให้พร้อมทั้งตัวเอง คนในทีมและเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ของตนและของทีม โดยจะต้องระลึกถึงข้อพิจารณาทางยุทธวิธีทั้ง ๔ ประการเหล่านี้ไว้เสมอ คือ
ก. รู้จกภูมิประเทศ การรู้จักภูมิประเทศของ ผตน. มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่า ผตน. ที่มีความรู้ หรือเชี่ยวชาญในภูมิประเทศมากกว่าจะสามารถตอบสนองภารกิจได้รวดเร็ว และถูกต้องมากกว่า
การทำความรู้จักและคุ้นเคยกับภูมิประเทศนั้น ผตน. อาจได้มาจากการฝึกในครั้งก่อน ๆ การวิเคราะห์ และการตรวจสอบ หรือลาดตระเวนจากแผนที่ หรือการออกไปลาดตระเวนจริง ๆ ในภูมิประเทศ
ไม่ว่าจะด้วยกรณีใด ๆ ก็ตาม ผตน. จะต้องพยายามดึงเอาภูมิประเทศจริงให้มาสัมพันธ์กับแผนที่ที่ใช้อยู่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อประโยชน์ในการวางแผนและการยิงสนับสนุนที่มีประสิทธิผล
ข. การคาดคะเนหรือประมาณการล่วงหน้าถึงความต้องการของหน่วยกลยุทธ โดยอาศัยความรู้ เรื่องภูมิประเทศเกื้อกูลหรือให้มีเสรีต่อการดำเนินกลยุทธและการปฏิบัติการต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่พึงระลึกไว้ว่า การวางแผนการยิงนั้นควรจะกระทำแต่เฉพาะเป้าหมายที่จำเป็นเท่านั้น
ค. อยู่ในที่ที่สามารถตรวจการณ์ได้ เมื่อการรบเริ่มต้น ผู้ตรวจการณ์หน้าควรจะวางตัวอยู่ ณ ที่ซึ่งสามารถตรวจการณ์ได้ดีที่สุด การอยู่ในที่สูงปกติก็จะทำให้มองเห็นสนามรบได้กว้างไกล และปรับการยิงได้ดีขึ้น แต่จะต้องไม่ลืมเรื่องการซ่อนเร้นและการพราง
ง. ความอ่อนตัว ผตน. จะต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนแผนและวิธีการปฏิบัติงานของตนให้พร้อมที่จะทำการยิงสนับสนุนได้อย่างทันเวลาและต่อเนื่อง จะต้องมีแผนการและวิธีปฏิบัติการไว้หลาย ๆ แผนเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานตามหน้าที่และความรับผิดชอบได้เป็นอย่างดี
นอกจากข้อพิจารณาทางยุทธวิธีดังกล่าวแล้ว การเตรียมการโดยทั่วไปของ ผตน. ก่อนออกปฏิบัติภารกิจควรจะ
๑) ตรวจสอบและปรนนิบัติบำรุงอาวุธยุทโธปกรณ์ของตนให้พร้อม
๒) รายงานตัวต่อ ฝอ.๒ และ ฝอ.๓ ของกองพัน เพื่อฟังการบรรยายสรุป และประสานการปฏิบัติขั้นสุดท้าย
๓) บรรยายสรุปแก่คณะเจ้าหน้าที่ของตนในเรื่องที่เกี่ยวข้องและจำเป็น
๔) ทำการลาดตระเวนและศึกษาภูมิประเทศจากแผนที่ แล้ววางแผนการปฏิบัติ
๕) ตรวจสอบการติดต่อสื่อสารและการเตรียมการอื่น ๆ
๖) เดินทางไปยังหน่วยรับการสนับสนุน ขอรับทราบแผนการปฏิบัติ ข่าวสารต่าง ๆ และประสานงาน
๗) เลือกและดำเนินการเข้าที่ตั้งที่ตรวจการณ์หรือดำเนินการอื่น ๆ ตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่ได้รับมอบ
๓. การฟังบรรยายสรุปและการประสานกับ ฝอ.๒
ก. รับทราบสถานการณ์ข้าศึกเกี่ยวกับ ที่ตั้ง, กำลัง, การวางกำลัง, การปฏิบัติการ, ขีดความสามารถและขีดจำกัดรวมทั้งยุทธวิธีและเทคนิคต่าง ๆ ที่ควรทราบ
ข. รับทราบข่าวเกี่ยวกับภูมิประเทศและลมฟ้าอากาศ
ค. เป้าหมายต่าง ๆ ที่ทราบที่ตั้งแล้ว
ง. รับจ่ายแผนที่ ภาพถ่ายและหลักฐานอ้างอิงอื่น ๆ
จ. สัญญาณผ่านหรือระบบรับรองฝ่ายอื่น ๆ
ฉ. หัวข้อข่าวสารสำคัญและความต้องการข่าวกรองอื่น ๆ
๔. การฟังบรรยายสรุปและการประสานกับ ฝอ.๓
ก. สถานการณ์ทางยุทธวิธี
ข. แผนการยิงสนับสนุน
ค. สถานภาพและที่ตั้งต่าง ๆ ของฝ่ายเรา รวมทั้งหน่วยรับการสนับสนุน
ง. จำนวนและประเภทของอาวุธสนับสนุนของฝ่ายเราที่มีอยู่
จ. จำนวนและประเภทของกระสุนและอัตรากระสุนที่ใช้ได้
ฉ. ที่ตั้งจุดยิงหาหลักฐาน จุดอ้าง, เป้าหมายต่าง ๆ , ฉากป้องกันขั้นสุดท้าย, กลุ่มการยิงหรือโปรแกรมการยิงเป็นต้น
ช. มาตรการควบคุมและประสานการยิงต่าง ๆ เช่น แนวประสานการยิง, พื้นที่ห้ามยิง และข้อจำกัดการยิงเป็นต้น
ซ. เส้นทางที่จะไปยัง บก. หน่วยรับการสนับสนุนและกำหนดการต่าง ๆ
๕. การประสานกับนายทหารฝ่ายการสื่อสาร
ก. แผนการติดต่อสื่อสาร คำแนะนำและข้อจำกัดต่าง ๆ
ข. นามสถานี สัญญาณเรียกขานทางวิทยุโทรศัพท์ และรายละเอียดของข่ายการสื่อสารต่าง ๆ
ค. สถานภาพและเงื่อนไขในการสื่อสารทางวิทยุและโทรศัพท์
ง. รับสำเนาคำสั่งและคำแนะนำการสื่อสารที่จำเป็น เช่น ประมวลลับ, รหัสและระบบรับรองฝ่าย เป็นต้น
จ. คำแนะนำหรือข้อกำหนดเกี่ยวกับการสื่อสารอื่น ๆ เช่น การเบิก, การส่งซ่อมและการส่งคืนเครื่องมือสื่อสาร เป็นต้น
๖. การปฏิบัติขณะเดินทาง
ในขณะเดินทางไปยังหน่วยรับการสนับสนุน ผตน. จะต้องวางแผนการเดินทางให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และทำความคุ้นเคยกับภูมิประเทศให้มากที่สุด โดยการสังเกตและพิจารณาเส้นทาง ภูมิประเทศโดยรอบตลอดเวลา จดจำและชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ในทีมของตนได้ทราบและให้คุ้นเคยเพียงพอที่จะเดินทางกลับมายังหน่วยของตนได้เมื่อจำเป็น
รำลึกไว้เสมอว่า ไม่มีคำว่าพอในเรื่องการรู้จักและคุ้นเคยกับภูมิประเทศ สำหรับผู้ตรวจการณ์หน้า
๗. การปฏิบัติเมื่อไปถึงหน่วยรับการสนับสนุนระดับกองพันหรือกรม
เมื่อไปถึงหน่วยระดับกองพัน หรือกรมที่รับการสนับสนุน ผตน. ควรจะไปรายงานตัวต่อ นายทหารติดต่อหรือ นายทหารการยิงสนับสนุนที่ประจำอยู่ ณ กองพัน หรือกรมนั้น เพื่อรับทราบและประสานเกี่ยวกับ
ก. สถานการณ์โดยทั่วไปและแผนทางยุทธวิธีของหน่วยนั้น ๆ
ข. ที่ตั้งต่าง ๆ และแผนการใช้อาวุธในอัตราและอาวุธสนับสนุน
ค. ที่ตั้งและเส้นทางที่จะไปยังกองร้อยที่ตนสนับสนุน
ง. ข่าวสารและรายละเอียดอื่น ๆ ที่ยังมิได้รับทราบ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับฝ่ายเรา, ฝ่ายข้าศึก, ภูมิประเทศและลมฟ้าอากาศ
๘. การปฏิบัติเมื่อไปถึงกองร้อยที่ตนสนับสนุน
ผตน. จะไปรายงานตัวต่อ ผบ.ร้อยที่ตนสนับสนุน เพื่อขอทราบข่าวสารขั้นต้นและประสานเกี่ยวกับ
ก. ที่ตั้งและการวางกำลังของกองร้อยจริง ๆ ในภูมิประเทศ
ข. แผนการปฏิบัติของกองร้อยในการเข้าตี ตั้งรับ รบหน่วงเวลาหรือลาดตระเวน
ค. แผนการระวังป้องกันของกองร้อย ระเบียบปฏิบัติประจำต่าง ๆ การส่งกำลังบำรุง แนวความคิดในการประสานและการใช้การยิงสนับสนุนและเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ของตน
๙. การปฏิบัติเมื่อเริ่มปฏิบัติหน้าที่เป็น ผตน.
ดังกล่าวแล้วว่า หมู่ตรวจการณ์หน้าปัจจุบันยังไม่อาจปฏิบัติหน้าที่เป็น ผปยส. ของกองร้อยกลยุทธได้ เพราะการจัดยังไม่เหมาะสม ในที่นี้จะกล่าวถึงรายละเอียดเฉพาะเมื่อทำหน้าที่เป็นตาของระบบหลักยิง ป. และเป็นเครื่องมือค้นหาเป้าหมายของระบบ คปม.เท่านั้น
เมื่อผตน.ไปพบเพื่อประสานและฟังการบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว จนได้รับทราบข่าวสารแนวความคิดและข้อจำกัดต่าง ๆ อย่างพอเพียงก็จะเริ่มปฏิบัติภารกิจในความเป็น ผตน.ของตน เพื่อปฏิบัติภารกิจทั้ง ๔ ประการของการตรวจการณ์ งานขั้นต้นในตอนนี้ได้แก่
ก. การเลือกและเข้าประจำที่ตั้งที่ตรวจการณ์
ข. ตรวจสอบเครื่องมือสื่อสารและสถาปนาการสื่อสารกับหน่วยรับการสนับสนุน และ สอย.ของตน (กองร้อยหรือกองพันแล้วแต่จะกำหนด)
ค. หาที่ตั้งจุดยิงหาหลักฐาน, จุดอ้าง, เป้าหมาย, ฉากการยิงป้องกันขั้นสุดท้าย และตำบลยิงป้องกันต่าง ๆ แล้วรายงานให้ ศอย.ทราบ (บัญชีเป้าหมายขั้นต้น)
ง. หาที่อยู่ขนตนเอง แล้วรายงานให้ ศอย. ทราบรวมทั้งเขตการตรวจการณ์ ที่ตั้งและแนวหน้าของหน่วยรับการสนับสนุน รวมทั้งลักษณะในการวางกำลังและข้อจำกัดในการยิงต่าง ๆ
จ. ตรวจสนามรบและรายงานเกี่ยวกับข่าวภูมิประเทศ ลมฟ้าอากาศและข้าศึก ในเรื่องการวางกำลัง การเคลื่อนไหว การปฏิบัติขิงข้าศึก รวมทั้งอากาศยานต่าง ๆ โดยรายงานตามความเป็นจริงที่ได้รับทราบ หรือตรวจพบ ไม่ใช้การคาดคะเนหรือวินิจฉัยเอาเอง
ฉ. ชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ในทีมเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ ระเบียบปฏิบัติประจำ แนวทางในการปฏิบัติงานและอื่น ๆ ที่จำเป็น
ช. ทำแผนผังการมองเห็นเสนอให้ ฝอ.๒ ทราบเพื่อวางแผนการตรวจการณ์สนามรบ
ซ. เตรียมเครื่องมือเครื่องใช้และสิ่งอำนวยความสะดวกให้พร้อม และดัดแปลงที่ตั้งทั้งการพรางและจัดทำที่วางตัวให้เหมาะสมปรับปรุงไปตามลำดับ
ฌ. ประสานการตรวจการณ์และเขตการยิงกับ ผตน. หรือที่ตรวจการณ์อื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง
ญ. รับทราบที่ตั้งเครื่องมือตรวจการณ์อื่น ๆ เช่น ที่ตรวจการณ์ ที่ตั้งเรดาร์ ฐานแสง เสียง เป็นต้น ทำการติดต่อและประสานเมื่อจำเป็น
ฎ. เฝ้าตรวจสนามรบตลอดเวลา และรายงานข่าวสารให้หน่วยของตนทราบตลอดเวลา (ผ่าน ฝอ.๒)
ฏ. ขอการยิง ปรับการยิงและตรวจผลการยิงอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา โดยถือว่าเป็นความเร่งด่วนอันดับหนึ่งของหน้าที่ผู้ตรวจการณ์หน้า
ฐ. ส่วนการวางแผนการยิงโดยละเอียด และการประสานการยิงสนับสนุนนั้น หาก ผตน. ป. ได้อยู่กับ ผบ.ร้อยดำเนินกลยุทธ ก็จะกระทำได้ลำบาก แนวทางในการปฏิบัติในปัจจุบันน่าจะให้นายสิบลาดตระเวนตรวจการณ์หน้า หรือนายสิบติดต่อเป็นผู้ประจำที่ตรวจการณ์ ส่วน ผตน. กับนายสิบอีก ๑ คน อยู่กับ ผบ.ร้อย ดำเนินกลยุทธ เพื่อให้คำปรึกษา ประสานและวางแผนการยิงสนับสนุนให้กลมกลืน และเกื้อกูลแก่การปฏิบัติของกองร้อยดำเนินกลยุทธนั้นอย่างดีที่สุด