เริ่มบังคับใช้ 13 มีนาคม 2562 และเริ่มจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป เนื้อหาใน พร ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 นี้ ประกอบด้วยเนื้อหา 11 หมวด ดังนี้
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ออกมาแทนภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ เพื่อให้
การดำเนินการเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจของประเทศ
คำศัพท์ที่สำคัญ
ผู้เสียภาษี หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง หรือเป็นผู้ครอบครองหรือหาประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐ ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ และให้หมายความรวมถึงผู้มีหน้าที่ชำระภาษีแทนผู้เสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย
ที่ดิน” หมายความว่า พื้นดิน รวมถึงพื้นที่ที่เป็นภูเขาหรือที่มีน้ำด้วย
“สิ่งปลูกสร้าง” หมายความว่า โรงเรือน อาคาร ตึก หรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ที่บุคคลอาจเข้าอยู่อาศัยหรือใช้สอยได้ หรือที่ใช้เป็นที่เก็บสินค้าหรือประกอบการอุตสาหกรรมหรือพาณิชยกรรม
และให้หมายความรวมถึงห้องชุดหรือแพที่บุคคลอาจใช้อยู่อาศัยได้หรือที่มีไว้เพื่อหาผลประโยชน์ด้วย
“ห้องชุด” หมายความว่า ห้องชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดที่ได้ออกหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุดแล้ว
ฐานภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ฐานภาษีเพื่อการคำนวณภาษีในการคำนวณภาษีทีดินและสิ่งปลูกสร้าง ได้แก่ มูลค่าทั้งหมดของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง มีหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
1. ที่ดิน ให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ
2. สิ่งปลูกสร้าง ให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์สิ่งปลูกสร้างเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ
3. สิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องชุด ให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุดเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ
หมายเหตุ
1. กรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มีราคาประเมินทุนทรัพย์ การคำนวณมูลค่าให้เป็นไป
ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กาหนดในกฎกระทรวง
2. ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องชุด ให้เป็นไปตามราคา
ประเมินทุนทรัพย์ของอสังหาริมทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ที่คณะอนุกรรมการประจำจังหวัดกาหนดโดยความเห็นชอบของ
คณะกรรมการกาหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ราคาประเมิน
3. ราคาประเมิน โดยกรมธนาลักษณ์ ตรวจสอบ ได้ที่เว็บไซต์ http://property.treasury.go.th/pvmwebsite/index.asp
บัญชีราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และห้องชุด มีรายละเอียด ดังนี้
(1) บัญชีราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง ตามแบบบัญชีราคาประเมินทุนทรัพย์ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ภ.ด.ส.1) ประกอบด้วย
(1.1) ข้อมูลที่ดิน ได้แก่ ประเภทที่ดิน
(โฉนด/น.ส. 3/ส.ป.ก. เป็นต้น) เลขที่ ลักษณะการทำ ประโยชน์ จำนวนเนื้อที่ดิน (ไร่/งาน/วา) ราคาประเมินต่อ ตร.ว. และรวมราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดิน
(1.2) ข้อมูลสิ่งปลูกสร้าง ได้แก่ ประเภท สิ่งปลูกสร้าง (ตามบัญชีกรมธนารักษ์) ขนาดพื้นที่ (ตร.ม.) ราคาประเมินต่อ ตร.ม. รวมราคาประเมินสิ่งปลูกสร้าง ค่าเสื่อม (ตามตารางคำนวณค่าเสื่อมที่กรมธนารักษ์กำหนด) ราคาประเมินหลังหักค่าเสื่อม
ตารางคำนวณค่าเสื่อมที่กรมธนารักษ์กำหนด http://property.treasury.go.th/pvmwebsite/search_data/deprice.htm
อัตราเพดานภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
กรณีที่อยู่อาศัย 2563
การคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสราง คำนวณโดย (ฐานภาษี - มูลค่ายกเว้น ม.40-41) * อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องเสีย
กรณีที่ดินหลายแปลงซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกันและเป็นของเจ้าของเดียวกัน ให้คานวณมูลค่าที่ดินทั้งหมดรวมกันเป็นฐานภาษี
รกร้างว่างเปล่า เพิ่มอัตรา 0.3% ทุก 3 ปี แต่อัตรารวมไม่เกิน 3%
มาตรา 40 ในกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม อยู่ภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ให้ได้รับยกเว้น มูลค่าของฐานภาษีของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น รวมกันในการคำนวณภาษีไม่เกินห้าสิบล้านบาท (50 ล้านบาท)
มาตรา 41 ในกรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัย และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในวันที่ 1 มกราคมของปีภาษีนั้นให้ได้รับยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีในการคานวณภาษีไม่เกินห้าสิบล้านบาท (50 ลบ)
ในกรณีที่บุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้าง แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน และใช้สิ่งปลูกสร้างดังกล่าว เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในวันที่ 1 มกราคมของปีภาษีนั้น ให้ได้รับยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีในการคานวณภาษีไม่เกินสิบล้านบาท (10 ล้านบาท)
1. ทรัพย์สินของรัฐหรือของหน่วยงานของรัฐซึ่งใช้ในกิจการของรัฐหรือของหน่วยงานของรัฐ หรือในกิจการสาธารณะ ทั้งนี้ โดยมิได้ใช้หาผลประโยชน์
2. ทรัพย์สินที่เป็นที่ทำการขององค์การสหประชาชาติ ทบวงการชำนัญพิเศษขององค์การ
สหประชาชาติหรือองค์การระหว่างประเทศอื่น ซึ่งประเทศไทยมีข้อผูกพันที่ต้องยกเว้นภาษีให้ตามสนธิสัญญา หรือความตกลงอื่นใด
3. ทรัพย์สินที่เป็นที่ทำการสถานทูตหรือสถานกงสุลของต่างประเทศ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน
4. ทรัพย์สินของสภากาชาดไทย
5. ทรัพย์สินที่เป็นศาสนสมบัติไม่ว่าของศาสนาใดที่ใช้เฉพาะเพื่อการประกอบศาสนกิจหรือ กิจการสาธารณะ หรือทรัพย์สินที่เป็นที่อยู่ของสงฆ์ นักพรต นักบวช หรือบาทหลวง ไม่ว่าในศาสนาใด หรือทรัพย์สินที่เป็นศาลเจ้า ทั้งนี้ เฉพาะที่มิได้ใช้หาผลประโยชน์
6. ทรัพย์สินที่ใช้เป็นสุสานสาธารณะหรือฌาปนสถานสาธารณะ โดยมิได้รับประโยชน์ตอบแทน
7. ทรัพย์สินที่เป็นของมูลนิธิ หรือองค์การหรือสถานสาธารณกุศลตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนด ทั้งนี้ เฉพาะที่มิได้ใช้หาผลประโยชน์
8. ทรัพย์สินของเอกชนเฉพาะส่วนที่ได้ยินยอมให้ทางราชการจัดให้ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนด
9. ทรัพย์ส่วนกลางที่มีไว้เพื่อใช้หรือเพื่อประโยชน์ร่วมกันสำหรับเจ้าของร่วมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด เช่น สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และสวนสาธารณะในพื้นที่ส่วนกลางของอาคารชุด เป็นต้น
10. ที่ดินอันเป็นสาธารณูปโภคตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน เช่น ถนน สวน หรือ สนามเด็กเล่น เป็นต้น
11. ที่ดินอันเป็นพื้นที่สาธารณูปโภคตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
12. ทรัพย์สินอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งการประเมินภาษี โดยส่งแบบประเมินภาษีให้แก่ผู้เสียภาษีตามมาตรา 9 ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ให้ผู้เสียภาษีชาระภาษีตามแบบแจ้งการประเมินภาษีภายในเดือนเมษายนของทุกปี
ปี 2563 เขต กทม เลื่อนชำระภายใน ตค 2563
1. ประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 11 ธค 2562 เลื่อนเป็นชำระภายใน สค 2563
2. ประกาศ กทม.ลงวันที่ 28 สค 2563 เลื่อนกำหนดชำระ เพื่อบรรเทาสถานะการณ์การแพร่ระบาดโควิท-19
(1) สานักงานเทศบาล สาหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตเทศบาล
(2) ที่ทาการองค์การบริหารส่วนตาบล สาหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตาบล
(3) สานักงานเขตที่ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างนั้นตั้งอยู่ สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร
(4) ศาลาว่าการเมืองพัทยา สาหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตเมืองพัทยา
(5) ที่ทาการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่มีกฎหมายกาหนด สำหรับที่ดินหรือ สิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น
หากผู้เสียภาษีไม่ชำระภาษีภายในเวลาที่กำหนดให้ถือเป็นผู้ค้างชำระภาษี โดยต้องเสียค่าภาษีที่ค้างชำระรวมทั้งเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ดังนี้
1 เบี้ยปรับ แล้วแต่กรณี ดังนี้
(1) ผู้เสียภาษีมาชำระภาษีก่อนจะได้รับหนังสือแจ้งเตือนให้คิดเบี้ยปรับร้อยละ 10 ของจำนวนภาษีค้างชำระ
(2) ผู้เสียภาษีมาชำระภาษีภายในกำหนดของหนังสือแจ้งเตือน ให้คิดเบี้ยปรับร้อยละ 20 ของจำนวนภาษีค้างชำระ
(3) ผู้เสียภาษีไม่ได้ชำระภาษีภายในกำหนดของหนังสือแจ้งเตือน ให้คิดเบี้ยปรับร้อยละ 40 ของจำนวนภาษีค้างชำระ
2 เงินเพิ่มร้อยละ 1 ต่อเดือนของจำนวนภาษีค้างชำระ เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือน โดยให้เริ่มนับเมื่อพ้นกำหนดเวลาชำระภาษีจนถึงวันที่มีการชำระภาษี แต่ไม่ให้เกินกว่าจำนวนภาษีที่ต้องชำระ
3 เบี้ยปรับอาจงดได้ในกรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น ถูกยึดหรืออายัดตามกฎหมาย โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีจะต้องยื่นคำร้องเป็นหนังสือต่อผู้บริหารท้องถิ่น และ ผู้บริหารท้องถิ่น มีอำนาจสั่งงดเบี้ยปรับ นับแต่วันที่ศาลหรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายมีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
4. กรณีขอผ่อนชำระภาษี แล้วผิดนัด หมดสิทธิในการผ่อนชำระ จะต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละ 1/เดือนของจำนวนภาษีค้างชำระ
เบี้ยปรับเงินเพิ่ม กรณีค้างชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ใน 3 ปีแรก ยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สำหรับเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่เป็นบุคคลธรรมดาและใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม (ม.96)
(ม.97) กรณีที่ผู้เสียภาษีได้รับการประเมินภาษี ในจำนวนที่สูงกว่าจำนวนภาษีโรงเรือนและที่ดินหรือภาษีบารุงท้องที่ ที่ต้องเสียหรือพึงชาระในปีก่อน ให้ชำระภาษีตามจำนวนที่เคยเสียในปีก่อน ส่วนที่เิพิ่มให้เสียภาษี ดังนี้
(1) ปีที่หนึ่ง 25% + ภาษีที่เพิ่ม
(2) ปีที่สอง 50% + ภาษีที่เพิ่ม
(3) ปีที่สาม 75% + ภาษีที่เพิ่ม
อ้างอิง
พระราชบัญญัติ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/030/T_0021.PDF