คำศัพท์ที่ใช้ในมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 2 เรื่อง สินต้าคงเหลือ มีความหมายโดยเฉพาะดังนี้
สินค้ำคงเหลือ หมายถึง สินทรัพย์ซึ่ง มีลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้
1) ถือไว้เพื่อขายตามลักษณะการประกอบธุรกิจ ตามปกติของกิจการ
2) อยู่ในระหว่างกระบวนการผลิตเพื่อให้เป็นสินค้าสาเร็จรูปเพื่อขาย หรือ
3) อยู่ในรูปของวัตถุดิบ หรือวัสดุที่มีไว้เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าหรือให้บริการ
มูลค่ำสุทธิที่จะได้รับ หมายถึง ราคาโดยประมาณที่คาดว่าจะขายได้ตามลักษณะ การประกอบธุรกิจตามปกติ หักด้วยประมาณการต้นทุน ในการผลิตสินค้านั้นให้เสร็จและต้นทุนที่จาเป็นต้องจ่ายไปเพื่อให้ขายสินค้านั้นได้
สินค้าคงเหลือต้องวัดมูลค่าด้วยราคาทุนหรือมูลค่าสุทธิที่จะได้รับแล้วแต่มูลค่าใดจะต่ำกว่า
ต้นทุนของสินค้าคงเหลือ
ต้นทุนของสินค้าคงเหลือต้องประกอบด้วยต้นทุนทั้งหมดในการซื้อ ต้นทุนแปลงสภาพ และต้นทุนอื่นๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อให้สินค้าคงเหลือนั้นอยู่ในสถานที่และอยู่ในสภาพที่เป็นอยู่ ในปัจจุบัน
ต้นทุนในการซื้อ
ต้นทุนในการซื้อของสินค้าคงเหลือประกอบด้วย
ราคาซื้อ+อากรขาเข้า+ และภาษีอื่น +ค่าขนส่ง+ ค่าขนถ่าย + ต้นทุนอื่นๆ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการได้มาซึ่งสินค้าสาเร็จรูป วัตถุดิบ และบริการ
ในการคำนวณหาต้นทุนในการซื้อสินค้าให้นำส่วนลดการค้า เงินที่ได้รับคืนและรายการอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันมาหักออกในการคานวณต้นทุนในการซื้อด้วย
ต้นทุนแปลงสภาพ
ต้นทุนแปลงสภาพของสินค้าคงเหลือ ประกอบด้วย
ต้นทุนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสินค้าที่ผลิต เช่น ค่าแรงงานทางตรง + ค่าใช้จ่ายการผลิตที่ปันส่วน
ค่าใช้จ่ายการผลิตที่ปันส่วน = ต้นทุนผลิตคงที่+ ต้นทุนผลิตผันแปร
ต้นทุนผลิตคงที่คือ ต้นทุนการผลิตทางอ้อมที่เกิดขึ้นในการผลิตด้วยจานวนที่ค่อนข้างคงที่ โดยไม่สัมพันธ์กับปริมาณการผลิต เช่น ค่าเสื่อมราคา และค่าบารุงรักษาอาคารโรงงาน อุปกรณ์โรงงาน และสินทรัพย์สิทธิการใช้ที่ใช้ในกระบวนการผลิต และต้นทุนเกี่ยวกับฝ่ายจัดการโรงงานและการบริหารโรงงาน
ต้นทุนผลิตผันแปร คือ ต้นทุนการผลิตทางอ้อมที่ผันแปรโดยตรงหรือค่อนข้างจะผันแปรโดยตรงกับปริมาณการผลิต เช่น วัตถุดิบทางอ้อม และค่าแรงงานทางอ้อม
การปันส่วนค่าใช้จ่าย
การปันส่วนค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่เข้าสู่ต้นทุนแปลงสภาพอ้างอิงจากฐานกำลังการผลิตปกติ ของเครื่องมือในการผลิต
กำลังการผลิตปกติ คือ การผลิตที่คาดว่าจะผลิตได้โดยเฉลี่ยใน หลายช่วงเวลาหรือในหลายฤดูกาลภายใต้สภาวการณ์ปกติ โดยคำนึงถึงกำลังการผลิตที่สูญเสีย อันเกิดจากการบำรุงรักษาตามแผนที่วางไว้
ระดับการผลิตที่เกิดขึ้นจริงอาจนำมาใช้ได้หากใกล้เคียงกับกำลังการผลิตปกติ จำนวนค่าใช้จ่ายคงที่ที่ปันส่วนเข้าแต่ละหน่วยการผลิตจะไม่เพิ่มขึ้นแม้ว่า การผลิตจะลดต่าลงหรือไม่มีการผลิต
ค่าใช้จ่ายในการผลิตที่ไม่ได้ถูกปันส่วนให้รับรู้เป็นค่าใช้จ่าย ในงวดที่เกิดค่าใช้จ่ายนั้น
ในช่วงเวลาที่มีการผลิตสูงผิดปกติ จำนวนค่าใช้จ่ายคงที่ต่อหน่วยจะถูกปันส่วนเข้าสินค้าแต่ละหน่วยที่ผลิตน้อยลง เพื่อไม่ให้สินค้าคงเหลือมีมูลค่าสูงกว่าต้นทุน
ค่าใช้จ่ายการผลิตผันแปร จะปันส่วนเข้าสินค้าแต่ละหน่วยที่ผลิต ตามต้นทุนการผลิตที่ใช้จริงของเครื่องมือในการผลิต
ผลิตภัณฑ์ร่วม ผลิตภัณฑ์พลอยได้
ในกระบวนการผลิตหนึ่งอาจมีการผลิตผลิตภัณฑ์พร้อมกันมากกว่าหนึ่งชนิด ตัวอย่างเช่น
กรณีที่มีการผลิตผลิตภัณฑ์ร่วม
กรณีที่มีทั้งผลิตภัณฑ์หลักและผลิตภัณฑ์พลอยได้
หากต้นทุนแปลงสภาพของแต่ละผลิตภัณฑ์ไม่อาจระบุแยกกันได้อย่างชัดเจน ให้ใช้เกณฑ์การปันส่วนที่สมเหตุสมผลและสม่าเสมอ ตัวอย่างของเกณฑ์ที่ใช้ในการปันส่วน เช่น
1. การใช้มูลค่าขายของ แต่ละผลิตภัณฑ์ ณ ขั้นตอนการผลิตที่สามารถแยกผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจน หรือเมื่อการผลิตเสร็จสิ้นเป็นเกณฑ์
2. สำหรับผลิตภัณฑ์พลอยได้ ซึ่งโดยลักษณะส่วนใหญ่มักมีจำนวนที่ไม่เป็นสาระสำคัญ มักจะวัดมูลค่าโดยใช้มูลค่าสุทธิที่จะได้รับและนำมูลค่าดังกล่าวไปหักจากต้นทุนของผลิตภัณฑ์หลัก ดังนั้น มูลค่าตามบัญชีของผลิตภัณฑ์หลักจึงไม่แตกต่างอย่างเป็นสำระสาคัญจากต้นทุนของผลิตภัณฑ์หลัก
ต้นทุนอื่นๆ
ต้นทุนอื่นจะนำไปรวมในต้นทุนสินค้าคงเหลือได้
ต้นทุนที่ไม่นามารวมเป็นต้นทุนสินค้าคงเหลือ
ตัวอย่างของต้นทุนที่ไม่นามารวมเป็นต้นทุนสินค้าคงเหลือและให้รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายในงวด ที่เกิดขึ้น เช่น
1 วัตถุดิบ ค่าแรงงานหรือค่าใช้จ่ายการผลิตอื่นที่สูญเสียเกินกว่าปกติ
2 ต้นทุนในการเก็บรักษาสินค้า เว้นแต่เป็นต้นทุนที่จำเป็นในกระบวนการผลิตก่อนจะถึงขั้นตอนการผลิตถัดไป
3 ค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ไม่เกี่ยวกับการทำให้สินค้าอยู่ในสถานที่และอยู่ในสภาพ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และ
4 ต้นทุนในการขาย
เทคนิคสาหรับการวัดมูลค่าของต้นทุน
เทคนิคสำหรับการวัดมูลค่าของต้นทุนสินค้าคงเหลือ เช่น
วิธีต้นทุนมาตรฐาน
วิธีราคาขายปลีก
อาจนามาใช้เพื่อความสะดวก หากวิธีการประมาณต้นทุนดังกล่าวให้ผลใกล้เคียงกับต้นทุนจริง ต้นทุนมาตรฐานกำหนดจากการใช้วัตถุดิบ วัสดุโรงงาน ค่าแรงงาน ประสิทธิภาพและการใช้กำลังการผลิตในระดับปกติ
ต้นทุนมาตรฐานต้องมีการทบทวนอยู่เสมอและปรับปรุงเมื่อจาเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน
วิธีราคาเจาะจงสาหรับต้นทุนของแต่ละรายการ
ต้นทุนตามวิธีราคาเจาะจงเป็นวิธีการบันทึกต้นทุนที่เจาะจงได้ในสินค้าคงเหลือแต่ละรายการ วิธีนี้จึงเหมาะที่จะใช้สำหรับสินค้าที่แยกไว้สำหรับโครงการหนึ่งโครงการใดโดยเฉพาะ โดยไม่คานึงว่าสินค้าคงเหลือดังกล่าวจะซื้อมาหรือผลิตขึ้นเอง
วิธีราคาเจาะจงจะนี้ไม่เหมาะสม หากสินค้าคงเหลือมีรายการจานวนมากและโดยปกติมีลักษณะสับเปลี่ยนกันได
วิธีเข้าก่อน ออกก่อน หรือวิธีต้นทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้าหนัก
ต้นทุนสินค้าคงเหลือนอกจากที่กล่าวในย่อก่อน ที่เข้าข่ายใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ต้องคำนวณมูลค่าโดยวิธีเข้าก่อน ออกก่อน หรือวิธีต้นทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้าหนัก
กิจการต้องใช้วิธีการคำนวณต้นทุน ด้วยวิธีเดียวกันสำหรับสินค้าคงเหลือทุกชนิดที่มีลักษณะและการใช้คล้ายคลึงกัน สำหรับสินค้าคงเหลือที่มีลักษณะและการใช้ต่างกันอาจใช้วิธีคานวณต้นทุนที่ต่างกันไปได้หากเหมาะสม
วิธีเข้าก่อนออกก่อน มีข้อสมมติว่า สินค้าคงเหลือรายการที่ซื้อมาหรือผลิตขึ้นก่อนจะขาย ออกไปก่อน จึงเป็นผลให้รายการสินค้าคงเหลือที่เหลืออยู่ ณ วันสิ้นงวดเป็นสินค้าที่ซื้อมาหรือ ผลิตขึ้นในครั้งหลังสุด
วิธีต้นทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้าหนัก ต้นทุนสินค้าคงเหลือแต่ละรายการจะกำหนดจากการถัวเฉลี่ยต้นทุนของสินค้าที่คล้ายคลึงกัน ณ วันต้นงวดกับต้นทุนของสินค้า ที่คล้ายคลึงกันที่ซื้อมาหรือผลิตขึ้นในระหว่างงวด ซึ่งวิธีการคานวณต้นทุนถัวเฉลี่ยอาจคำนวณ เป็นงวดๆ ไปหรือคำนวณทุกครั้งที่ได้รับสินค้า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของกิจการ
ต้นทุนของสินค้าคงเหลืออาจจะไม่ได้รับคืนถ้าสินค้าคงเหลือเหล่านั้นเกิดความเสียหาย หรือเกิดความล้าสมัยบางส่วนหรือทั้งหมด หรือราคาขายลดลง ต้นทุนของสินค้าคงเหลืออาจจะไม่ได้รับคืน หากประมาณการต้นทุนในการทำต่อให้เสร็จ หรือประมาณการต้นทุนที่เกิดขึ้นเพื่อทำให้สินค้าขายได้เพิ่มขึ้น
การตีราคาสินค้าคงเหลือลดลงจากราคาทุนให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ สอดคล้องกับแนวความคิดที่ว่า สินทรัพย์ไม่ควรแสดงมูลค่าตามบัญชีที่สูงกว่ามูลค่าที่คาดว่าจะได้รับจากการขาย หรือประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้
การลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือลงให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ มักพิจารณาจากสินค้าแต่ละรายการ
ในการประมาณการมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ ให้ถือตามหลักฐานที่เกี่ยวกับจำนวนเงินที่คาดว่าจะได้รับจากสินค้าคงเหลือ ซึ่งเชื่อถือได้มากที่สุดที่มีอยู่ ในขณะที่ประมาณมูลค่า ประมาณการดังกล่าว ให้พิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงของราคา หรือต้นทุนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังวันสิ้นงวด ซึ่งยืนยันว่าสถานการณ์นั้นได้ปรากฏอยู่แล้ว ณ วันสิ้นงวด
เมื่อมีการขายสินค้าคงเหลือออกไป เกิดรายได้ขึ้น ให้รับรู้มูลค่าของสินค้านั้นเป็นต้นทุนขายในงวดเดีวยวกัน
มูลค่าที่ลดลงของสินค้าคงเหลือเนื่องจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ และผลขาดทุนทั้งหมดที่เกี่ยวกับสินค้าคงเหลือต้องรับรู้เป็นค่าใช้จ่าย ในงวดที่ปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้ลดลงหรือมีผลขาดทุนเกิดขึ้น
จำนวนที่เกิดจากการกลับรายการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของ มูลค่าสุทธิที่จะได้รับต้องรับรู้ โดยนำไปหักจากมูลค่าของสินค้าคงเหลือที่รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายในงวดบัญชีที่มีการกลับรายการดังกล่าว
สินค้าคงเหลือบางส่วนอาจถูกปันส่วนไปยังบัญชีสินทรัพย์อื่น ตัวอย่างเช่น สินค้าที่ใช้เป็นส่วนประกอบของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นเอง สินค้าคงเหลือที่ปันส่วนไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่นใ นลักษณะนี้ให้รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายตามอายุการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์นั้น
เพื่อให้ทราบมูลค่าสินค้าคงเหลือและต้นทุนขาย มีวิธีการบัญชีอยู่ 2 วิธีคือ
1. วิธีบันทึกรับจ่ายสินค้าต่อเนื่อง (Perpetual Inventory)
2. วิธีบันทึกสินค้าสิ้นงวด (Periodic Inventory)
1. วิธีบันทึกรับจ่ายสินค้าต่อเนื่อง (Perpetual Inventory)
วิธีบันทึกรับจ่ายสินค้าต่อเนื่องนี้ จะบันทึกรายการรับหรือจ่ยสินค้าในบัญชีทุกรายการ ทำให้ทราบต้นทุนขายและสินค้าคงเหลือทุกขณะ กิจการต้องมีบัญชีคุมสินค้าแต่ละประเภท เพื่อบันทึกปริมาณและราคาทุนของสินค้าที่รับหรือจ่ายและคงเหลือ
รายการบัญชี ทุกรายการซื้อ จะบันทึกบัญขีโดย เดบิต สินค้าคงเหลือ เครดิต เจ้าหนี้
รายการบัญชี ทุกรายการขาย จะบันทึกบัญขีโดย เดบิต ต้นทุนขาย เครดิต สินค้าคงเหลือ
2. วิธีบันทึกสินค้าสิ้นงวด (Periodic Inventory)
วิธีบันทึกสินค้าสิ้นงวดนี้จะรอจนกว่าวันสิ้นงวดบัญชีจึงจะตรวจนับและตีราคาสินค้าคงเหลือ แล้วคำนวนต้นทุนขายสำหรับปี ในกรณีนี้บัญชีคุมสินค้ามีความสำคัญมากเพราะเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณและราคาทุนของสินค้าคงเหลือ
รายการบัญชี ทุกรายการซื้อ จะบันทึกบัญขีโดย เดบิต ซื้อ เครดิต เจ้าหนี้
รายการบัญชี แต่รายการขาย จะไม่มีการบันทึกบัญชี และเมื่อถึงวันสิ้นงวดบัญชี จะทำการกระทบยอดต้นทุนขาย ดังนี้
สินค้าคงเหลือต้นปี+ซื้อระหว่างปี – สินค้าสิ้นปี = ต้นทุนขาย
กิจการต้องเปิดเผยข้อมูลทุกข้อต่อไปนี้ในงบการเงิน
1 นโยบายการบัญชีที่ใช้ในการวัดมูลค่าสินค้าคงเหลือ รวมถึงวิธีที่ใช้คานวณต้นทุน
2 มูลค่าตามบัญชีรวมของสินค้าคงเหลือและมูลค่าตามบัญชีของสินค้าคงเหลือ แต่ละประเภทจำแนกตามความเหมาะสมของแต่ละกิจการ
3 มูลค่าตามบัญชีของสินค้าคงเหลือที่แสดงด้วยมูลค่ายุติธรรมหักต้นทุนในการขาย
4 มูลค่าของสินค้าคงเหลือที่รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายในระหว่างงวดบัญชีนั้น
5 มูลค่าของสินค้าคงเหลือที่ปรับลดลงที่รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายในงวดบัญชีนั้น
6 มูลค่าการกลับรายการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ ซึ่งกิจการรับรู้โดยนาไปหักจากมูลค่าของสินค้าคงเหลือที่รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายในงวดบัญชี
7 สถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่ทำให้มีการกลับรายการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ และ
8 มูลค่าตามบัญชีของสินค้าคงเหลือที่ใช้เป็นหลักประกันหนี้สิน
1. การเสนอซื้อและขออนุมัติซื้อ
2. การสั่งซื้อ
3. การรับของ
4. การตรวจสอบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการซื้อ และทำใบสำคัญจ่าย
วัตถุประสงค์ของการตรวจสอบสินค้าคงเหลือ
1. เพื่อให้ทราบว่าสิ้นค้าคงเหลือสิ้นปีมีอยู่จริง
2. เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการตีราคาสินค้าคงเหลือ
3. เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการตัดยอดซื้อประจำปี
4. เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมของสินค้าคงเหลือและต้นทุนสินค้าที่ขายโดยทั่วไป ในแง่อัตรากำไรขั้นต้นและการหมุนเวียนสินค้า
5. เพื่อประเมินประสิทธิภาพการควบคุมภายเกี่ยวกับการซื้อสินค้า การรับของ การจ่ายเงิน และการควบคุมสินค้า
1. การรับสินค้า สินค้าทั้งสิ้นที่กิจการซื้อ ควรมีการดรวจรับโดยบุคคลซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อและการเก็บรักษา หน้าที่ตรวจรับสินค้า ได้แก่ การตรวจลอบสินค้าที่รับมอบว่ามีปริมาณและคุณภาพตามใบสั่งซื้อและอยู่ในสภาพเรียบร้อย แล้วทำหลักฐานใบรับของเพื่อส่งมอบให้แผนกพัสดุรับไปเก็บรักษาต่อไป
2. การเก็บรักษาสินค้า ควรกำหนดให้มีพนักงานรับผิดชอบเก็บสินค้าทุกประเภทอย่างแน่นอน เมื่อแผนกพัสดุรับมอบสินค้าที่ซื้อไว้เก็บรักษาเรียบร้อยแล้ว จะส่งหลักฐานไปยังแผนกบัญชีเพ่อเบิกจ่ายเงินให้ผู้ขายต่อไป
3. การจ่ายสินค้า ทุกครั้งที่จ่ายวัดถุดิบหรือวัสคุด่าง ๆ ต้องมีใบเบิกเป็นหลักฐาน เมื่อจ่ายสิ่งของให้ดามใบเบึกนลัว แผนกพัสดุจะส่งไบเบิกสินค้าไให้แผนกบัญชีเพื่อโอนบัญชีด่อไป ส่วนการส่งสินค้าให้ลูกค้านั้นไข้ใบส่งของเนินหลักฐาน
4. การผลืด สินค้าซึ่งอยู่ระหว่างการผลิตควรให้ผูควบคุมงานรับผิดชอบตั้งแด่เมื่อไต้รับวัตถุดิบและวัสต่าง ๆ เข้าท่าการผลิดจนเสร็จเป็นสินค้าสำเร็จรูป และแจ้งไห้แผนกบัญชีทราบ ปริมาณสินค้าส่าเริจรูปที่ผลืดได้และปริมาณงานที่โอนจากช่วงหนึ่งไปยังอึกช่วงหนึ่ง
5. การส่งของ การส่งสินค้าให้ลูกค้าต้อองมีใบส่งของ เพื่อให้ลูกค้าลงขื่อรับของไว้เป็นหลักฐานและมีส่าเนาใบส่งของให้แผนกพัสดุใช้เป็นหลักฐานจ่ายสินค้าด้าย
6. ระบบบัญชีด้นทุน การบันทึกราคาสินค้าประเภทค่าง ๆ จำเป็นต้องอาค้ยระบบบัญชีต้นทุนที่ดีและมีความสัมพันธ์กับบัญชีการเงินด้วย
7. บัญชีรายละเอียดสินห้า ส่วนประกอบทีสำคัญของระบบการควบคุมภายไน ได้แก่บัญชีรายละเอียดสินค้าซึ่งแสดงปริมาณสินค้าคงเหลือทุกขณะ ช่วยไห้ผู้บริหารงานสามารถ
ดัดสินใจเกี่ยวกับการสั่งชื้อ การขาย และการผสิต บัญชีรายละเอียดสินค้าช่วยให้ทราบปริมาณสินค้าที่สูญหาย และทำให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับสินค้าต้องปฏิบัติงานด้วยความระมดระวังยิ่งชื้น
8. ต้องมีการตรวจน้บสินห้าคงเหลือเพื่อเปรียบเทียบกับปริมาณดามบัญชีรายละเอียดสินค้า การดรวจน้บสินค้าคงเหลือนี้อาจกระทำเมึ่อลิ้นงวดบัญชี หรือตรวจนับหมุนเวียนตลอดทั้งปีก็ได้ ถ้าปรากฏว่าปริมาณสินค้าที่ตรวจนับได้ไม่ดรงคามบัญชีรายละเอียดสินค้า ให้สอบสวนหาสาเหตุแลัวปรับปรุงบัญชีรายละเอียดสินค้าไห้ตรงกับความจริงต่อไป
1. ตรวจนับสินค้าคงเหลือ
2. ตรวจสอบหลักเกณฑ์และวิธีการตีราคาสินค้าคงเหลือ
3. ตรวจสอบการคำนวณราคา
4. ตรวจตัดยอดซื้อ
5. ตรวจตัดยอดขาย
6. ตรวจสอบต้นทุนสินค้าที่ขาย
7. ตรวจสอบสินค้าที่ใช้เป็นหลักประกันหนี้สินและข้อผูกพันการซื้อขายสินค้าในภายหน้า
8. ตรวจสอบการประกันภัยและการเก็บรักษาสินค้า
9. ขอใบรับรองสินค้าสินค้าคงเหลือ
10. ตรวจสอบสินค้าคงเหลือยกมาต้นปี กรณีตรวจสอบเป็นปีแรก
อ้างอิง :
ระบบบัญชี วิไล วีระปรีย, จงจิตต์ หลีกภัย ISBN 974-633-220-1
การสอบบัญชี พยอม สิงห์เสน่ห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 2 สินค้าคงเหลือ (ปรับปรุง 2562)