สินทรัพย์ถาวารและค่าเสื่อมราคา
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ / สินทรัพย์ถาวร หมายถึง สินทรัพย์ที่มีตัวตนซึ่งเข้าเงื่อนไขทุกข้อต่อไปนี้
1) มีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการผลิต ในการจำหน่ายสินค้าหรือให้บริการ เพื่อให้เช่า หรือเพื่อใช้ในการบริหารงาน และ
2) คาดว่าจะใช้ประโยชน์มากกว่าหนึ่งรอบระยะเวลา
มูลค่ำที่คาดว่าจะได้รับคืน หมายถึง มูลค่ายุติธรรมหั กต้นทุนในการขายของสินทรัพย์ หรือมูลค่าจากการใช้ของสินทรัพย์นั้นแล้วแต่จานวนใดจะสูงกว่า
ค่าเสื่อมราคา หมายถึง การปันส่วนจำนวนที่คิดค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ อย่างมีระบบตลอดอายุการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์นั้น
อายุการใช้ประโยชน์ หมายถึง กรณีใดกรณีหนึ่งต่อไปนี้
1) ระยะเวลาที่กิจการคาดว่าจะมีสินทรัพย์ไว้ใช้ หรือ
2) จำนวนผลผลิตหรือจานวนหน่วยในลักษณะอื่น ที่คล้ายคลึงกันซึ่งกิจการคาดว่าจะได้รับจากสินทรัพย์
มูลค่ายุติธรรม หมายถึง ราคาที่จะได้รับจากการขายสินทรัพย์ หรือจะจ่ายเพื่อโอนหนี้สินในรายการที่เกิดขึ้นในสภาพปกติระหว่าง ผู้ร่วมตลาด ณ วันที่วัดมูลค่า (ดูมาตรฐานการรายงาน ทางการเงิน ฉบับที่ 13 เรื่อง กำรวัดมูลค่ายุติธรรม)
ต้นทุนของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ในที่นี้จะเรียกรวมว่าสินทรัพย์ถาวร รับรู้เป็นสินทรัพย์ก็ต่อเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขทุกข้อต่อไปนี้
1 มีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ที่กิจการจะได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคต จากรายการนั้น และ
2 กิจการสามารถวัดมูลค่าต้นทุนของรายการนั้นได้อย่างน่าเชื่อถือ
รายการชิ้นส่วนอะไหล่ อุปกรณ์ที่สำรองไว้ใช้งาน และอุปกรณ์ที่ใช้ในการซ่อมบำรุงจะถูกรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ เมื่อรายการดังกล่าวเป็นไปตามคานิยามของ ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ หากไม่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว รายการดังกล่าวจะจัดประเภทเป็นสินค้าคงเหลือ
ต้นทุนของสินทรัพย์ถาวร
ต้นทุนของสินทรัพย์ถาวร = ต้นทุนเริ่มแรก + ต้นทุนที่เกิดขึ้นในภายหลัง + ต้นทุนที่เกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับการเช่าสินทรัพย์เพื่อใช้ก่อสร้าง ต่อเติม การเปลี่ยนแทนส่วนประกอบ / การซ่อมบำรุง
ต้นทุนเริ่มแรก
ตันทุนเริ่มแรก รวมถึงต้นทุนทางอ้อมของสินทรัพย์ถาวรที่ได้เป็นการเพิ่มประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตด้วย
ต้นทุนที่เกิดขึ้นในภายหลัง
ต้นทุนในการซ่อมบารุงที่เกิดขึ้นเป็นประจำมีองค์ประกอบหลักเป็นต้นทุนค่าแรงงาน ค่าวัสดุสิ้นเปลือง และอาจรวมถึงชิ้นส่วนอะไหล่ชิ้นเล็ก รายจ่ายดังกล่าวมักมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น “ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษา” ลงบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดขึ้น
การเปลี่ยนแทนส่วนประกอบของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์บางรายการตามระยะเวลาที่กำหนด /เปลี่ยนแทนเพื่อยึดอายุการใช้งาน ต้นทุนในการเปลี่ยนแทนส่วนประกอบดังกล่าวให้รับรู้เป็นส่วนหนึ่งของมูลค่าตามบัญชีของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเมื่อต้นทุนนั้นเกิดขึ้น
ต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการตรวจสอบสภาพครั้งใหญ่แต่ละครั้ง รับรู้เป็นส่วนหนึ่งของมูลค่าตามบัญชี ของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ เช่นเดียวกับ กรณีการเปลี่ยนแทน หากเป็นไปตามเกณฑ์การรับรู้รายการ
กิจการต้องวัดมูลค่าของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ที่เข้าเงื่อนไขการรับรู้รายการเป็นสินทรัพย์โดยใช้ราคาทุน
ราคาทุนของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ประกอบด้วย
1. ราคาซื้อ+อากรขาเข้า+ภาษีซื้อที่เรียกคืนไม่ได้-หักส่วนลดการค้า-จำนวนที่ได้รับคืนจากผู้ขาย
2. ต้นทุนทางตรงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาสินทรัพย์ เพื่อให้สินทรัพย์นั้นอยู่ในสถานที่และสภาพที่พร้อมจะใช้งานได้ตามความประสงค์ของฝ่ายบริหาร
3. ต้นทุนที่ประมาณในเบื้องต้นสาหรับการรื้อ การขนย้าย และการบูรณะสถานที่ตั้งของสินทรัพย์ ซึ่งเป็นภาระผูกพันของกิจการที่เกิดขึ้นเมื่อกิจการได้สินทรัพย์นั้นมาหรือ เป็นผลจากการใช้สินทรัพย์นั้นในช่วงเวลาหนึ่งเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ที่มิใช่เพื่อวัตถุประสงค์ในการผลิตสินค้าคงเหลือในระหว่างรอบระยะเวลานั้น
ตัวอย่างของต้นทุนทางตรงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
1. ต้นทุนผลประโยชน์ของพนักงาน (ตามที่กาหนดในมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 19 เรื่อง ผลประโยชน์ของพนักงาน) ที่เกิดขึ้นโดยตรงจากการก่อสร้างหรือการได้มาซึ่งรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์
2. ต้นทุนการเตรียมสถานที่
3. ต้นทุนการขนส่งเริ่มแรกและการเก็บรักษา
4. ต้นทุนการติดตั้งและการประกอบ
5. ต้นทุนในการทดสอบว่าสินทรัพย์นั้นสามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมหรือไม่ หลังหัก มูลค่าสิ่งตอบแทนสุทธิที่ได้รับจากการขายรายการต่างๆ ที่ผลิตได้ในช่วงการเตรียม ความพร้อมของสินทรัพย์เพื่อให้อยู่ในสถานที่และสภาพที่พร้อมจะใช้งานได้ (เช่น สินค้าตัวอย่างที่ผลิตขึ้นในช่วงการทดสอบอุปกรณ์) และ
6. ค่าธรรมเนียมวิชาชีพ
ตัวอย่างของต้นทุนที่ไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งในราคาทุนของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ได้แก่
1. ต้นทุนในการเปิดสถานประกอบการใหม่
2. ต้นทุนในการแนะนำสินค้าหรือบริการใหม่ (รวมถึงต้นทุนในการโฆษณาและการส่งเสริมการขาย)
3 ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจในสถานที่ตั้งใหม่หรือกับลูกค้ากลุ่มใหม่ (รวมทั้งต้นทุนใน การฝึกอบรมพนักงาน) และ
4 ต้นทุนในการบริหารและค่าใช้จ่ายทั่วไป
ต้นทุนของสินทรัพย์ที่กิจการสร้างขึ้นโดยใช้หลักการเดียวกับการวัดมูลค่าต้นทุน ของสินทรัพย์ที่กิจการได้มา หากกิจการผลิตสินทรัพย์ ที่คล้ายกันออกขายตามปกติ ต้นทุนของสินทรัพย์ที่สร้างเองมักเท่ากับต้นทุนของสินค้าที่ผลิตเพื่อขาย ต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรงห รือทรัพยากรอื่นที่สูญเสียเกินกว่าปกติ ในการก่อสร้างสินทรัพย์ดังกล่าว ไม่ให้นำมารวมเป็นราคาทุนของสินทรัพย์ที่สร้างขึ้นใช้เอง การรับรู้ดอกเบี้ยเป็นส่วนหนึ่งของมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ที่สร้างขึ้นใช้เอง ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่กาหนดในมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 23 เรื่อง ต้นทุนการกู้ยืม
กิจการวัดมูลค่าต้นทุนของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยน รายการสินทรัพย์ที่ไม่เป็นตัวเงิน / แลกเปลี่ยนกับทั้งรายการสินทรัพย์ที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงิน ด้วยมูลค่ายุติธรรม
กิจการต้องเลือกใช้นโยบายการบัญชีโดยใช้
1. วิธีราคาทุน
2. วิธีการตีราคาใหม่
ทั้งนี้ กิจการต้องใช้นโยบายการบัญชีเดียวกันสาหรับที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ทุกรายการที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกัน
วิธีราคาทุน
ภายหลังจากการรับรู้รายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ เป็นสินทรัพย์ กิจการต้องแสดงรายการ ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์นั้นด้วยราคาทุนหักค่าเสื่อมราคาสะสม และผลขาดทุนจากการด้อยค่า สะสมของสินทรัพย์
วิธีการตีราคาใหม่
กรณีที่สินทรัพย์ถาวร สามารถวัดมูลค่ายุติธรรมได้อย่างน่าเชื่อถือ กิจการต้องแสดงรายการดังกล่าวด้วยราคาที่ตีใหม่ คือ
มูลค่าสินทรัพย์ = มูลค่ายุติธรรม ณ วันที่ตีราคาใหม่ - ค่าเสื่อมราคาสะสม - ผลขาดทุนจากการด้อยค่าสะสมที่เกิดขึ้นในภายหลัง
กิจการต้องตีราคาสินทรัพย์ใหม่อย่างสม่าเสมอพอ เพื่อให้แน่ใจว่ามูลค่าตามบัญชีจะไม่แตกต่างจากมูลค่ายุติธรรม ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงานอย่างมีสาระสำคัญ
การปรับปรุงมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์เป็นราคาที่ตีใหม่ มีวิธีการตามข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
วิธี 1 ปรับปรุงมูลค่าตามบัญชีก่อนหักค่าเสื่อมราคาสะสมในลักษณะที่สม่ำเสมอกับการตีราคาใหม่ ในวิธีนี้สามารถแบ่งวิธีการได้เป็น 2 วิธี คือ
1.1 วิธีอ้างอิงข้อมูลในตลาด (Observable market data)
มีการตีราคาใหม่ทั้ง Gross Carrying Amount และมูลค่าสุทธิหลังหักค่าเสื่อมราคา
ปรับข้อมูลโดยอ้างอิงจากข้อมูลในตลาด
1.2 วิธีปรับแบบเป็นสัดส่วนกับการเปลี่ยนแปลงในมูลค่าตามบัญชี (Proportionate restatement)
เป็นการปรับราคาต้นทุนและค่าเสื่อมราคาสะสม ให้เพิ่มขึ้น / ลดลง ตามสัดส่วนของการเปลี่ยนแปลงมูลค่าสุทธิ
วิธีที่ 2 วิธีหักออกจากมูลค่าตามบัญชี (Eliminate the gross carrying amount)
วิธีนี้เป็นการปรับมูลค่าสินทรัพย์และเริ่มคิดคาเสื่อมราคาของสินทรัพย์นั้นใหม่ โดยหลักเกณฑ์เสมือนว่าหากซื้อสินทรัพย์นั้น ณ วันทีตีราคา จะมีราคาทุนของสินทรัพย์นั้นเท่ากับราคาที่ดีใหม่และเริ่มต้นคิดค่าเสื่อมราคาจากวันที่ตีใหม่
หากกิจการเลือกตีราคาที่ดิน อาคารและอุปกรณ์รายการใดรายการหนึ่งใหม่ กิจการต้องใช้วิธีการตีราคาใหม่กับรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ทุกรายการที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกันกับรายการที่เลือกตีราคาใหม่ด้วย
ตัวอย่างการลงบัญชีสำหรับการตีราคาสินทรัพย์
1.1 วิธีอ้างอิงข้อมูลในตลาด (Observable market data)
ตัวอย่าง กิจการมีอาคาร ตามมูลค่าต่อไปนี้
1.2 วิธีปรับแบบเป็นสัดส่วนกับการเปลี่ยนแปลงในมูลค่าตามบัญชี (Proportionate restatement)
วิธีที่ 2 วิธีหักออกจากมูลค่าตามบัญชี (Eliminate the gross carrying amount)
เปรียบเทียบมูลค่าทั้ง 3 วิธี ตามตัวอย่าง
ตีราคาสินทรัพย์ใหม่ทำให้มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์นั้นเพิ่มขึ้น
กิจการต้องรับรู้มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจากการตีราคาใหม่ไปยังกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น และรับรู้จำนวนสะสมไ ปยังส่วนของเจ้าของภายใต้หัวข้อ “ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์” กิจการต้องรับรู้ส่วนเพิ่มจากการตีราคาใหม่นี้ ในกำไรหรือขาดทุนไม่เกินจำนวนที่ตีราคาสินทรัพย์ดังกล่าวลดลงในอดีตและเคยรับรู้ในกำไรหรือขาดทุน
ตีราคาสินทรัพย์ใหม่ทำให้มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์นั้นลดลง
กิจการต้องรับรู้มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ที่ลดลงจากการตีราคาใหม่ในกำไรหรือขาดทุน อย่างไรก็ตาม กิจการต้องนำส่วนที่ลดลงจากการตีราคาใหม่ไปรับรู้ในกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่นในจำนวน ที่ไม่เกินยอดคงเหลือด้านเครดิตที่มีอยู่ในบัญชี “ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์” ของสินทรัพย์รายการเดียวกันนั้น โดยการรับรู้ส่วนที่ลดลงในกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น จะมีผลทาให้บัญชี “ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์” ที่สะสมอยู่ในส่วนของเจ้าของลดลงตามไปด้วย
ค่าเสื่อมราคา = การจัดสรรราคาทุนของสินทรัพย์ถาวาร(สุทธิจากราคาซาก) เป็นค่าใช้จ่ายภายในอายุการใช้งานของสินทรัพย์ที่ประมาณขึ้น
แนวคิดของการคิดค่าเสื่อมราคา คือโดยสภาพของสินทรัพย์จะมีการสึกหรอ เสื่อมสภาพ และสลายตัวตามธรรมชาติ
กิจการต้องคิดค่าเสื่อมราคาสาหรับส่วนประกอบของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ แต่ละส่วนแยกต่างหากจากกัน เมื่อส่วนประกอบแต่ละส่วนนั้นมีต้นทุนที่มีนัยสาคัญเมื่อเทียบกับต้นทุนทั้งหมดของสินทรัพย์นั้น เช่น เครื่องจักร 1 เครื่อง มีองค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วน แต่ละส่วนมีอายุใช้งานต่างกัน ต้องคิดค่าเสื่อมแยกต่างหาก
กิจการต้องรับรู้ค่าเสื่อมราคาที่เกิดขึ้นในแต่ละงวดในกำไร/ขาดทุน ยกเว้นกรณีที่ต้อง นำค่าเสื่อมราคาดังกล่าวไปรวมเป็นมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์รายการอื่น
1. ค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ปันส่วนอย่างมีระบบตลอดอายุการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์
2. ต้องทบทวนมูลค่าคงเหลือและอายุการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์อย่างน้อยที่สุด ทุกสิ้นรอบปีบัญชี และหากมีการเปลี่ยนแปลง ถือว่าเป็น การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี ตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 8 เรื่อง นโยบายการบัญชี การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีและข้อผิดพลาด
3. จำนวนที่คิดค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ต้องเป็นจำนวนเงินหลังหักมูลค่าคงเหลือ (ราคาซาก)
4. การคิดค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์จะเริ่มต้นเมื่อสินทรัพย์นั้นพร้อมใช้งาน
5. ปัจจัยที่ต้องคำนึงเรื่องอายุใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์
5.1 ประเมินจากกำลังการผลิตหรือผลผลิตที่คาดว่าจะได้จากสินทรัพย์นั้น
5.2 การชำรุดเสียหายทางกายภาพที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากปัจจัยต่างๆ ในการดำเนินงาน เช่น จำนวนผลัดในการใช้สินทรัพย์และแผนการซ่อมแซมและบำรุงรักษา รวมทั้ง การดูแลและบำรุงรักษาสินทรัพย์ในขณะที่หยุดใช้งานสินทรัพย์
5.3 ความล้าสมัยทางด้านเทคนิคหรือทางพาณิชย์ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงหรือ การปรับปรุงการผลิต หรือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงความต้องการในสินค้าหรือบริการซึ่งเป็นผลผลิตจากสินทรัพย์นั้น
5.4 ข้อกำหนดทางกฎหมายหรือข้อจากัดอื่นที่คล้ายคลึงกันในการใช้สินทรัพย์ เช่น การสิ้นสุด อายุของสัญญาเช่าที่เกี่ยวข้อง
6. ที่ดินและอาคารเป็นสินทรัพย์ที่แยกจากกันได้และบันทึกแยกจากกัน แม้ว่าจะได้มาพร้อมกัน
6.1 ที่ดินจะมีอายุการใช้ประโยชน์ไม่จำกัด จึงไม่ต้องคิดค่าเสื่อมราคา ยกเว้นในบางกรณี เช่น เหมืองแร่ที่ทาบนผิวดิน หรือพื้นที่ที่ใช้สาหรับการทิ้งขยะ
6.2 อาคารมีอายุการใช้ประโยชน์ ที่จำกัดจึงเป็นสินทรัพย์ที่เสื่อมสภาพได้
6.3 การเพิ่มขึ้นของมูลค่าที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคาร ไม่มีผลกระทบต่อการกำหนดจำนวนที่คิดค่าเสื่อมราคาของอาคาร
วิธีการคิดค่าเสื่อมราคา
วิธีตัดค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวร ที่นิยม มีดังนี้
1. วิธีเส้นตรง Straight-line method
2. วิธียอดคงเหลือลดลง Declining Balance method
3. วิธีผลรวมจำนวนปี Sum of the years digits
4. วิธีจำนวนผลผลิต Unit of production
คิดค่าเสื่อมราคา-วิธีเส้นตรง
มีผลทำให้ค่าเสื่อมราคา มีจำนวนคงที่ตลอดอายุการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์ หากมูลค่าคงเหลือของสินทรัพย์นั้น ไม่เปลี่ยนแปลง
อัตราค่าเสื่อม วิธีเส้นตรง = 100/อายุใช้งาน เช่นอายุใช้งาน 5 ปี อัตราค่าเสื่อมตามวิธีเส้นตรงนี้ = 100/5 = 20%
คิดค่าเสื่อมราคา-วิธียอดคงเหลือลดลง
เป็นการคำนวณค่าเสื่อมราคาโดยใช้อัตราร้อยละคงที่คูณราคาสุทธิของสินทรัพย์ที่ยกมาปีก่อน
วิธีคำนวณค่าเสื่อมตามวิธียอดลดลง
1. ตามวิธีนี้มูลค่าซากจะคำนีงในปีสุดท้าย
2. อัตราค่าเสื่อม = อัตราเร่ง * อัตราค่าเสื่อมเส้นตรงโดยวิธีเส้นตรง เช่นอัตราเร่ง 2 เท่า (double declining balance) = 2x20% = 40%
3. ค่าเสื่อมสำหรับปี = อัตราค่าเสื่อม * มูลค่าคงเหลือ ต้นปี
4. ในปีสุดท้าย ปรับค่าเสื่อมเพื่อให้มูลค่าคงเหลือเท่ากับราคาซาก
คิดค่าเสื่อมราคา—วิธีผลรวมจำนวนปี
เป็นวิธีคำนวณค่าเสื่อมราคาโดยใช้ร้อยละคงที่ลดลง * ราคาทุนของสินทรัพย์ ทำให้ค่าเสื่อมราคาในปีแรกๆสูงกว่าปีหลังๆ
อัตราค่าเสื่อมตามวิธีผลรวมจำนวนปี = จำนวนปีของอายุใช้งานคงเหลือ / ผลรวมจำนวนปีอายุใช้งาน
คิดค่าเสื่อมราคา—วิธีจำนวนผลผลิต
มีผลทำให้ค่าเสื่อมราคาขึ้นอยู่กับประโยชน์หรือผลผลิตที่คาดว่าจะได้รับจากสินทรัพย์ เหมาะสำหรับสินทรัพย์ที่มีการใช้งาน/ใช้ประโยชน์ไม่สม่ำเสมอ
อัตราค่าเสื่อม-วิธีผลผลิต = จำนวนผลผิตในปี * อัตราค่าเสื่อม/หน่วย
อัตราค่าเสื่อม / หน่วย = (ราคาทุน -ซาก) / จำนวนผลผลิตรวม
ตัวอย่างการคำนวณค่าเสื่อมราคา
ตัวอย่างคำนวณค่าเสื่อมราคา วิธีเส้นตรง วิธียอดคงเหลือลดลง
ตัวอย่างการคำนวณค่าเสื่อมราคา วิธีผลรวมจำนวนปี วิธีผลผลิต
วิธีบันทึกค่าเสื่อมราคา กรณีมีการตีราคาสินทรัพย์ใหม่
สมมติรายการ (ตามตัวอย่างการตีราคาเดิม สินทรัพย์มีอายุใช้งานคงเหลือ 3 ปี
อัตราค่าเสื่อมตามสรรพากร
สรรพากรได้มีการกำหนดการหักค่าเสื่อมราคาและอายุการใช้งานของสินทรัพย์ไว้ โดยมีรายละเอียดใน พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยหักค่าสึกหรอ และค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527
https://www.rd.go.th/publish/2369.0.html
ให้กิจการปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 36 เรื่อง การด้อยค่าของสินทรัพย์ ซี่งได้อธิบาย
1. วิธีที่กิจการใช้ในการทบทวนมูลค่าตามบัญชี
2. การกำหนดมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนของสินทรัพย์
3. การรับรู้หรือกลับรายการผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์นั้น
ค่าชดเชยสาหรับการด้อยค่า
ค่าชดเชยที่กิจการได้รับจากบุคคลที่สามสาหรับรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ที่เกิดการ ด้อยค่า สูญหาย หรือเลิกใช้ต้องนำมารวมในกำไรหรือขาดทุนเมื่อกิจการมีสิทธิได้รับค่าชดเชยนั้น
กิจการต้องตัดรายการมูลค่าตามบัญชีของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ออกจากบัญชี เมื่อเข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
1 กิจการจำหน่ายสินทรัพย์ หรือ
2 กิจการคาดว่าจะไม่ได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตจากการใช้สินทรัพย์หรือการจำหน่ายสินทรัพย์
การตัดรายการสินทรัพย์ ให้รับรู้ผลกำไร/ขาดทุนที่เกิดขึ้น และจัดประเภทผลกำไรที่เกิดขึ้นจากการตัดรายการเป็นรายได้อื่น
กิจการต้องเปิดเผยรายการต่อไปนี้ทุกข้อในงบการเงินสำหรับที่ดิน อาคารและอุปกรณ์แต่ละประเภท
1 เกณฑ์การวัดมูลค่าที่ใช้กาหนดมูลค่าตามบัญชีก่อนหักค่าเสื่อมราคาสะสมของสินทรัพย์
2 วิธีการคิดค่าเสื่อมราคาที่ใช้
3 อายุการใช้ประโยชน์หรืออัตราค่าเสื่อมราคาที่ใช้
4 มูลค่าตามบัญชีก่อนหักค่าเสื่อมราคาสะสมและผลขาดทุนจากการด้อยค่าสะสม และค่าเสื่อมราคาสะสม (รวมทั้งผลขาดทุนจากการด้อยค่าสะสมของสินทรัพย์) ณ วันต้นงวดและสิ้นงวด และ
5 รายการกระทบยอดของมูลค่าตามบัญชีระหว่างวันต้นงวดถึงวันสิ้นงวดที่แสดงถึง มูลค่าที่เพิ่มขึ้น/ลดลงของสินทรัพย์แต่ละประเภทและค่าเสื่อมราคา
6 จำนวนและข้อจำกัดที่มีอยู่ในกรรมสิทธิ์ของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ที่ใช้เป็นหลักประกันหนี้สิน
7 จำนวนรายจ่ายทั้งสิ้นที่รับรู้เป็นส่วนหนึ่งของมูลค่าตามบัญชีของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์จากการก่อสร้าง
8 จำนวนเงินภาระผูกพันตามสัญญาที่ตกลงไว้เพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดิน อาคารและอุปกรณ์และ
9 จำนวนค่าชดเชยที่ได้รับจากบุคคลที่สามสาหรับรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ที่มีการด้อยค่า การสูญเสีย หรือเลิกใช้ ซึ่งรวมอยู่ในกาไรหรือขาดทุน (ยกเว้นกรณี ที่ได้เปิดเผยรายการดังกล่าวแยกต่างหากแล้วในงบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ)
หากรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์แสดงด้วยราคาที่ตีใหม่ กิจการต้องเปิดเผยรายการต่อไปนี้เพิ่มเติมจากรายการที่เปิดเผยตามข้อกาหนดของมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 13 เรื่อง การวัดมูลค่ายุติธรรม
1 วันที่มีการตีราคาสินทรัพย์ใหม่
2 ข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ประเมินราคาอิสระมีส่วนร่วมในการตีราคาใหม่หรือไม่
3 สำหรับที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ที่แต่ละประเภทมีการตีราคาใหม่ให้เปิดเผย มูลค่าตามบัญชีที่ควรจะรับรู้หากสินทรัพย์นั้นแสดงโดยใช้วิธีราคาทุน และ
4 ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ ซึ่งกิจการต้องแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ของส่วนเกินทุนดังกล่าวในระหว่างงวด และข้อจากัดในการจ่ายส่วนเกินทุนนั้นให้กับผู้ถือหุ้น
การตรวจสอบสินทรัพย์ถาวรและค่าเสื่อมราคา
วัตถุประสงค์การตรวจสอบ
1. เพื่อให้ทราบว่าสินทรัพย์ถาวรมีอยู่จริงและเป็นสินทรัพย์ของกิจการและทราบถึงภาระการประกันหนี้ต่างๆ
2. เพื่อให้ทราบว่าสินทรัพย์ถาวรของกิจการที่เพิ่มระหว่างปี ได้นำมาลงบัญชีโดยครบถ้วนและถูกต้องตามหลักบัญชี และสอบทานว่าได้มีการถือปฏิบัติตามนโยบายของกิจการเกี่ยวกับรายจ่ายที่เป็นทุนโดยสม่ำเสมอ
3. เพื่อให้ทราบว่าการแสดงรายการสินทรัพย์ที่เลิกใช้งานแล้วถูกต้อง รวมมั้งบันทึกกำไรหรือขาดทุนจากการเลิกใช้สินทรัพย์ด้วย
4. เพื่อพิสูจน์ความถูกต้องของค่าเสื่อมราคาและค่าเสื่อมราคาสะสม และสอบทานว่ามีได้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการบัญชีที่ถือปฏิบัติหรือไม่
วิธีการตรวจสอบสินทรัพย์ถาวร
1. จัดทำกระดาษทำการวิเคราะห์บัญชีสินทรัพย์ถาวร
2. ตรวจสอบกรรมสิทธิในสินทรัพย์ถาวร
3. ตรวจนับสินทรัพย์ถาวร
4. ตรวจสอบรายการซื้อสินทรัพย์ถาวารระหว่าวปี
5. ตรวจสอบการจำหน่ายสินทรัพย์ถาวรระหว่างปี
6. ตรวจสอบสินทรัพย์ที่เลิกใช้งานแล้ว
7. ตรวจสอบการคิดค่าเสื่อมราคา
8. ตรวจสอบและวิเคราะห์บัญขีค่าใช้จ่าย
9. ตรวจสอบการตัดบัญชีต้นทุนแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สูญสิ้นไปได้
10. ตรวจสอบรายได้จากการให้เช่าสินทรัพย์ถาวร
11. ตรวจสอบหนี้สินที่เกิดขึ้นเนื่องจากการซื้อสินทรัพย์ถาวาร
12. ตรวจสอบการตีราคาสินทรัพย์ถาวรใหม่
13. ตรวสอบสินทรัพย์ถาวารตามสัญญาเช่า
14. ตรวจสอบความเหมาะสมของประกันภัย
อ้างอิง :
การสอบบัญชี พยอม สิงห์เสน่ห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์
การบัญชีทรัพย์สิน พยอม สิงห์เสน่ห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์
การบัญชีการเงิน พยอม สิงห์เสน่ห์ / นรีนุช เฆฆวิชัย มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์
มาตรฐานการบัญชี ฉบับ 16 เรื่องที่ดิน อาคาร อุปกรณ์