ประโยค Present perfect tense
ประธาน + (have, has) + past participle (กริยาช่องที่3)
เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง : ประธาน + have , has + กริยาช่อง 3
ตัวอย่าง : 1. I have studied English for 2 years. ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 2 ปีแล้ว
2. She has seen that movie many times. เธอดูหนังเรื่องนั้นมาหลายครั้งแล้ว
3. They have been abroad two times. พวกเขาไปต่างประเทศมาสองครั้งแล้ว
4. You have done a lot of work this morning. คุณทํางานเยอะมากเช้านี้
5. I have lost my keys. ฉันทํากุญแจหาย
เชิงปฏิเสธ
โครงสร้าง : ประธาน + have , has + not + กริยาช่อง 3
เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Tense ให้มีความหมายเชิงปฏิเสธ ให้เติม not หลงั Verb to have
ตัวอย่าง : 1. I have not studied English for 2 years. ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาไม่ถึง 2 ปี
2. She has not seen that movie many times. เธอไม่ได้ดูหนังมาหลายครั้งแล้ว
3. They have not been abroad two times. พวกเขาไปต่างประเทศไม่ถึงสองครั้ง
4. You have not done a lot of work this morning. คุณไม่ได้ทํางานเยอะมากเช้านี้
5. I have not lost my keys. ฉันไม่ได้ทำกุญแจหาย
เชิงคำถามและการตอบ
โครงสร้าง : Have, Has + ประธาน + กริยาช่อง 3
เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Tense ให้มีความหมาย เชิงคำถาม ให้นำ Verb to have มาวางไว้หน้าประโยคและตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
ตัวอย่าง : 1. คำถาม Have you studied English for 2 years ? คุณเรียนภาษาอังกฤษมา 2 ปีแล้วใช่หรือไม่
คําตอบ 1. Yes, I have. ใช่ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 2 ปีแล้ว
2. No, I haven’t. ไม่ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาไม่ถึง 2 ปี
2. คำถาม Has she seen that movie many times? เธอดูหนังเรื่องนั้นมาหลายครั้งแล้วใช่หรือไม่
คำตอบ 1. Yes, she has. ใช่ เธอดูหนังเรื่องนั้นมาหลายคนครั้งแล้ว
2. No, she hasn’t. ไม่ เธอไม่ได้ดูหนังเรื่องนั้นหลายครั้ง
3. คำถาม Have they been abroad two times? พวกเขาไปต่างประเทศมาสองครั้งแล้วใช่หรือไม่
คําตอบ 1. Yes, they have. ใช่ พวกเขาไปต่างประเทศมาสองครั้งแล้ว
2. No, they haven’t. ไม่ พวกเขาไม่ได้ไปต่างประเทศมาสองครั้ง
ตัวอย่าง กริยา 3 ช่อง
1. มีรูปมาจากการเติม ed ที่ท้ายคํากริยา เช่น
2. มีรูปมาโดยการผัน ซึ่งมีการกําหนดไว้โดยเจ้าของภาษา เช่น