เรื่องที่ 4 การแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้

การแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้

1. การเขียนเล่าเรื่องประสบการณ์จากการท่องเที่ยว

การแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้หรือการเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เรานิยมใช้ Past Simple Tense, Past Continuous Tense สําหรับในการนี้ซึ่งผู้เรียนต้องเรียนและทําความเข้าใจกับ Tenses ดังกล่าวต่อไป

1.1 Past Simple Tense (อดีตกาล)

เป็นการกระทําที่เสร็จสิ้นลงไปแล้วในอดีต โดยมีเวลาบ่งบอกไว้แน่ชัดว่า เสร็จเมื่อไร ซึ่งได้แก่ ago, yesterday, the other days (a few days ago) last week/month/year etc. ส่วนกริยาของประโยค นั้น กริยาช่องที่ 2 ซึ่งถ้าเป็นกริยาปกติทั่วไปก็เติม –ed หลังกริยา และถ้าเป็นกริยาไม่ปกติซึ่งมีอยู่มากมาย ให้เปลี่ยนรูป ซึ่งผู้เรียนจะต้องจํารูปแบบการเปลี่ยนแปลงของกริยานั้น ๆ ให้ได้ เพราะมีอยู่หลายรูปแบบ ด้วยกัน เช่น

1. รูปแบบที่เหมือนกันทั้งสามช่อง เช่น

cut cut cut

burst burst burst

shut shut shut

put put put

2. รูปแบบที่ช่องที่ 1 กับช่องที่ 3 เหมือนกัน เช่น

come came come

become became become

run ran run

3. รูปแบบที่ช่องที่ 2 กับช่องที่ 3 เหมือนกัน เช่น

buy bought bought

sleep slept slept

sting stung stung

4. รูปแบบที่ช่องที่ต่างกันทั้ง 3 ช่อง เช่น

begin began begun

sing sang sung

sink sank sunk

1.2 Past Perfect Tense (อดีตกาลสมบูรณ์)

ใช้กับเหตุการณ์ สอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต เหตุการณ์หนึ่งเกิดก่อนแล้ว ถึงมีอีก เหตุการณ์หนึ่งเกิดตามทีหลังเหตุการณ์ที่เกิดก่อน ใช้ Past Perfect Tense (S + had + V3 + Object) ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดตามมาทีหลังใช้ Past Simple Tense (S + V2 + Object) โดยมีคําสันธานบอกเวลา อาทิ “when, as soon as, after, before” เป็นตัวเชื่อมประโยคทั้งสอง เช่น After we had eaten our breakfast, we left our house for the country. When the birds had been frightened by the dog, they flew away.

1.3 Past Continuous Tense (อดีตกาล)

Tense นี้ใช้กับเหตุการณ์สองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้

1.3.1 สองเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกันอดีต โดยมี while or when เชื่อมประโยคที่เป็น Past Continuous Tense ทั้งคู่ เช่น Subject + was/were + V.ing while/when + Subject + was/were + V.ing เช่น

We were swimming in the stream while my parents were sitting on the edge of the stream reading a book.

1.3.2 สองเหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีต เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในขณะที่มีเหตุการณ์หนึ่งกําลัง ดําเนินอยู่ และเหตุการณ์กําลังดําเนินอยู่ใช้ Past Continuous Tense ส่วนเหตุการณ์ ที่เกิดตามมาทีหลังใช้ Past Simple Tense (S + V2 + Object) โดยมีคําสันธาน บอกเวลา อาทิ “while หรือ when,” เป็นตัวเชื่อมประโยคทั้งสอง

การวางแผนการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว

การเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว เราต้องศึกษาตรวจสอบแหล่งท่องเที่ยว (attractions) จาก หน่วยงานการท่องเที่ยว (Tourism agency) รายการท่องเที่ยว (Trip Agenda) จองที่พัก (accommodation reservation), จองตั๋วเดินทาง (Ticket reservation)

1.Trip Agenda

Trip Agenda คือ การเขียนกําหนดการเดินทาง ซึ่งต้องเน้นรายละเอียดเรื่องเวลาและ สถานที่ แต่ก็ต้องยืดหยุ่นได้

2.Booking a flight and Hotel Reservation (การจองตั๋วเครื่องบิน และโรงแรม)

สิ่งที่พบอยู่เสมอ เวลาเดินทางท่องเที่ยว คือ การจองตั๋วเครื่องบิน และการจองที่พัก ซึ่งนักศึกษาจะต้องรู้เข้าใจและนําไปใช้ในชีวิตประจําวัน

3. Booking a flight (การจองตั๋วเครื่องบิน)

คําศัพท์สํานวนที่ใช้สําหรับจองตั๋วเครื่องบิน

- I’d like to book a flight to + (สถานที่จะไป) = ผมขอจองตั๋วไป......

- Seat’s available = มีที่ว่าง

- Date of departure = วันที่เดินทาง

- Date of returning = วันที่กลับ

- Date of arrival = วันที่มาถึง

- Flight timing = เวลาเที่ยวบิน

- Seat’s confirmed = ยืนยันที่นั่ง

- Direct flight = บินตรง

- Stop over = พักเครื่อง

- Connect the flight = ติดต่อเครื่องบิน

- In transit = เปลี่ยน/ถ่ายเครื่อง

Hotel Reservation (การจองห้องกับโรงแรม)

คําศัพท์สํานวนที่ใช้ในการจองห้องพักโรงแรม มีดังนี้ ในกรณีที่เราจองห้องพักในโรงแรมทางโทรศัพท์ ควรพูดดังนี้

- I’d like to make a reservation, please.

- I’d like to make a room reservation, please.

- I’d like to reserve a room, please.

- Reservation, please.

- I’d like to make an advanced booking for a double room for the 2nd and 3rd of June, please.

- Can I make a hotel reservation here?

- Can I book/reserve a double/ single room for two nights, please?

- Have you got a single/double room for two nights?

- Have you got any vacancies for tonight?

ในกรณีที่ต้องการทราบราคาห้องพักควรถามดังนี้

- How much is a room/it? Is service included? (รวมค่าบริการ)

- How much does it cost? Do you have any discount rates? (ลดราคาไหม)

- What price is it? Does the price include breakfast? (รวมอาหารเช่าไหม)

- What’s the price? Is that your best price? (ราคาเหมาะสม)

- What’s the price?

- Do you have extra beds (เตียงพิเศษ) cable TV?

- What facilities do you provide/have?

ในกรณีที่พนักงานที่พักต้องตอบคําถามลูกค้า

- Yes. I can offer you a double room.

- Yes. We have two rooms available/left.

- I’m sorry. We have no vacancies./ We’re full.

- I’m sorry. We’re fully occupied.

- The rate is 2,000 baht for a double/a single.

- The price/ It is inclusive/ not inclusive tax/ breakfast.

- When would you like to check in/ out, sir/ Madam?

ในกรณีที่พนักงานที่พักต้องตอบคําถามลูกค้า

- Yes. I can offer you a double room.

- Yes. We have two rooms available/ left.

- I’m sorry. We have no vacancies. / We’re full.

- I’m sorry. We’re fully occupied.

- The rate is 2,000 baht for a double/a single.

- The price/ It is inclusive/ not inclusive tax/ breakfast.

- When would you like to check in/ out, sir/ Madam?