จุดประสงค์ (เมื่อเรียนจบ นักเรียนสามารถ)
เลือกข้อมูลและออกแบบวิธีการ การรวบรวมข้อมูล
รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
ประมวลผลข้อมูล ออกแบบทางเลือก และประเมินทางเลือกในการแก้ปัญหา หรือตัดสินใจ
ใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการกับข้อมูล และนำเสนอข้อมูลได้อย่างเหมาะสม
ครูเชื่อว่านักเรียนทุกคนคงมีโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอินเตอร์เน็ต ใช้แอปพลิเคชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, YouTube, tiktok นักเรียนก็จะได้รับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากสื่อสังคมออนไลน์ แน่นอนว่าข้อมูลเหล่านี้มีปริมาณมหาศาล มีการเก็บและรวบรวมจากแหล่งต่าง ๆ มาเผยแพร่ เพื่อให้นักเรียนรู้ว่า ข้อมูลคืออะไร มีที่มาอย่างไร จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างไร รวมทั้งการจัดเก็บและนำเสนอข้อมูลเป็นอย่างไร เรามาศึกษาจากบทนี้กันเลยครับ
ข้อมูล (data) หมายถึง ความจริงที่อยู่ในรูปของตัวเลข ข้อความ ภาพ เสียง ข้อสังเกตที่รวบรวมมาจากเหตุการณ์หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ข้อมูล ประกอบด้วย
ข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative data) อยู่ในรูปของตัวเลข เช่น จำนวนเสือโคร่งอินโดจีนในประเทศไทย
ข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative data) อยู่ในรูปข้อความ อธิบายความหมาย บรรยายความคิดเห็น ความรู้สึก บทสัมภาษณ์
แหล่งข้อมูล เป็นแหล่งกำเนิดของข้อมูล หรือแหล่งรวบรวมข้อมูล แบ่งตามลักษณะของการได้มา ดังนี้
ข้อมูลปฐมภูมิ (primary data) คือ ข้อมูลที่ได้จากแหล่งกำเนิดข้อมูลหรือจุดเริ่มต้นของข้อมูล เช่น ข้อมูลจากการทดลอง
ข้อมูลทุติยภูมิ (secondary data) คือ ข้อมูลที่ไม่ได้มาจากแหล่งกำเนิดโดยตรง มาจากการอ้างอิงข้อมูลปฐมภูมิ เช่น บทความ เอกสารต่าง ๆ
ส่วนใหญ่นักเรียนจะใช้ข้อมูลทุติยภูมิ เพราะเป็นข้อมูลที่รวบรวมมาแล้ว สืบค้นได้ง่าย แต่สิ่งสำคัญในการที่จะใช้ข้อมูลทุติยภูมิคือ การตรวจสอบความถูกต้องและแหล่งที่มาอย่างละเอียด เพราะข้อมูลเหล่านี้ถูกส่งต่อกันมาอาจทำให้มีความคลาดเคลื่อน หรือถูกบิดเบือน
เอาละ นักเรียนคงรู้จักว่าข้อมูลคืออะไร มีที่มาอย่างไรกันแล้ว ต่อไป นักเรียนจะรวบรวมข้อมูลได้อย่างไร
สิ่งแรกเลย คือ นักเรียนต้องสนใจสิ่งหนึ่งสิ่งใดก่อน นำไปสู่การตั้งคำถาม...และเก็บข้อมูลตามสิ่งที่สนใจหรือตามคำถามที่ตั้งไว้ เก็บข้อมูลอย่างไร มาดูกันครับ
ข้อมูลแต่ละอย่างอาจต้องใช้วิธีการรวบรวมข้อมูลที่แตกต่างกันไป วิธีการรวบรวมข้อมูล เช่น
การสัมภาษณ์ (interview) อาจเป็นการสัมภาษณ์โดยตรงหรือทางอ้อม เช่น โทรศัพท์ สื่อสังคมออนไลน์ เป็นคำถามปลายเปิด ตรงประเด็น ชัดเจน
การสำรวจ (survey) ทำโดยสร้างแบบสำรวจที่กำหนดคำถามเพื่อค้นหาข้อมูล หรือความเห็นที่ต้องการ
การสังเกต (observe) เช่น สังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ระหว่างรับประทานอาหาร
การทดลอง (experiment) เป็นการรวบรวมข้อมูลจากการทดลอง หรือทดสอบที่มีการควบคุมปัจจัยบางประการ
การทบทวนเอกสาร (document/literature review) รวบรวมข้อมูลจากเอกสาร รายงาน บทความ
การสำมะโน (census) เป็นการรวบรวมข้อมูลด้วยการสำรวจจากประชากรเกี่ยวกับเรื่องที่กำหนด
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เช่น แบบสำรวจ แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถาม แบบสังเกต อาจใช้แอปพลิเคชัน หรือสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อลดภาระการจัดเก็บ ลดข้อผิดพลาด และช่วยทำให้สะดวกรวดเร็ว โดยต้องอ้างอิงแหล่งข้อมูลเพื่อยืนยันว่ามาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
สิ่งที่ต้องคำนึงในการรวบรวมข้อมูล
ความถูกต้อง (accuracy) เช่น คะแนนสอบของนักเรียนทุกคนต้องถูกต้อง
ความทันสมัย (timeliness) เช่น ข้อมูลสิ้นสุดวันส่งงาน ควรเป็นวันที่ในอนาคต ไม่ใช่วันที่ผ่านมาแล้ว
ความเกี่ยวข้อง (relevance) เช่น ข้อมูลที่ใช้ประกอบการเดินทางไปเที่ยว อาจประกอบด้วย แหล่งท่องเที่ยว เวลาเปิด-ปิด ระยะทาง วิธีการเดินทาง สภาพภูมิอากาศ
หากนักเรียนต้องการเก็บข้อมูลการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันนักเรียนจะรวบรวมข้อมูลใดได้บ้าง และจะใช้วิธีการและเครื่องมือใด
การประมวลผลข้อมูล (data processing) หมายถึง กระบวนการที่กระทำกับข้อมูลที่รวบรวมไว้เพื่อให้ได้ข้อมูล หรือสารสนเทศที่อยู่ในรูปที่ต้องการ การประมวลผลมีอยู่ 2 แบบ ดังนี้
การประมวลผลด้วยมือ ใช้กระดาษ ปากกา และแรงคนในการดำเนินการ
การประมวลผลด้วยเครื่องมือ ใช้เครื่องมือช่วยทุนแรง เช่น เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องคิดเลข
ปัจจุบันนิยมประมวลผลด้วยเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน การประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ เรียกข้อมูลที่นำเข้าว่า ข้อมูลเข้า (input) เรียกสิ่งที่ประมวลผลว่า (process) ข้อมูลออกหรือผลลัพธ์ (output)
การประมวลผลมีหลายวิธี เช่น
การคำนวณ (computation) นำข้อมูลที่มีอยู่แล้วมาคำนวณ ตามข้อกำหนด เช่น คำนวณอายุปัจจุบันจากปีเกิด
การเรียงลำดับ (sort) เป็นการจัดข้อมูลให้อยู่ในลำดับที่เหมาะสม เช่น การเรียงเลขประจำตัวตามลำดับรายชื่อนักเรียน
การวิเคราะห์ (analyse) การจัดกลุ่ม การแยกประเภท การตีความ
การสรุป (summation) เป็นการสรุปใจความสำคัญ ให้เหลือเฉพาะประเด็นหลัก
การรายงาน (reporting) เป็นการนำเสนอผลลัพธ์ที่ได้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เล่มรายงานหรือไฟล์ ป้ายนิเทศก์ อินโฟกราฟิก
การดำเนินชีวิต ทุกคนมีการรวบรวมข้อมูลอัตโนมัติตลอดเวลา เมื่อต้องตัดสินใจ จะมีการนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ เช่น ขณะขับรถจักรยานอยู่บนถนน สังเกตสิ่งต่าง ๆ เป็นการวบรวมข้อมูล และนำข้อมูลนั้นมาตัดสินใจเพื่อเกิดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น เมื่อมีหลุม ตัดสินใจหลบ หยุดรถ หรือขี่ลงไปในหลุมหากไม่ลึกมาก
การตัดสินใจจะเกิดขึ้นมีหลายทางเลือก แต่ละทางเลือกนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เหมือนหรือแตกต่างกัน ขั้นตอนตัดสินใจ มีดังนี้
กำหนดเป้าหมายของการตัดสินใจ
รวบรวมข้อมูลและความรู้ที่เกี่ยวข้องที่เพียงพอต่อการตัดสินใจ
กำหนดทางเลือกทั้งหมดที่เป็นไปได้
ประเมินทุกทางเลือก โดยวิเคราะห์เชิงตรรกะเชื่อมโยงระหว่างทางเลือกและผลลัพธ์ สอดคล้องกับเป้าหมาย
ตัดสินใจเลือกทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
1. ถ้าถูกสุนัขวิ่งไล่ นักเรียนจะทำอย่างไรให้บอกมา 3 วิธี
2. จากข้อ 1 นักเรียนจะตัดสินใจเลือกวิธีใดเพราะเหตุใด
ปัจจุบันมีผู้ให้บริการซอฟต์แวร์บนคลาวด์ (cloud-based service) เราสามารถใช้ซอฟต์แวร์เหล่านี้เป็นเครื่องมือในการจัดการกับข้อมูล ตั้งแต่การรวบรวม ประมวผล และนำเสนอข้อมูล เช่น
ซอฟต์แวร์ประมวลคำ (word processor) ใช้สำหรับสร้าง แก้ไข และจัดรูปแบบเอกสาร เช่น Google Docs, Microsoft Words
ซอฟต์แวร์สร้างฟอร์ม (form) สำหรับสร้างแบบสำรวจ/แบบสอบถาม เช่น Google Forms
ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน (spreadsheet) ใช้สำหรับสร้างและแก้ไขตารางทำงาน รวมทั้งการประมวลผลข้อมูลในตาราง เช่น Google Sheets, Microsoft Excel
ซอฟต์แวร์นำเสนองาน (presentation) ใช้สร้าง แก้ไข ตกแต่งแฟ้มนำเสนองาน ใส่ตารางข้อมูล แผนภูมิ รูปภาพ รูปวาด วิดีทัศน์ เช่น Google Slides, Microsoft PowerPoint
ซอฟต์แวร์สร้างผังความคิด (concept map) ใช้สร้าง แก้ไข ตกแต่ง ผังความคิด เช่น Mindmup.com เก็บไว้ใน Google Drive
Google Workspace
Microsoft 365