พระยาธรรมิกราช พุทธโอวาทกึ่งพุทธกาล .
เงินทอง คือ แก้วสารพัดนึก ในโลกสมมุติ ปรารถนาสิ่งใด เนรมิตขึ้นมา ได้ด้วยเงินตรา แก้วสารพัดนึกมีอยู่กับผู้มีบุญทุกคน ที่ได้สร้างสั่งสมบุญเอาไว้ จะสำเร็จได้สมปรารถนา ต้องไม่นำไปใช้ ด้วยความอยาก ด้วยความลุ่มหลง จึงจะบังเกิดผลขึ้นมาได้ ด้วยแก้วสารพัดนึกที่อยู่ในตน
ขึ้นชื่อว่า ความหลง ไม่ว่าจะหลงในสิ่งใด ก็จะเป็นเหตุของความทุกข์ หลงในโลก จึงติดอยู่ในโลก หลงในธรรม จึงติดอยู่ในสวรรค์ ไปพระนิพพานไม่ได้ ผู้ที่ไม่หลง ไม่อยาก ไม่ยึด ไม่เบียด เป็นผู้ดับกิเลส ตัณหา ละอุปาทาน ไม่สร้างบาป อกุศลกรรมเพิ่ม จึงจะเป็นผู้ก้าวออกจากความหลง เป็นผู้พ้นจากความทุกข์
… ตอนที่ ๕๐ ฟังธรรมไม่รู้เรื่อง
ศีล ธรรม สมาธิ ปัญญา เป็นเหตุปัจจัยที่ค้ำหนุนกัน การที่จะฟังธรรมเข้าใจหรือไม่ จะต้องเป็นผู้มีศีล จะต้องเป็นผู้มีธรรม จะต้องมีสมาธิ และเป็นผู้มีปัญญา ผู้มีกิเลส ตัณหา ยึดติด มีมานะทิฐิ มีอัตตาตัวตนมาก จึงปกปิดปัญญา ไม่สามารถฟังธรรมเข้าใจ
การจะดับความทุกข์ได้ ต้องดับการเกิด การจะดับการเกิดได้ ต้องรู้จักตัวตน รู้ที่มาที่ไปของตัวเรา จะได้สลายความลุ่มหลง ยึดติดในตัวตน ตัวเราของเรา เพราะได้รู้ความเป็นจริง ว่าทุกสิ่งเป็นสิ่งสมมุติ ท้ายที่สุดก็ไม่มีเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา เป็นแค่เพียงสิ่งว่างเปล่า
… ตอนที่ ๔๘ ไปปฏิบัติธรรมที่ไหนดี
ไปปฏิบัติธรรมที่วัดนี้ ก็ไม่สงบ ปฏิบัติที่สถานธรรมนี้ ก็วุ่นวาย จะไปปฏิบัติธรรมที่ไหนดี ที่ไหนก็ไม่ดี ที่ไหนก็ไม่สงบ ตราบใด ยังไม่ปฏิบัติที่เรา ปฏิบัติที่จิต กาย ใจ ของเรานี้แหละ ถ้าเราสงบแล้ว ที่ไหนก็สงบ
การที่เกิดมาอยู่ในโลกมนุษย์ ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด สิ่งที่ต้องแข่งขันคือกาลเวลา เพราะไม่ว่าได้สิ่งใด มาครอบครอง ความรวย ความสวย ความหล่อ เมื่อกาลเวลามาถึง ก็ต้องจากไปอยู่ดี กาลเวลา จึงสำคัญยิ่งนัก ที่ต้องแข่งขัน ทำให้เสร็จกิจ ก่อนหมดเวลา
… ตอนที่ ๔๖ ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงตนเอง
การปลูกต้นความดี จะให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ทั้งภายในและภายนอกนั้น จะช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับต้นทุน บุญกุศลและหนี้กรรมที่ทำมา ต้องอดทน รักษาต้นความดี ด้วยการมีศีล ไม่ให้แมลงมากัดกิน ให้มีธรรมเป็นวิธีการปฏิบัติรักษา มีสมาธิเป็นน้ำให้ความชุ่มเย็น มีปัญญาคอยแก้ไขปัญหา ต้นความดีก็จะเจริญเติบโต ให้ได้ผลในความดี
… ตอนที่ ๔๕ ร่ำรวยอย่างไรทำให้เป็นสุข
ความร่ำรวย มีอยู่ สองแบบ แบบที่หนึ่ง ร่ำรวยในทางโลก รวยในสิ่งสมมุติ รวยในความไม่เที่ยงแท้ ยิ่งรวยยิ่งทุกข์ เป็นการสมมุติรวย เพราะไม่มีสิ่งใดนำไปได้ เมื่อต้องจากโลกนี้ไป ส่วนแบบที่สอง ร่ำรวยในบุญบารมี อาจจะยากจนในทางโลก แต่ร่ำรวยในทางธรรม เพราะได้ละวาง กิเลสตัณหา จึงพบกับความสุข และข้ามภพชาติไปได้ จึงเป็นความร่ำรวยที่แท้จริง
… ตอนที่ ๔๔ การแก้ปัญหาหนี้สิน
ปัญหาหนี้สิน ทำมาหากิน ไม่พอจ่าย รายได้ไม่พอกับรายรับ เกิดปัญหาขึ้นมา จะหาทางแก้ไขอย่างไร หนี้สินทางโลก ในความเป็นจริง มีหนี้กรรมที่ซ้อนอยู่ จึงส่งผลให้เป็นหนี้ ฉะนั้น การจะแก้ไขปัญหาหนี้สิน ต้องแก้ไขหนี้กรรม ด้วยการประพฤติปฏิบัติธรรม ให้รู้เหตุของกรรมที่ทำมา แล้วแก้ไขในหนี้กรรมนั้นก่อน ปัญหาหนี้สินก็มีปัญญา แก้ไขปัญหาให้สลายไปได้เอง
การกระทำโดยเจตนา คือ การกระทำที่ได้พิจารณา ตรึกตรองไว้ก่อน ทำด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ หวังผลให้เกิดขึ้นในสิ่งที่ทำ จะได้รับผลมากหรือน้อย ขึ้นอยู่ที่เจตนา เจตนาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่สุดของการกระทำ
ชะตาชีวิต เปรียบได้กับพื้นแผ่นดิน จะอุดมสมบูรณ์ หรือแห้งแล้ง ขาดปุ๋ย ย่อมมีผลทำให้พืช เจริญเติบโตหรือเหี่ยวเฉา การพัฒนา บำรุงรักษาดิน เป็นรากฐานให้พืชเจริญเดิบโต การสร้างสั่งสมบุญบารมี ก็เป็นรากฐานชีวิต ให้มีความเจริญรุ่งเรือง เช่นเดียวกัน
… ตอนที่ ๓๙ ความร่ำรวย รักแท้ ความสุข หาได้จากไหน
ถ้าอยากจะมีความร่ำรวย ในทรัพย์สินเงินทอง ให้ทำทาน รักษาศีล สร้างบารมี ถ้าต้องการหารักแท้ รักที่ไม่แปรผันไป หาได้จากความรักของแม่ ของพ่อของตนเอง ส่วนความรักจากหญิงชายอื่น จะเป็นความรักแค่ชั่วคราว ความสุขที่แท้จริงหาได้ในตนเอง จากการดับกิเลสตัณหา จึงจะพบความสุขได้อย่างแท้จริง
… ตอนที่ ๔๐ พิจารณาความตายเพื่ออะไร
การพิจารณาความตาย เพื่อที่จะได้ไม่ลืมว่า เกิดแล้วต้องตาย สิ่งใดหนอ ที่จะขวนขวายนำไปได้บ้าง จะได้สร้างสั่งสมความดี จะได้ไม่ยึดติด ลุ่มหลง ในสิ่งที่มี ในสิ่งที่เป็น เห็นทุกข์จากความไม่เที่ยงแท้ จะได้แสวงหาหนทางดับการเกิด จะได้ไม่ต้องกลับมาเกิดมาทุกข์อีก
… ตอนที่ ๔๑ การแผ่บุญให้ญาติพี่น้อง
ต้องการให้พ่อแม่ พี่น้อง ลูกหลาน ปวงญาติ เข้าถึงการสร้างความดี ให้ได้รับบุญบารมีจากที่เราทำ สามารถที่แผ่บุญให้ได้ แต่จะได้รับหรือไม่ ผู้รับต้องยินดีด้วย การที่จะช่วยเหลือใคร ต้องช่วยอย่างปล่อยวาง ทุกสิ่งทุกอย่าง มีกฏของกรรมคุมไว้ ถ้าถึงเหตุถึงปัจจัย สิ่งที่ดีที่ทำไว้ จะส่งผลให้ตามที่ปรารถนาเอง
ร่างกายต้องหล่อเลี้ยงด้วยธาตุของอาหาร ดวงจิตที่ซ้อนอยู่ในกาย ต้องหล่อเลี้ยงด้วยบุญ ร่างกายขาดสารอาหาร ย่อมหิวโซ ย่อมเป็นทุกข์ ดวงจิตที่ขัดสนในบุญนั้น ย่อมเร่าร้อน ย่อมเป็นทุกข์ ฉะนั้น เมื่อดูแลร่างกายให้อุดมสมบูรณ์ อย่าลืมดูแล รักษาจิตใจ ด้วยการสร้างบุญบารมี ให้มีความสุข สำเร็จด้วยอำนาจแห่งบุญ
การออกบวช คือ การฝึกฝนในการละ การวาง ทุกสิ่งทุกอย่างในทางโลก ไม่ว่าจะเป็นลาภ ยศ สรรเสริญ ตำแหน่ง เพื่อชำระล้างความหลง ความรัก ความโลภ ความโกรธ ความอยาก ความไม่อยาก ให้หมดไปจากจิตใจ จะได้พบกับความสุข จึงจะเป็นการบวชอย่างแท้จริง
… ตอนที่ ๓๕ รักษาศีลไปเพื่ออะไร
รักษาศีลเพื่อสิ่งใด เพื่อให้ความสุขสงบในจิตใจ เพราะได้ห่างไกล จากกิเลสตัณหา เพราะไม่ได้สร้างกรรมที่ไม่ดี ให้มีกรรมชั่วใหม่ขึ้นมา ทำให้ได้รับความทุกข์เร่าร้อนในภายหลัง ทำให้เป็นหนทางในการดับการเกิด เพราะได้ชำระกิเลสตัณหา ออกจากจิตใจ ด้วยการรักษาศีล
ชีวิต คืออะไร มีอยู่จริง หรือเปล่า หรือเป็นแค่สิ่งสมมุติ มาล่อหลอก ให้ยึดติด ลุ่มหลง ว่าเป็นเรา เป็นของเรา ต้องดิ้นรนขวนขวาย ให้ได้สิ่งทั้งหลายนั้นมา จึงจะทำให้ชีวิตมีความสุข ต้องดิ้นรน แสวงหาไม่จบไม่สิ้น ท้ายที่สุด ต้องพลัดพราก ต้องสลายไปอยู่ดี จึงต้องดิ้นรน ขวนขวายหามาใหม่ เป็นทุกข์ไม่จบไม่สิ้น จนกว่าจะมีปัญญา ดับกิเลส ตัณหา ทำให้จิตเป็นอิสระ อยู่เหนือความยึดถือในชีวิต จึงจะหลุดพ้น จากความทุกข์
ถ้าเจอความทุกข์มาก มีหนี้สินมากมาย เจ็บป่วยทางกาย โรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า อยากตาย จะพิจารณาอย่างไร เพื่อให้มีกำลังใจอยู่ต่อ ซึ่งตามความจริง จิตดวงเดียวท่องเที่ยวไป จะเกิดเป็นใคร ก็มีความทุกข์หมด ตราบใดยังหนี้กรรมต้องชดใช้ ยังไม่ได้ดับกิเลสตัณหา จะหนีไปอยู่ภูมิใด ย่อมหนีความทุกข์ไปไม่พ้น ยอมชดใช้ไป ไม่ทำผิดทำพลาดอีก ทำแต่ความดี สร้างบุญบารมี หาทางดับการเกิดให้ได้ จึงจะพ้นจากความทุกข์อย่างแท้จริง
… ตอนที่ ๓๒ กฎกติกาของวัฏสงสาร
ดวงจิตทุกดวงที่เวียนว่าย ตายเกิดในวัฏสงสาร ต้องเป็นไป ตามกฏของกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นไปตาม กฏของไตรลักษณ์ ไม่มีสิ่งใดที่เที่ยงแท้ ตั้งอยู่ไม่ได้นาน ท้ายที่สุด ก็ดับไปทั้งหมด กฏ ๒ ข้อนี้ เป็นกฏกติกาของธรรมชาติ ที่คุมวัฏสงสาร ที่ไม่มีใครหนีพ้น จนกว่าจะดับการเกิดได้
… ตอนที่ ๓๑ จะอยู่ทางโลกหรือทางธรรมดี
เบื่อหน่ายในทางโลก ปรารถนาจะไปในทางธรรม แต่ปล่อยวางยังไม่ได้ จะต้องทำอย่างไร การรักษาศีล รักษาที่บ้านก็ได้ การศึกษาธรรม ศึกษาที่ไหนก็ได้ การฝึกสมาธิ ฝึกที่ไหนก็ได้ การพิจารณาให้เห็น ตามความเป็นจริง ในความไม่เที่ยงแท้ อยู่ที่ไหนก็มีให้เห็น จึงไม่ควรคิดให้เป็นทุกข์ เมื่อถึงเหตุปัจจัย ความดีที่สร้าง จะเปิดทางให้เอง
… ตอนที่ ๓๐ อยู่กับปัญหาแต่ไม่มีปัญหา
การอยู่กับความทุกข์แต่ไม่ทุกข์ อยู่กับปัญหาอย่างไม่มีปัญหา ต้องมีสติ ปัญญา พิจารณาเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้น ว่ามาจากสาเหตุใด โดยใช้หลักกฎของกรรม จะสามารถช่วยให้แก้ไขปัญหา ด้วยความเมตตา และวางอุเบกขา ปล่อยวางต่อความทุกข์ วางเฉยต่อปัญหา เพราะได้เข้าใจตามความเป็นจริงนั้นแล้ว
… ตอนที่ ๒๙ มาคนเดียวไปคนเดียว
ตอนเกิด มาเพียงผู้เดียว จะสมมุติว่ามีใคร สมมุติเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นพี่เป็นน้อง เป็นสามีภรรยา เดินทางร่วมกันไป เมื่อถึงทางแยก ก็ต้องแยกจากกันอยู่ดี ไม่ว่าจะไปเกิดอยู่ในที่ใด มีสิ่งสมมุติ ว่าเป็นเรา เป็นของของเรา แต่ความเป็นจริงแล้ว ไม่มีอะไรเลย ที่เป็นของเรา ท้ายที่สุด มาคนเดียว ต้องจากไปคนเดียวอยู่ดี
ชีวิตนี้เป็นของเรา หรือของใคร ตราบใดที่กิเลสตัณหา มาคอยชี้นิ้วสั่ง เดี๋ยวให้รักกับคนนั้น เดี๋ยวให้รักกับคนนี้ ให้โลภ ให้โกรธ ให้หลง ไม่มีที่สิ้นสุด ชีวิตยังไม่มีอิสระ ไม่สามารถแบ่งเวลามาสร้างความดี ยังเป็นทาสของกิเลสตัณหาพาให้เป็นไป ชีวิตนี้ยังไม่ใช่ของเรา
… ตอนที่ ๒๗ ทำอย่างไรชีวิตถึงจะมั่นคง
กายนี้ไม่เที่ยง กายนี้ไม่มั่นคง ชีวิตที่อยู่ในกายนี้ จึงไม่เที่ยง ไม่มั่นคงเช่นเดียวกัน การที่จะแสวงหาปัจจัยภายนอก ลาภ ยศ ทรัพย์สินสมบัติ มาประกอบ มาค้ำหนุนให้ชีวิตมั่นคง จึงเป็นไปไม่ได้ ยกเว้น การสร้างความดี อยู่ในกรอบของศีล ธรรม สมาธิ ปัญญา หลุดพ้นจากกิเลสตัณหา หลุดพ้นจากเกิด สำเร็จเป็นองค์พระอรหันต์ ชีวิตถึงจะมั่นคง
… ตอนที่ ๒๖ ปรารถนาที่จะรวยต้องทำอย่างไร
ต้องการได้สิ่งใด ต้องหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไป เพื่อให้งอกเงยกลับมา ให้ได้รับหมากผล ข้าวเปลือกหนึ่งเม็ดที่ปลูกที่หว่านไป เกิดหนึ่งต้น งอกออกมาเป็นหนึ่งรวง มีเจ็ดสิบเม็ดบ้าง ร้อยเม็ดบ้าง เป็นร้อยเท่าพันทวี ปรารถนาความดี ร่ำรวยในทรัพย์สินเงินทอง ต้องหว่านเมล็ดพันธุ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง นำไปสร้างทานในนาที่อุดม จึงจะงอกเงยงอกงาม ออกเป็นทรัพย์สินให้ได้รับกลับมา เมื่อปรารถนาที่จะรวย ตามกฎของกรรม
… ตอนที่ ๒๕ ผู้หลับไหลไม่รู้ตื่น
เวลาที่เรานอนหลับฝันไป ฝันดีมาก ฝันว่าได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ฝันว่าได้รถ ได้บ้าน ได้เงินทองมากมาย เมื่อเราตื่นขึ้นมาจากความฝัน สิ่งเหล่านั้นก็หายไป มีแต่ความว่างเปล่า เพราะมันเป็นแค่ความฝันเท่านั้นเอง การที่เราอยู่ในโลกสมมติที่ ไม่ว่าจะอยู่ในสวรรค์ มนุษย์ ในบาดาล ยังไม่สามารถยกจิตให้รู้แจ้ง เข้าใจความเป็นจริง ว่าสิ่งทั้งหลายล้วนไม่มีจริง ท้ายที่สุดก็ต้องสลายไป ก็ยังเป็นผู้ที่หลับไหลไม่รู้ตื่น
การได้เกิดมาเป็นคน ต้องมีต้นทุนบุญกุศลได้สั่งสมมา จึงทำให้ได้ร่างกายคนมาครอบครอง รวมทั้งแรงกายแรงใจ ความรัก ความหวัง ความห่วงใย ความเสียสละของบิดามารดา ที่ได้หาปัจจัยสิ่งต่างๆ มาค้ำหนุนให้เติบโตขึ้นมา ฉะนั้น จงรู้จักคุณค่าของการได้เกิดมา ดูแลรักษาตนให้ดี สร้างสั่งสมบุญบารมีและตอบแทนผู้มีพระคุณ
… ตอนที่ ๒๓ ลังเลสงสัยในการทำดี
บางคนทำดีมีแต่สิ่งที่แย่ แต่บางคนทำชั่วกลับได้รับสิ่งที่ดี เช่นนี้ กฎของกรรมมีอยู่จริงหรือ พิสูจน์ได้อย่างไร ธรรมดาของคนเรา ความสุขเล็กน้อยจะมองไม่ค่อยเห็น ความทุกข์นิดหน่อยเป็นดั่งขุนเขา การที่จะพิสูจน์กฎของกรรม ต้องเว้นจากการทำชั่วทั้งปวง ทำแต่ความดี จิตเลื่อนภูมิเป็นอริยบุคคลขั้นที่ ๑ เมื่อใด ก็จะเชื่อในกฎของกรรม จะไม่ลังเลสงสัยในการทำดีอีกต่อไป
ดวงอาทิตย์ดวงจันทร์ดวงเดียวกัน มองจากคนละทิศ อยู่กันคนละทางนั้น ย่อมเห็นแตกต่าง บางที่มีเมฆหมอกมาบัง บางที่มีแสงสว่าง ทางนี้เป็นกลางวัน ทางนั้นเป็นกลางคืน การที่คนสองคนถกเถียงกัน ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้น เพราะดวงจิตต่างคนต่างมา ต่างกิเลสตัณหา ต่างสติปัญญา จึงยืนกันคนละมุม ย่อมเห็นแตกต่างเป็นธรรมดา
… ตอนที่ ๒๐ กฎของการข้ามวัฏสงสาร
การจะข้ามน้ำข้ามทะเล ต้องใช้เรือใช้ยานพาหนะ ที่มั่นคงแข็งแรง ต้องมีสติปัญญา ความรอบรู้กฎของการเดินทาง การจะข้ามวัฏสงสารได้ ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งและอดทน รู้จักการวางอุเบกขาในความเมตตาสงสาร เมื่อสามารถนำตนข้ามพ้นฝั่งทะเลทุกข์ ดับการเกิดได้แล้ว ค่อยกลับมาช่วยบุคคลผู้อื่นในภายหลัง จึงจะเป็นผู้เดินตามพุทธะ เป็นผู้หลุดพ้นความทุกข์ได้อย่างแท้จริง
.… ตอนที่ ๒๑ ทำดีแต่ยังไม่ได้ดี
การทำดีแล้วยังไม่เจอสิ่งที่ดี ทำดีไปแล้ว ทำมากขนาดไหน ทำเพราะเหตุใด ทำเพื่ออะไร ทำดีแล้วทอนความดี กลับไปด้วยหรือเปล่า ถ้าทำความดียังไม่ถึง ความเป็นอริยบุคคลขั้นที่ ๑ อย่าพึ่งเรียกว่าตนทำดี ทำดีจนถึงความเป็นอริยบุคคลขั้นที่ ๔ ถึงจะเป็นการทำความดีที่แท้จริง
… ตอนที่ ๑๙ ระดับของการสร้างความดี
การทำความดีมีหลายระดับ ทำดีแล้วยังวนอยู่ในวัฏสงสาร ทำดีด้วยตนเอง ทำตามคนอื่น ทำเพราะหวังผลตอบแทน ทำเพื่อตอบแทนคุณ ส่วนการทำดีเพื่อความเป็นอริยบุคคลขั้นที่ ๑ ขั้นที่ ๒ ขั้นที่ ๓ ขั้นที่ ๔ เป็นการทำความดีเพื่อดับการเกิด เป็นการทำความดีเพื่อมรรคผล นิพพาน เป็นการความดีเพื่อดับทุกข์อย่างแท้จริง
หนอนน้อยก่อเกิดขึ้นมา จากธาตุดินน้ำลมไฟ ให้เกิดมาอยู่ในโลกสมมุติ ก็เลยดิ้นรนขวนขวาย ให้ได้สิ่งนั้นมาสิ่งนี้มา บางครั้งก็เจอกับสิ่งที่รัก สิ่งที่ชอบใจ เจอแล้วก็ต้องจาก เจอแล้วก็ต้องพลัดพราก ท้ายที่สุดสิ่งทั้งหลาย ที่ได้มา ที่มีมา ก็ดับไปจากไปอยู่ดี เพราะสิ่งทั้งหลายไม่มีอยู่จริง เป็นแค่สิ่งสมมุติ มาล่อหลอกให้หนอนน้อยหลงทาง
… ตอนที่ ๑๗ การดับขันธปรินิพพาน
การดับขันธปรินิพพานของพระพุทธเจ้าและอรหันตสาวก สูญสลายไปหรือยังมีอยู่ ดวงจิตของบุคคลผู้หลุดพ้นจากโลกจากจักรวาลวัฏสงสารแล้ว ย่อมไม่ตกอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์อันใดอีก จะสมมุติให้มีขึ้นก็ได้ จะสมมุติให้หายไปก็ได้ จึงบอกว่ามีอยู่ก็ได้ หรือไม่มีก็ได้ ผู้บำเพ็ญถึงพระนิพพานแล้วจะเข้าใจ
… ตอนที่ ๑๖ การเกิดมาของคนบนโลก
โลกมนุษย์ไม่เคยมียุคสมัยใด ที่ไม่มีความทุกข์ ขึ้นอยู่กับกิเลสตัณหา จะแปรเปลี่ยนไปทางใด บางยุคมนุษย์ก็บ้าอำนาจ รบราฆ่าฟันกันแย่งชิงสิ่งนั้นสิ่งนี้ บางยุคก็แข่งขันกันพัฒนาสร้างเทคโนโลยี ไม่มียุคใดสบายที่แท้จริง บุคคลผู้ใดที่เห็นภัยในสงสาร จึงแสวงหาทางออก ด้วยการสร้างความดี หาทางดับการเกิด จึงจะพบความสุขได้อย่างแท้จริง
การจะทำความดีที่เข้มแข็ง จะต้องใช้สติปัญญา พิจารณาตรึกตรอง วัดดูกำลังของตน ว่าพอทำไหว สามารถรับบุญบารมีนั้นได้หรือเปล่า ทำไปโดยไม่เบียดเบียนตนและผู้อื่น จะทำให้ได้รับความสุขในสิ่งที่ทำ ทำแล้วจึงปรารถนาที่จะทำอีก จึงจะเป็นการทำความดีที่ได้ดี
พระพุทธเจ้า คือผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร เป็นผู้แสวงหาหนทางออก จากการเวียนว่ายตายเกิด เมื่อพระองค์ท่านได้พบหนทางแล้ว รู้แจ้งโลกแล้ว สามารถนำดวงจิตหลุดพ้น จากความทุกข์แล้ว จึงนำพระธรรมคำสอนมาชี้ทางบอก ให้ผู้อื่นได้รู้ตาม ปฏิบัติตาม จะได้หลุดพ้น เช่นเดียวกับพระองค์ท่าน
ธรรมชาติได้สร้างสรรพสิ่ง จะเกิดขึ้นดำรงอยู่ ย่อมเป็นเหตุปัจจัยซึ่งกันและกัน อิงอาศัยกันเกิดขึ้น เกี่ยวเนื่องกันเป็นลูกโซ่ มีสิ่งนี้จึงมีสิ่งนี้ มีสิ่งนี้เกิดขึ้นจึงไม่มีสิ่งนี้ ไม่มีสิ่งนี้จึงไม่มีสิ่งนี้ เพราะสิ่งนี้ดับสิ่งนี้จึงดับไป เราเกิดขึ้นมาด้วยกิเลสตัณหา จึงนำมาซึ่งความทุกข์ เมื่อมีศีลธรรมสมาธิปัญญา กิเลสตัณหาจึงดับไป เมื่อกิเลสตัณหาดับไป จึงไม่มีเรา ไม่มีความทุกข์อีกต่อไป
… ตอนที่ ๑๒ สิ่งที่ซ่อนอยู่ในเรา
ใบไม้ซ่อนสิ่งต่างๆมากมาย ในความเป็นใบไม้ ชีวิตของคนเราก็เหมือนกัน มีสิ่งที่ซ่อนอยู่ในเรามากมาย ทำให้รวมกันมาเป็นเรา ค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเราได้ จึงจะเป็นผู้รู้ ผู้เข้าใจในตัวตน และเข้าใจในสรรพสิ่ง จะสามารถชนะสิ่งสมมุติทั้งหลายที่เป็นเรา
… ตอนที่ ๑๑ วิธีดับเพลิงไฟในศาสนาและบ้านเมือง
ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่เป็นทุกข์หนอ จะดับความวุ่นวาย จะดับทุกข์นั้นได้อย่างไร เหตุที่เกิดขึ้นแล้วนั้น จงช่างมันเถิด การกระทำในอดีต ส่งผลมาสู่ปัจจุบัน การกระทำในปัจจุบัน ส่งผลไปสู่อนาคต จงทำเราในปัจจุบันให้ดีก็พอ ใครทำดีทำชั่วอยู่ที่ตัวของเขา อย่าสนใจในคนชั่ว ชวนกันสร้างความดีให้มากก็พอ ความชั่วจะแพ้ภัย เพลิงไฟเหล่านั้นจะดับลงไปเอง
… ตอนที่ ๑๐ ข่าวด้านลบเกี่ยวกับพระสงฆ์
การได้รับข่าวสารได้ยินได้ฟัง สิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นในพุทธศาสนา เกี่ยวกับพระสงฆ์ ต้องวางจิตอย่างไร คิดแบบไหน เพื่อไม่ให้เกิดความทุกข์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็ยังเป็นแก้วรัตนะที่บริสุทธิ์เหมือนเดิม การที่จะเป็นพระสงฆ์ได้ ต้องปฏิบัติอยู่ในกรอบของความดี อยู่ในศีลธรรม บุคคลใดทำไม่ดี จึงไม่ใช่พระสงฆ์ เป็นแค่บุคคลที่สอบไม่ผ่านความดีแค่นั้นเอง ไม่ใช่ศาสนาเสื่อมหรือมัวหมอง จึงไม่ควรนำมาตัดรอน การสร้างความดีของเราเอง
… ตอนที่ ๙ การแสวงหาที่สมบูรณ์
การจะทำจิตให้อยู่เหนือในสิ่งสมมุติทั้งหลาย ต้องให้มีสติปัญญา รู้แจ้งเข้าใจความเป็นจริงของชีวิตก่อน เพื่อจะให้ลาภยศ สรรเสริญ ตำแหน่งที่ได้มา จะไม่สามารถครอบงำให้ลุ่มหลง ยึดติด จนเกิดการสร้างกรรมที่ไม่ดีเบียดเบียนผู้อื่น จนทำให้ดวงจิตของเราต้องจมลงไป เพราะความไม่มีสติปัญญาของตนเอง
ดวงจิตที่เกิดมาในร่างกาย ถูกปิดสภาวธรรมความเป็นจริงเอาไว้ จึงดำเนินไปท่ามกลางความมืดมิด ไม่รู้ที่มาและที่ไปแห่งตน จึงดำเนินชีวิตไปวันๆ ไม่รู้ว่าตนเอง จะต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่การที่ได้เกิดมาในยุคกึ่งกลางศาสนา จึงมีผู้มาชี้บอกทาง ส่องแสงสว่างให้กับชีวิตอีกครั้งหนึ่ง จึงเป็นโอกาสทองของชีวิต ของผู้ที่ได้เกิดมาในยุคนี้
การทำความดีอย่างไร ที่เรียกว่าดีจนเกินไป การทำความดี จนเกินกำลังของตน ทำความดี จนผู้รับความดีที่ทำให้รับไว้ไม่ไหว ดีจนเกินไป จนทำความดีต่อไม่ได้ อย่างนี้แหละ ที่เขาเรียกว่า ดีเกินไป
… ตอนที่ ๖ ช่วยเหลืออย่างไรไม่ให้เป็นทุกข์
การฉุดช่วยคนที่เลอะไปด้วยโคลนตม มือเราย่อมเปื้อนโคลนด้วยเป็นธรรมดา การช่วยเหลือคนที่ทุกข์ร้อน ความทุกข์ความร้อนนั้น อาจจะกระทบมาที่เราด้วย การฝึกจิตให้พลังที่เข้มแข็ง รู้เข้าใจในเหตุในปัญหา พิจารณาช่วยโดยที่ไม่เกินกำลังของตน และสามารถวางจิต ให้อุเบกขาในความเมตตา การช่วยเหลือบุคคลผู้อื่น จึงจะไม่ทำให้เราเป็นทุกข์
… ตอนที่ ๕ ทำความดีแต่ไม่ละความชั่ว
การเดินทางไปสู่ประตูแห่งความพ้นทุกข์ การสร้างความดีเป็นการก้าวไปข้างหน้า การสร้างความชั่วจึงจะเป็นการก้าวถอยหลัง ทำดีด้วยทำชั่วด้วย จึงเป็นเดินหน้าด้วย ถอยหลังด้วย การจะก้าวออกจากความทุกข์จึงเป็นของยาก สำหรับบุคคลผู้นั้น
… ตอนที่ ๔ ทำไมชนะกิเลสตัณหาได้ยาก
การเลี้ยงดูลูกน้อย ต้องเอาใจใส่ ป้อนนมป้อนน้ำ ต้องขยัน ต้องอดทน กว่าเด็กน้อยจะเติบใหญ่ หาเลี้ยงตัวเองได้ การทำความดีก็เช่นเดียวกัน กว่าความดีจะเจริญงอกงามเข้มแข็ง จนสามารถทำให้จิตมีพลังความดี อยู่ เหนือกิเลสตัณหา ก็ต้องเอาใจใส่ สร้างความดีไปเรื่อยๆ ด้วยความขยัน อดทน เช่นเดียวกัน
… ตอนที่ ๒ ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร
คนเราส่วนมาก ชอบเอาตนไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น ว่าเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร การที่คนเราแตกต่างกัน ย่อมมาจากการสั่งสมบุญ สร้างความดีที่ต่างกัน เราไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร ก็ทำดีได้ ด้วยการดูแล ทำหน้าที่ของตนให้ดีก็พอ ไม่ต้องเอาตนไปเปรียบเทียบกับใคร ให้เกิดการสร้างกรรมไม่ดี และตัดรอนความดีของตนเอง
… ตอนที่ ๓ ธรรมคำสอนในพุทธศาสนา
การศึกษาทางโลก มีตั้งแต่ชั้นอนุบาลประถมกอกา จนถึงปริญญาเอก พระธรรมคำสอนในพุทธศาสนา ก็มีหลายระดับ สอนให้ทำความดี ละเว้นความชั่ว ตั้งแต่การรู้จักทำทาน รูจักการให้อภัย รักษาศีลศีลห้าให้ได้ จนถึงศีลของผู้ออกบวช เมื่อภูมิจิตสูงขึ้นไป ก็จะเข้าใจในการเวียนว่ายตายเกิด รู้แจ้งในกฎของกรรม รู้ในกฎของความไม่เที่ยงแท้ ก็จะไม่หลง ไม่กลับมาเกิดอีก ฉะนั้น การทำความดีแม้เล็กน้อย ก็เป็นคำสอนของพุทธศาสนา การทำความชั่ว จึงจะไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า
พระยาธรรมรับคำสอนจากพุทธองค์ พระยาธรรมิกราช พุทธโอวาทกึ่งพุทธกาล •
112 วิดีโอ
. … ตอนที่ ๑ การมีชีวิตอยู่เพื่อตนเอง
ชีวิตนี้มีเวลาน้อยนัก คิดเช่นนี้เลยเร่งขวนขวาย ดิ้นรนแสวงหาลาภยศ สรรเสริญ ไม่ว่าจะได้มาด้วยวิธีใด สร้างแต่ความวุ่นวาย ยุ่งแต่เรื่องของผู้อื่น จะเป็นการอยู่เพื่อตนเองไหม ในเมื่อยิ่งทำยิ่งทุกข์ ยิ่งอยู่ไปยิ่งขาดทุน การทำความดี ไม่เบียดเบียนใคร จึงจะยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น ให้พบกับความสุข จึงจะเป็นการมีชีวิตอยู่เพื่อตนเองอย่างแท้จริง
… ตอนที่ ๕๖ ทำอย่างไร ถึงจะเป็นผู้รู้
การที่จะเป็นผู้รู้ ต้องเป็นผู้ศึกษา เรียนรู้ให้เข้าใจ ต้องฝึกฝน คอยพิจารณาเรียนรู้อยู่กับความเป็นจริง ศึกษาจนกว่า จะเป็นผู้รู้ ผู้ตื่นอย่างแท้จริง ถ้าทางโลกก็เป็นผู้สำเร็จปริญญาเอก ทางธรรมก็เป็นผู้สำเร็จในศีล ธรรม สมาธิ ปัญญา สำเร็จ เป็นองค์พระอรหันต์ จึงจะเป็นผู้รู้อย่างแท้จริง
… ตอนที่ ๕๗ ทุกสิ่งล้วนมีหน้าที่
ดินก็มีหน้าที่ของดิน น้ำก็มีหน้าที่ของน้ำ ลมก็มีหน้าที่ของลม ไฟก็มีหน้าที่ของไฟ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีหน้า เกิดมาในโลกสมมุติ เกิดมาเป็นใคร อยู่ในฐานะ อยู่ในตำแหน่งใด จงทำหน้าที่แห่งตนให้ดี จึงจะเป็นผู้สอบผ่าน ด่านทดสอบของความดี
… ตอนที่ ๕๘ สุขทุกข์อยู่ที่ไหน
ร่างกายและสิ่งของ บุคคลที่อยู่ภายนอกร่างกาย เป็นเก็บซ่อนไว้ ซึ่งความทุกข์ จึงหาความสุขที่แท้จริงไม่เจอเลย ถ้าแสวงหาภายนอก เพราะความสุขได้เก็บซ่อนไว้ในจิตใจ จะหาความสุข ต้องหาที่จิตใจ จึงจะพบความสุขที่แท้จริง
ชีวิตเหมือนเชือกเส้นหนึ่ง การทำชั่วเป็นการผูกปม ให้ชีวิตเจอกับอุปสรรคปัญหา พบกับความทุกข์ การทำความดีเป็นการแก้ปม คลายปม ชีวิตก็จะมีความสุข แต่ถ้าไม่ต้องการ ให้มีปมขึ้นมาอีก ต้องสลายเชือกเส้นนั้น หรือต้องสลายตัวตนให้ได้ จึงจะไม่มีความทุกข์ ไม่มีปมในชีวิตอีกต่อไป
… ตอนที่ ๖๐ ก่อนที่จะบอกสอนผู้อื่น
การที่จะบอกทางผู้อื่น ผู้บอกควรที่จะต้องเคยไปมาก่อน การที่จะบอกสอนผู้อื่นในทางธรรม ผู้ที่บอกก็ควรที่จะประพฤติปฏิบัติตน ให้เข้าถึงธรรมนั้นก่อน จึงจะเป็นผู้บอกผู้สอน ที่จะไม่ทำให้ผู้อื่นหลงทาง
… ตอนที่ ๖๑ บ้านเมือง โลก จักรวาลจะเป็นเช่นใดขี้นอยู่กับใคร
บ้านเมือง โลก จักรวาล วัฏสงสาร จะเป็นเช่นใด จะมีความสุข หรือมีความทุกข์ ย่อมมาจากการกระทำ ของดวงจิตทั้งหลาย ที่อยู่ร่วม อยู่ด้วยกัน จึงมีเหตุให้เป็นเช่นนั้น เช่นนี้ ไม่มีใครที่ทำให้เป็นไปเช่นใด เกินอำนาจของกรรม
… ตอนที่ ๖๒ จะดับความทุกข์ร้อนได้อย่างไร
ความทุกข์ร้อน ที่เกิดขึ้นมา มีปัญหาในชีวิต เกิดจากความยึดติดในอดีต อยากให้เป็นอย่างไรในอนาคต ด้วยความไม่รู้ ไม่เข้าใจในความเป็นจริง ว่าสิ่งทั้งหลายเป็นแค่สิ่งสมมุติ สิ่งที่เจออยู่ในขณะนี้ เป็นแค่เพียงฉากละครฉากหนึ่ง ที่ได้สมมุติขึ้นมา ท้ายที่สุดก็ผ่านไป ไม่มีสิ่งใดยึดถือเอาไว้ได้เลย จึงไม่ควรที่จะเป็นทุกข์เพราะสิ่งใด
… ตอนที่ ๖๓ เส้นทางการดับทุกข์
การสร้างบารมีของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ มีเป้าหมายเพื่อความพ้นทุกข์ เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน เส้นทางสายนี้ จึงขาดไม่ได้ในการสร้างสั่งสมบารมี การทำความดี ในบารมี ๓๐ ทัศ จึงเป็นการฝึกฝน การทดสอบ เพื่อคัดกรองดวงจิต ในเส้นทางของการดับการเกิด ดับความทุกข์ เช่นเดียวกัน
… ตอนที่ ๖๕ ชำระล้างกรรมให้ประเทศ ได้จริงหรือ
การคิดดี ทำดี เมื่อได้กระทำแล้ว ย่อมให้ผลตามที่ได้ปรารถนา การที่จะต้องการให้ส่งผลอย่างรวดเร็ว ต้องสามัคคีร่วมกัน ชวนกันสร้างความดีให้มากๆ ประเทศชาติ จะได้มีความสงบสุข ร่มเย็น ตามพลังความดี ของคนในชาติที่ได้สามัคคีร่วมกัน
สิ่งที่ดีที่เห็นในภายนอก ที่สมมุติว่าดี อาจจะมีสิ่งที่ไม่ดี ที่ซ่อนอยู่ภายใน การทำความดี ถ้าทำด้วยความลุ่มหลง จะเป็นความดีที่แท้จริงยังไม่ได้ ทะยานอยากทำดี ก็ไม่ได้ดี การทำความดีภายนอก ต้องไม่ให้มีกิเลส ตัณหา มาปนเปื้อน ไม่ให้ผิดศีล ผิดธรรม จึงจะเป็นความดีทั้งภายนอก ทั้งภายใน
การศึกษา เรียนรู้ ท่องจำ ให้เกิดความรู้ เกิดความเข้าใจ นำไปพัฒนา แก้ไขปัญหาในชีวิต ยังเป็นปัญญาในทางโลก การฝึกฝนจิตให้มีสมาธิ สงบจากกิเลส ตัณหา เกิดสติ เกิดอธิปัญญา เห็นแจ้งตามความเป็นจริง สามารถสลายอัตตาตัวตน ดับการเกิดได้ จึงเป็นปัญญาธรรม ปัญญาที่แท้จริง
… ตอนที่ ๖๘ พุทธโอวาทวันวิสาขบูชา ๒๕๕๙
วิสาขบูชามาบรรจบ ครบรอบปีอีกครั้งหนึ่ง พระยาธรรมิกราช ได้ทูลถามปัญหาธรรมกับพุทธองค์ ว่าการเกิดที่ดี การอยู่ที่ดี การดับที่ดี ต้องปฏิบัติตนเช่นใด การเกิดมาไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ในตระกูลเช่นใด มีสังคมระดับไหน ขอให้ทำดี ละเว้นจากการทำชั่ว เว้นการเบียดเบียน ชำระกิเลส ตัณหา จากจิตใจ ด้วยการปฏิบัติอยู่ใน ศีล ธรรม สมาธิ ปัญญา ก็จะเป็นการเกิด การอยู่ การดับที่ดี
… ตอนที่ ๖๙ ทำดีแต่มีคนไม่เห็นด้วย
การตั้งใจสร้างความดี แต่มีผู้ไม่เห็นด้วย จะให้ทำอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นการเบียดเบียน ทำให้บุคคลผู้นั้นเป็นทุกข์ การมีผู้มาทักท้วง ก็ควรพิจารณาตรึกตรอง ใช้สติและปัญญา ว่ามีสิ่งใดบกพร่องหรือเปล่า ใช้ทางสายกลางในการกระทำความดี แล้วทำดีต่อไป แล้วจะปรากฎผลความดี ให้บุคคลอื่นเข้าใจเอง
… ตอนที่ ๗๐ การเดินทางของชีวิต
การเดินทางให้ถึงจุดหมาย ต้องมีเสบียง มียวดยาน รู้จักเส้นทาง ประกอบกับกำลังกาย กำลังใจของผู้เดินทาง จึงจะเข้าถึงจุดหมาย เส้นชัยที่กำหนดไว้ ชีวิตที่ดำเนินไป ด้วยศีล ธรรม สมาธิ ปัญญา จึงจะเป็นหนทางสู่เป้าหมาย เส้นชัยแห่งความสำเร็จในชีวิต เป็นองค์พระอรหันต์ การเดินทางจึงจะสิ้นสุดลง ไม่มีความทุกข์อีกต่อไป
การเกิด การตาย เปรียบได้ เช่น กลางวัน กลางคืน ตอนเช้าตื่นขึ้นมา ทำกิจการงาน เร่งขวนขวาย ทำสิ่งที่มีประโยชน์แก่ชีวิต ให้ได้มากที่สุด บุคคลที่โง่เขลา ยังคิดว่าเวลา ยังมีเหลืออยู่เยอะ เลยปล่อยเวลาให้สูญเปล่าไป ไม่สามารถทำประโยชน์ให้แก่ตนได้เลย จนตะวันตกดิน หมดเวลา จบภพชาติหนึ่งไป
… ตอนที่ ๗๒ ท้อกับบททดสอบความดี
ทำความดีแล้ว มีอุปสรรคปัญหา มีสิ่งที่เข้ามาให้เป็นทุกข์ จะต้องพิจารณาอย่างไร จะได้ไม่ท้อถอย ในการสร้างความดี สร้างบุญบารมีต่อไป อุปสรรคปัญหา ต้องพบเจอเป็นธรรมดา ตราบใด ที่ยังมีเรา ยังยึดติด ลุ่มหลง ปล่อยวางยังไม่ได้ ยังต้องสอบ ในสิ่งที่ติดอยู่เป็นธรรมดา จนกว่า เราสร้างความดี มีบุญบารมี สามารถสลายตัวตนได้ บททดสอบทั้งหลาย จึงจะไม่มีผล ให้เราเป็นทุกข์อีกต่อไป
การออกบวชเพื่อความพ้นทุกข์ จะอยู่หรือ ออกแสวงหา สถานที่ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ดี การปฏิบัติธรรม เขาปฏิบัติที่ภายใน ปฏิบัติที่กายและจิตใจ การอยู่หรือไป ก็เป็นจิต เป็นกายเดิมๆ จึงไม่มีความแตกต่าง ขึ้นอยู่ิการ รักษาศีล ศึกษาธรรม เจริญสมาธิ เจริญปัญญา เท่านั้น
การเกิดมาแล้วนั้น จะเกิดเป็นเด็ก เป็นผู้ใหญ่ จะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย ก็มีความทุกข์ ที่ซ่อนอยู่ทั้งหมด ผู้ที่รู้จักทุกข์ ก็จะเห็น ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป แท้ที่จริงตัวตนของเราคือกองทุกข์ จึงควรหาวิธี สลายตัวตนให้ได้ ความทุกข์นั้น จึงจะสลายไป ดับไปด้วย
… ตอนที่ ๗๕ เบียดเบียนผู้อื่นเพราะหน้าที่
การที่ต้องทำตามหน้าที่ หรือมีหน้าที่รับผิดชอบ ต้องช่วยฝ่ายหนึ่ง ทำให้เบียดเบียนอีกฝ่ายหนึ่ง จะมีบาปไหม ในเมื่อทำตามหน้าที่ กฏของกรรม ใครทำสิ่งใดไว้ ต้องรับผลของกรรม ทำตามหน้าที่ก็ได้รับความดีไป ส่วนของความดี เบียดเบียนผู้อื่นในหน้าที่ ก็ต้องรับผลไม่ดี เช่นกัน ไม่มีข้อยกเว้น
… ตอนที่ ๗๖ ไม่ต้องการให้เจ็บป่วยทางกายและใจ
ความเจ็บป่วยมีอยู่คู่กับการเกิด ป่วยเพราะธาตุขันธ์ที่แปรปรวน หรือ ป่วยจากอำนาจของกรรม ที่เคยเบียดเบียนผู้อื่นให้เป็นทุกข์ ต่อร่างกายหรือจิตใจ ส่งผลมาจากอดีตและปัจจุบัน ความเจ็บป่วยทางใจ เกิดจากการคบหากับความลุ่มหลง ความรัก ความโลภ ความโกรธ ความอยาก ความไม่อยาก ละจากสิ่งเหล่านี้ได้ ก็จะพ้นทุกข์
… ตอนที่ ๗๗ ไม่เข้าใจในสิ่งที่เห็น
เห็นพระบางรูป สภาวธรรมของจิต อยู่ในระดับสูงแล้ว ไม่ชอบสวดมนต์ หรือ เห็นผู้หลุดพ้นปฏิบัติตน เช่นบุคคลธรรมดา เลยสงสัย ว่ามันเป็นเช่นใด สูงสุดคืนสู่สามัญ การที่เรียนรู้ศึกษา ปฏิบัติ จนถือได้ว่า ชำนาญการแล้ว ย่อมถึงจุดปล่อยวาง เป็นธรรมดา การท่องกออากา ฝึกฝนอย่างตั้งใจ จะมีอยู่สำหรับผู้หัดเขียน เริ่มเรียนรู้ใหม่ เช่นนั้น
การที่พระบวชใหม่ เณรน้อย เด็กวัยละอ่อน ให้ข้อคิด ความรู้ ให้ธรรมะ จึงรับไม่ได้ จะให้พิจารณาอย่างไร เพื่อจะได้ ไม่ให้มานะทิฐิ มาปิดกั้นความดี ที่เราจะได้รับ การสร้างสั่งสมความดี สติปัญญา ความรู้ ความสามารถบางอย่าง อาจจะนำข้ามภพ ตามมาได้ จึงไม่ควรปิดกั้น ความดีที่จะได้รับ จากผู้ที่สมมุติต่ำกว่าเรา
ชีวิตที่แท้จริง มีตอนที่มีชีวิตอยู่ หรือ มีอยู่หลังความตาย ชีวิตตอนเป็นมนุษย์ ก็เป็นชีวิตแค่ชั่วคราว ไม่มีความเที่ยงแท้ในชีวิต ชีวิตที่เป็นเทพเทวดา ก็ไม่มีความจีรังยั่งยืน จนกว่าสร้างความดี ดับการเกิดได้ จึงจะพบกับชีวิตที่แท้จริง
การสร้างวัดวาอาราม ปรารถนาให้สวยงาม จะต้องพัฒนาจิตใจ ของเราให้ดีก่อน จิตใจดีแล้ว สิ่งดีงามทั้งหลายจะตามมา เชื้อกิเลสตัณหา จึงจะไม่สามารถครอบงำเราได้ การสร้างการทำ จึงเป็นไปตามเหตุปัจจัย ตามธรรมจัดสรรให้เกิดขึ้น ไม่เบียดเบียนใคร จึงเป็นการสร้างบุญบารมีที่แท้จริง
… ตอนที่ ๘๑ อยากให้มีผู้มาศรัทธา
การที่ปรารถนาให้มีผู้มาเดินตาม ต้องเป็นผู้นำที่ดี โดยเป็นผู้มีสติและปัญญา รู้แจ้งในหนทาง เคยไปมาก่อน เชี่ยวชาญในหนทางนั้น จึงจะไม่ทำให้ผู้อื่นหลงทาง จึงสมควรให้มีคนมาศรัทธา มาให้เป็นผู้บอกทาง
ความเมตตา ปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเมตตามากเกินไป จะทำให้เบียดเบียนตนได้ ในภายหลัง ทุกคนล้วนเป็นไปตามกรรม ตามเหตุที่ทำไว้ อย่าไปล่วงละเมิดกฎของกรรม จนเกินพอดี มีอุเบกขาในความเมตตา จึงจะเป็นผู้ที่มีเมตตา อย่างมีสติ มีปัญญา เป็นผู้เดินตามทางสายกลาง จีงจะไม่เป็นทุกข์
… ตอนที่ ๘๓ พระนิพพานอยู่ใกล้อรหันต์อยู่ในตน
ทุกดวงจิต มีพระนิพพานที่ซ่อนอยู่ มีพระอรหันต์ซ้อนอยู่ในตน จะหาเจอได้ ต้องเอาสิ่งที่บังตา บังใจออกไป ไม่สร้างกรรมไม่ดีเพิ่ม ไม่หลง ไม่รัก ไม่โลภ ไม่โกรธแล้ว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับความอยาก และ ไม่อยากอีกต่อไป จะสามารถเห็นพระนิพพาน และองค์พระอรหันต์ได้อยู่ในตน
… ตอนที่ ๘๔ ลูกศิษย์มีคุณธรรมวิเศษสูงกว่าอาจารย์
การอยู่ด้วยกันในสังคม ผู้น้อยเคารพผู้ใหญ่ ศิษย์เคารพอาจารย์ ผู้มีพรรษาน้อยเคารพผู้มีพรรษามาก ลูกเคารพบิดามารดา ถ้าเกิดผู้น้อยสำเร็จบรรลุธรรมก่อน จะให้วางตัวอย่างไร เพื่อให้เหมาะสม การจะเป็นใคร ย่อมมีหน้าที่ของตน ไม่ว่าจะอยู่ในจุดใด ต้องทำหน้าที่ของตนให้ดี ผู้น้อยต้องเคารพผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ให้เคารพความถูกต้อง จึงจะเป็นสุขร่มเย็น
… ตอนที่ ๘๕ ความจริงที่ซ่อนอยู่ในสิ่งที่เห็น
การเห็นสิ่งใด จะให้เห็นตามความเป็นจริง ต้องเป็นผู้มีจิตที่สงบเย็น มีใจที่เป็นกลาง ปราศจากกิเลส ตัณหา มานะทิฐิ อัตตาตัวตน จึงจะเป็นผู้รู้ เข้าใจได้ตามความเป็นจริง ด้วยปัญญาธรรม ปัญญาที่แจ่มแจ้ง เป็นผู้รู้แจ้งโลก มีปัญญาเหนือปัญญา
ต้นไม้เกิดอยู่ที่ไหน ต้องถูกลมพายุ ลมฝน พัดกระหน่ำทุกด้าน โดนแดดแผดเผา หลบไปไหนไม่ได้ ต้องยืนหยัดต้านทาน อยู่เช่นนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต เกิดจากกรรมที่เราสร้างขึ้นมา ทั้งกรรมเก่า กรรมใหม่ ให้อดทน เข้มแข็ง รักษากำลังใจไว้ เพราะไม่ว่าอยู่ที่ไหน ปัญหาก็มีอยู่ทุกที่ ให้ยืนหยัดต่อไป ท้ายที่สุด มรสุมทั้งหลาย ก็จะผ่านไปเอง
สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ ชีวิตผ่านคืนวัน เลื่อนคล้อยลาลับ ไม่หวนกลับคืน การพลัดพรากจาก มีคู่อยู่กับทุกดวงจิต ไม่ว่าจะเกิดเป็นใคร ย่อมมีชีวิตที่เป็นไป เช่นเดียวกับ สายน้ำ ผ่านมาแล้ว ผ่านไป จึงไม่ควรจมอยู่ กับความทุกข์โศกอันใด ในความพลัดพรากทั้งหลาย นั้นเลย
รักษาศีล รักษาไปทำไม มีประโยชน์อะไร ศีลเป็นกรอบของคนดี ที่ละการทำความชั่ว เว้นจากการเบียดเบียนตนและผู้อื่น เพื่อไม่ให้มีหนี้กรรม ต้องชดใช้ในภายหลัง ศีล จะนำพาให้ห่างไกลจากกิเลส ตัณหา ศีล จึงเป็นปัจจัยให้พ้นจากความทุกข์
พุทธอุทยานภูสวรรค์ ได้ถูกจัดวางเอาไว้ เป็นสถานที่เจียระไนดวงจิต ในทุกระดับชั้น มีเครื่องขัดเกลา ชำระกิเลส ตัณหา แนวทางปฏิบัติ สายสัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ หลักสูตร ค้นหาตัวตน เพื่อจะได้รู้หน้าที่ของตน ให้ทำหน้าที่ให้สำเร็จ เสร็จกิจ ก่อนที่จะหมดเวลา เพื่อดับการเกิด จะได้พ้นจากความทุกข์
… ตอนที่ ๙๐ พระพุทธเจ้าหัวแดงหัวเขียว
ดวงจิตที่ลุ่มหลงในตัวตน คิดปรามาส เย่อหยิ่ง ต่อครูบาอาจารย์ ทำให้ดวงจิต โดนมารแอบแฝง ให้หลงผิดเข้าใจว่า ตนเป็นพระพุทธเจ้า หรือ เก่งกว่าพระพุทธเจ้า จิตตกไปอยู่ในฝ่ายมาร เพราะความผิด ความชั่วที่ทำ เกิดเป็นพระพุทธเจ้าหัวแดงหัวเขียว เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปลอม
… ตอนที่ ๙๑ ภัยพิบัติของโลก จักรวาล วัฏสงสาร
ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในโลก ในจักรวาล วัฏสงสาร ย่อมมีเหตุ มาจากผลของกรรม จากการกระทำของดวงจิตทั้งหลาย มาจากกฎเกมส์ของธรรมชาติ ที่ให้เป็นไป จะไม่ให้เกิดภัยพิบัติ ต้องดับการเกิดให้ได้ เมื่อสลายตัวตนได้ ไม่มีเราแล้ว แผ่นดินจะถล่ม ฟ้าจะทลาย ก็ไม่ผลต่อเราแล้ว
สมาธิเป็นพลังของจิต เป็นรากฐานของสติ ปัญญา ทำให้เกิดความสงบ ความสุข ความชุ่มเย็น การทำสมาธิ ทำให้จิต ได้รับการพักผ่อน สมาธิเปรียบเสมือนน้ำ ทำให้ต้นไม้ ได้รับชุ่มเย็น ผู้มีสมาธิมาก จะได้รับความสุขมาก สมาธิจึงสำคัญยิ่งนัก ทุกคนจึงควรทำสมาธิ เพื่อให้ชีวิตได้รับความสุข
… ตอนที่ ๙๓ การที่จะฟังธรรมให้เข้าใจ
การทำให้จิตให้สงบ ต้องปล่อยทุกสิ่ง วางทุกอย่าง เอาจิตไปกำหนดไว้ ในจุดใดจุดหนึ่ง สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ให้จิตนิ่งอยู่กับสิ่งนั้น ทำไปเรื่อยๆ ทำบ่อยๆ จิตก็จะเข้าถึงสมาธิได้ ก็จะเกิดความสงบ ความสว่าง ความว่างเปล่า จะรู้ในสิ่งทั้งหลาย ตามความเป็นจริง ในสิ่งที่ซ่อนอยู่ เมื่อจิตเกิดสมาธิ
พระยาธรรมิกราช ได้รับอาสาที่จะนำพาดวงจิตทั้งหลาย ให้พ้นภัย จึงได้ทำพิธีชำระล้างกรรมให้กับโลก ด้วยพลังพุทธบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน และนำพระธรรมสอนสั่ง ให้ดวงจิตทั้งหลาย ให้เห็นภัยในสงสาร จะได้ปฏิบัติตนในศีล ธรรม สมาธิ ปัญญา จะได้พ้นภัยอย่างแท้จริง
… ตอนที่ ๙๖ ธรรมชาติของก้อนหิน
สรรพสิ่งในโลกนี้ ที่เกิดมา ล้วนมีหน้าที่ของตน ก้อนหิน ก็มีหน้าที่ ช่วยค้ำหนุนแผ่นดิน หรือ สิ่งปลูกสร้างให้แข็งแรง ก้อนหิน มีทั้งก้อนเล็กและก้อนใหญ่ มีทั้งแข็งและอ่อน คนเราเกิดมา มีหน้าที่สร้างความดี ความดี ก็มีทั้งความดีที่ยิ่งใหญ่ และ ความดีที่เล็กน้อย ความดีที่เข้มแข็ง และความดีที่อ่อนแอ ไม่ต่างจากก้อนหิน
… ตอนที่ ๙๗ ใครเป็นผู้สร้างพระบรมบิดา
มีผู้ร่วมเดินทาง ในขบวนของพระยาธรรมิกราช สงสัยในการก่อเกิดดวงจิต ใครสร้างขึ้นมา แล้วใครสร้างบรมบิดา ใครสร้างธรรมชาติ พระยาธรรมจึงได้เข้าเฝ้าทูลถามปัญหา ต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พระองค์ท่านเลยให้พระยาธรรม เข้าเฝ้าพระบรมบิดา ทูลถามปัญหา สภาวธรรมที่ยังไม่เข้าใจเหล่านั้น ขอเชิญญาติธรรมติดตามรับฟัง เพื่อความกระจ่างแจ้งในธรรม
… ตอนที่ ๙๘ การฝึกจิตให้เข้มแข็ง
บุคคลที่มีร่างกายแข็งแรง สิ่งของที่ดูหนัก ก็ยังสามารถยกได้ อย่างง่ายดาย สำหรับผู้ที่มีจิตใจ ที่เข้มแข็ง มีสติ ปัญญา เมื่อมีอุปสรรคปัญหา ถึงจะมากมาย ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ อย่างสบาย ฉะนั้น จงหมั่นฝึกฝนตน ให้มีความอดทน มีพลังของจิตที่เข้มแข็ง เพื่อจะได้พ้นจากความทุกข์
ดอกไม้ เมื่อเบ่งบาน ชูช่อสวยงาม แล้วแห้งเหี่ยว โรยรา ร่วงลงสู่พื้นดิน การได้รับโอกาสที่ดี ก็เป็นเช่นดอกไม้ เมื่อมีมาแล้ว ย่อมผ่านไป จึงไม่ควรปล่อยโอกาสที่ดีนั้น โดยไม่ได้ทำอะไร ให้ก่อเกิดประโยชน์แก่ตนเอง เพราะโอกาสที่ดี มีอยู่ไม่นาน
การปลูกมะละกอ สักต้น ต้องเรียนรู้เรื่องของมะละกอ ศึกษาวิธีการปลูก ต้องรู้วิธีการเลือกเมล็ดพันธุ์ ต้องดูแลรักษา ด้วยความขยัน อดทน มะละกอจึงจะเจริญเติบโต เป็นหมากเป็นผล ได้รับความสำเร็จ ในการปลูกมะละกอ
การแสวงหาความสงบ จะพบได้เมื่อหยุดแสวงหา เพราะความสงบที่แท้จริง คือการหยุดนิ่ง ปราศจากการดิ้นรนแสวงหา
ทุกดวงจิตที่เกิดมา ล้วนมีหน้าที่ จะอยากทำหรือไม่ ก็ต้องทำไป เพราะมันคือหน้าที่ การหนีปัญหา ไม่ช่วยให้หลุดพ้นจากปัญหา การอยู่กับปัญหา เข้าใจในปัญหา ปล่อยวางจิตใจ ไม่ให้ทุกข์ได้ จึงจะเป็นผู้อยู่เหนือปัญหา
การจะทำกับข้าวให้อร่อย ต้องรู้สูตร รู้วิธีการทำ กับข้าวจึงจะเป็นกับข้าว ได้รสชาติตามที่ต้องการ การจะเป็นนักบวชที่ดี ซึ่งมีพระพุทธเจ้า เป็นผู้บอกสูตร บอกทาง การออกบวชประพฤติปฏิบัติตาม ที่พระพุทธองค์ ท่านสอนสั่ง จึงจะทำให้เป็นนักบวชที่ดี เป็นผู้มีศีล มีธรรม มีสมาธิ มีปัญญา สามารถนำพาตน ให้พ้นจากความทุกข์
พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้ธรรม นำดวงจิตให้พ้นจากความทุกข์ ผู้ที่นำคำสอนของพระองค์ มาปฏิบัติตาม เรียกว่าชาวพุทธ สิ่งใดที่เป็นเหตุของทุกข์ จะไม่ยุ่งเกี่ยว จะไม่กระทำ จะทำแต่ความดี ด้วยการ ทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิ เจริญปัญญา นำพาตนให้พ้นจากความทุกข์ จึงจะเรียกว่าเป็นชาวพุทธที่ดี
มาร เกิดจากเชื้อของ ความหลง ความรัก ความโลภ และความโกรธ ที่แฝงอยู่ในดวงจิตทั้งหลาย บุคคลที่จะทำชั่วได้ เพราะตกเป็นทาสของพญามาร ถ้าปรารถนาเป็นไท ต้องไม่ทำความชั่ว จึงจะพ้นจากอำนาจของพญามาร
ผู้ที่เป็นผู้นำ ต้องรู้แจ้ง ในที่สิ่งที่นำ เข้าใจถ่องแท้ ในสิ่งที่ทำ มีสติและปัญญา จึงจะนำพาให้ผู้อื่น ที่ปฏิบัติตาม ไปในทางที่ถูกต้อง เข้าถึงความสำเร็จ จึงจะเรียกว่าเป็นผู้นำที่ดี
… ตอนที่ ๑๐๗ อยู่คนเดียวกับอยู่กับครูบาอาจารย์
เมื่อเป็นผู้ปฏิบัติใหม่ในธรรมวินัย การที่มีครูอาจารย์ คอยบอกคอยสอน มีกฎกติกา มีกฎระเบียบตีกรอบไว้ เหมือนบ้าน ที่มีผนัง มีหลังคามุง กันแดดกันฝน คุ้มกันภัย จะทำให้ปฏิบัติธรรม สำเร็จได้ง่ายกว่าอยู่คนเดียว
… ตอนที่ ๑๐๘ ลังเลสงสัยในอาจารย์
ความลังเลสงสัย เกิดขึ้นได้ ไม่ผิดอะไร มีความศรัทธา แต่ให้ใช้ปัญญาด้วย ให้พิจารณา ว่าถ้าทำตามจะผิดหรือถูก แต่ไม่ต้องตัดสิน เปรียบเทียบเรากับครูอาจารย์ ถ้าเห็นว่าจะไม่ได้การ ให้หาครูอาจารย์ใหม่
ห่วงไปข้างหน้า ในสิ่งที่ยังไม่มาถึง ว้าวุ่นใจ ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว เขาคนนั้น จะเป็นยังไง เขาคนนี้ จะอยู่ได้ไหม ถ้าขาดฉันไปสักคน สับสนวุ่นวาย ห่วงหน้าพะวงหลัง ถ้ายังเป็นเช่นนั้น จงฝึกปล่อยวาง ทำใจให้ว่าง ทำจิตให้หยุดนิ่ง อยู่กับปัจจุบัน แล้วความทุกข์ทั้งหลาย จะสลายไป
… ตอนที่ ๑๑๐ คนใกล้ตัวมีกิเลสหนาตัณหาหนัก
คนที่อยู่ด้วยใกล้ชิด มีความคิด ความเห็นไม่ตรงกัน ฝักใฝ่ในความรัก โลภ โกรธ หลง มีความทะยานอยากไม่จบสิ้น ไม่รู้จักศีล ธรรม ต้องการจะช่วยเหลือเขาเหล่านั้น ให้ปฏิบัติที่ตนให้ดีก็พอ เมื่อดีแล้วค่อยแผ่ พลังบุญบารมีให้เขา บุญที่ส่งให้ จะเปลี่ยนเขา มาในทางที่ดีเอง
หากปรารถนา มีชีวิตที่ดี ต้องทำความดี ประพฤติตน อยู่ในกรอบความดี ศีลจะรักษา กรรมไม่ดีในอดีตส่งผลมา ก็จะทำอะไรเราไม่ได้ เมื่อชำระจิตใจ จนหมดจากกิเลส ตัณหา ชีวิตจึงจะพานพบแต่สิ่งที่ดี
การที่พระยาธรรมิกราช มาเปิดสภาวธรรมของโลกต่างๆ -- ตั้งแต่ก่อเกิดดวงจิตมานั้น
เพื่อที่จะทำให้ดวงจิตต่างๆ ได้เข้าใจ และรู้แจ้งถึงการเวียนว่ายตายเกิด ให้เห็นความที่มันไม่มีของใคร คือ จิตนั้น ก่อเกิดมาเอง เกิดมาแล้ว มันก็เป็นไปตามสภาวธรรมของธรรมชาติ กฎแห่งกรรม กฎของไตรลักษณ์ กฎแห่งความไม่เที่ยงแท้ ก็คือ สิ่งที่มันค่อยๆพัฒนา และเกิดขึ้นเอง โดยไม่มีใครคนใดคนหนึ่งสร้างให้มันเกิดขึ้นมา ความสุข ความทุกข์ การเวียนว่ายตายเกิด สวรรค์ บาดาล นรก โลกมนุษย์ และมิติต่างๆ ที่จิตต่างๆทั้งหลาย
เมื่อก่อเกิดขึ้นมาแล้ว ก็ไปอยู่ในจุดต่างๆ ตามการกระทำของตน เพื่อย่อโลก ย่อจักรวาล เพื่อเข้าใจ ในการประพฤติปฏิบัติ เพื่อเข้าถึงมรรคผล นิพพาน อย่างแท้จริง
… ตอนที่ ๑๑๓ สิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว
… ตอนที่ ๑๑๔ บุคคลที่เหมาะสำหรับการเผยแผ่ธรรม
บุคคลเช่นใด เหมาะสมที่จะเป็นผู้เผยแผ่ธรรม แทนองค์พระศาสดา บุคคลที่พระพุทธองค์ เลือกมาเช่นใด ก็เป็นเช่นนั้น เพราะสติปัญญาของพระองค์ คงจะมีเหตุผล ที่ซ่อนอยู่ในสิ่งที่ทำ