...ตอนที่ ๑๓๐ ติดอยู่ที่ผู้แสดงธรรม
การเผยแผ่ธรรมกึ่งพุทธศาสนา พระพุทธองค์ได้ให้พระยาธรรมิกราช มาอยู่ในกายสตรี เพื่อน้อมรับพระธรรมคำสอนไปเผยแผ่ ชี้ทางให้ดวงจิตทั้งหลายได้รู้ทาง แต่บางคนบางดวงจิต ก็รับไม่ได้เพราะติดอยู่ในอัตตา ในทิฐิที่มี จึงเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย
...ตอนที่ ๑๒๙ ยุคแห่งการมีพระอริยเจ้า
พระยาธรรมิกราชไปที่ไหน ก็จะเห็นผู้ที่สำเร็จเป็นอริยบุคคลขั้นต้นมากมาย จึงเกิดความสงสัย ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น จึงได้ทูลถามต่อพระพุทธองค์
...ตอนที่ ๑๒๗ กระแสคลื่นตัวโกง *****
(ตัวดีอยู่ในตัวชั่ว) ฝึกฝนในการละบาป บำเพ็ญบุญ จนพอมีต้นทุนของความดี แต่ยังมีคลื่นกระแสของต้านธรรม ต้านการทำความดี มีการเพ่งโทษผู้อื่นออกไป มันเกิดจากอะไร พระยาธรรมิกราชสงสัย จึงได้ทูลถามต่อพระพุทธองค์
...ตอนที่ ๑๒๘ ผ้าป่าอภิมหาเศรษฐี ๑๐๘ กอง
บุคคลผู้ปรารถนาพ้นทุกข์ หลุดออกจากวัฏสงสาร ต้องสั่งสมความดีสิบประการ ให้เต็มในทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขาบารมี ในวาระพิเศษวันวิสาขบูชาปีนี้ จึงขอเชิญญาติธรรมทั้งหลาย เติมเต็มความดี ร่วมสร้างมหาทานบารมี ผ้าป่าอภิมหาเศรษฐี ๑๐๘ กอง เพื่อน้อมถวายแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมทบทุนเปลี่ยนสีองค์พระใหญ่พระพุทธเจ้าศรีเชียงของเป็นทองคำ ใน วันที่ 18-19 พฤษภาคม 2562 ณ วัดพระพุทธเจ้าศรีเชียงของ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
...ตอนที่ ๑๒๖ รั้วไม้ไผ่
การทำรั้วไม้ไผ่ มีเหตุผลใด ที่ต้องเอาไม้ไผ่มาทำรั้ว มีสิ่งใดซ่อนอยู่ในเหตุที่ทำ พระยาธรรมิกราชได้ทูลถามต่อพระพุทธองค์
...ตอนที่ ๑๒๕ อานิสงส์การสร้างกำแพง
การสร้างกำแพงวัด ให้เป็นขอบเขตสร้างความดี ป้องกันสิ่งที่ไม่ดี ไม่ให้ล่วงล้ำกล้ำกราย จึงมีอานิสงส์ความดีมาก ให้ผู้ร่วมสร้างได้รับความปลอดภัย พ้นจากหมู่มารทั้งหลาย ที่จะมาล่อหลอกให้สร้างกรรมไม่ดี
...ตอนที่ ๑๒๒ มีสิ่งใดที่เที่ยงแท้ *****
โดยปกติแล้ว ดวงจิตทั้งหลาย ที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ล้วนแสวงหาสิ่งสมมุติ เช่น รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสทั้งหลาย ลุ่มหลงกับสิ่งสมมุติ ลืมไปว่าสิ่งใดเป็นของจริง เป็นสิ่งที่พุทธองค์ทรงแสดงธรรม ในคลิปนี้ (นำสมาธิ)
ดวงจิตที่เดินทางมา มีอัตตาที่แตกต่าง สั่งสมความดีมามากบ้างน้อยบ้าง ในรอบของการหมุนเวียนมา ควรพิจารณาให้เห็น เช่นบัวสี่เหล่า บอกได้บ้างสอนไม่ได้บ้าง ทุกอย่างเป็นธรรมดา(ควรสอนใคร)
...ตอนที่ ๑๒๔ สร้างกำแพงกั้นมาร
พระยาธรรมิกราช จะสร้างกำแพงวัด เพื่อเป็นขอบเขตรั้วกั้นความดี ไม่ให้สิ่งไม่ดี เข้ามาปนเปื้อน ครอบงำในจิตใจได้ เรื่องราวจะเป็นเช่นใด โปรดติดตามรับฟัง
...ตอนที่ ๑๒๑ การช่วยเหลือผู้อื่น
การช่วยเหลือใคร ให้ดูตนมีกำลังมากน้อยขนาดไหน ช่วยไปตามเหตุตามปัจจัย ช่วยไปโดยที่ตนไม่เดือดร้อน จึงจะเป็นการช่วยเหลือที่ถูกต้อง ไม่ทำให้เกิดทุกข์ขึ้นในภายหลัง
...ตอนที่ ๑๒๐ ทำดีมีสิ่งไม่ดีมากระทบ *****
พอทำความดี มักจะมีสิ่งนั้นสิ่งนี้ กระทบเข้ามาในชีวิต มันเป็นเพราะเหตุอันใด พระยาธรรมิกราชสงสัย จึงทูลถามต่อองค์พระพุทธบิดา(อานิสงส์ของบุญ เป็นที่ต้องการของทุกดวงจิต)(แผ่อานิสงส์ ผลบุญ)(ยึดดีถือดี)(ร่างกายคือมาร)(บุญ บาปคือมาร)(จิตยินดียินร้าย)
...ตอนที่ ๑๑๙ รู้จักคุณค่าของธรรม(สำเภาแก้ว สำเภาทอง) *****
การได้ยินได้ฟังคำสอน ของพระพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่มีค่ามาก ควรจะรู้คุณค่าในสิ่งที่ได้รับ และน้อมนำไปปฏิบัติ ให้เกิดผลดีแก่ตน พระยาธรรมิกราชได้ปรารภธรรมนี้กับพระพุทธองค์ (ศึกษาให้แจ้ง ในกรอบ 4 ย่างก้าวทางแห่งการหลุดพ้น)
...ตอนที่ ๑๑๘ สิ่งที่สำคัญที่สุด *****
สิ่งที่มีค่าต่อชีวิตมีอะไร ที่ดวงจิตทั้งหลาย ที่ยังเวียนว่ายตายเกิด อยู่ในวัฏสงสารควรแสวงหาที่สุด พระยาธรรมิกราชถาม พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้ตอบ เราทั้งหลายเป็นผู้ฟัง(นำสมาธิ)(แสวงหาทางพ้นทุกข์)(ปลดล็อคแห่งการคุมขัง)
...ตอนที่ ๑๑๗ จิตใสกายสวยทำให้โดนสอย
ดวงจิตที่มาปฏิบัติธรรม ทำให้จิตใสสว่างมีพลังคลุมกาย ทำให้เกิดความสวยดูงามขึ้นมา กิเลสตัณหาจึงต้องการที่ครอบครอง จึงเกิดการทดสอบกับเชื้อราคะ เหตุเป็นเช่นนี้ พระยาธรรมิกราชได้ตั้งคำถามขอฟังธรรมต่อพระพุทธองค์
...ตอนที่ ๑๑๖ แอบอ้างพระพุทธเจ้า
เมื่อพระยาธรรมิกราชได้น้อมธรรม ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปเผยแผ่ มีบางดวงจิตได้ห่วงใย ในธรรมที่เผยแผ่ออกไป ว่าทำไมต้องแอบอ้างพระพุทธเจ้า จึงคอมเมนต์ออกไป พระยาธรรมก็สงสาร บุคคลที่คิดดี หวังดี จึงทูลขอพระพุทธองค์ แสดงธรรมให้รู้เหตุ ตามความเป็นจริง
...ตอนที่ ๑๑๕ พระยาธรรมิกราชองค์จริง
พระยาธรรมิกราชต้องมีสิ่งใด ที่เป็นเหตุปัจจัย ให้เป็นพระยาธรรมิกราชได้อย่างแท้จริง พระยาธรรมิกราชได้ทูลถามแด่องค์พระพุทธบิดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้ดวงจิตทั้งหลายได้รู้ตาม
...ตอนที่ ๑๑๔ สิ่งพิสูจน์ความเป็นอรหันต์ *****
พระอรหันต์เป็นลักษณะเช่นใด มีสิ่งใดพิสูจน์ได้ถึงความเป็นอรหันต์ พระยาธรรมิกราชได้เข้าเฝ้า ทูลถามแก่พระพุทธองค์(ละสังโยชนฺ ๑๐ ประการให้ได้)
...ตอนที่ ๑๑๓ ทศพลญาณ *****
การตรัสรู้ธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะต้องมีญาณรู้สิบอย่าง ที่บุคคลทั่วไป ไม่สามารถมีได้ ซึ่งจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า เป็นพระพุทธเจ้าองค์จริง หรือองค์ปลอม
...ตอนที่ ๑๑๒ สายธรรมที่ไม่ใช่พุทธะ*****
การถอยห่างออกจากสำนักที่เราเคยศรัทธา ที่เรามองว่าไม่ใช่หนทางที่จะถึงความพ้นทุกข์ จะมีผลร้ายสิ่งใดให้เกิดกับชีวิตเราหรือไม่ พระยาธรรมิกราชได้ทูลถามต่อพระพุทธองค์(ลองและเรียนรู้ ตามรอบ ตามกำลังปัญญา)(เคารพนับถือบูชาสักแต่ว่า ไม่มีความยึดติดอยู่ในนั้น)(อารมณ์ของสักแต่ว่า)
...ตอนที่ ๑๑๑ พระพุทธเจ้าองค์ปลอม
บุคคลที่หลงเข้าไปศรัทธาในพระพุทธเจ้าองค์ปลอม จะมีผลเช่นใด ในเมื่อดับขันธ์ จะสามารถพบกับพระพุทธเจ้าองค์จริงได้หรือไม่ จะเกิดผลเช่นใด ขอพระพุทธองค์ ทรงไขข้อข้องใจ ให้พระยาธรรมิกราชได้รับฟัง
...ตอนที่ ๑๑๐ เห็นแล้วไม่ชอบหน้า
พึ่งได้พบหน้าเป็นครั้งแรก ยังไม่ได้พูด ไม่ได้ทำอะไรกันเลย แต่ไม่ชอบหน้า ไม่ชอบใจ มันเป็นเพราะเหตุผลอันใด พระยาธรรมิกราชสงสัย จึงทูลถามต่อพระพุทธองค์
การไปเรียนรู้ศึกษาธรรม ในสายธรรมสัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ ที่วัดพระพุทธเจ้าศรีเชียงของ เหตุใดจึงมีบางดวงจิตที่ต้องโดนเด้งออกไป พระยาธรรมิกราชสงสัย จึงทูลถามแก่พระพุทธองค์
...ตอนที่ ๑๐๙ อำนาจแห่งกามราคะ
กามราคะ ยากนักที่หยุดระงับได้ ถ้าบารมีไม่เต็ม สติปัญญาไม่แก่กล้าสามารถ ส่วนมากต้องตกเป็นทาสแห่งกาม พระยาธรรมิกราชได้เข้าเฝ้าต่อพระพุทธองค์ เพื่อรู้เหตุและผลที่เห็นและเป็นไป
...ตอนที่ ๑๓๑ บุคคลที่ควรแก่การสอนธรรม
บุคคลที่เรียนรู้ ศึกษาธรรมมีมากมาย แต่ควรจะแสดงธรรมโปรดผู้ใดที่สุด เป็นคำถามที่พระยาธรรม ทูลขอฟังธรรมจากพระพุทธองค์
การมีความรู้สึกกลัว เหตุเกิดมาจากอะไร จะต้องแก้ไขอย่างไร เป็นคำถามที่พระยาธรรม ได้ทูลถามต่อพระพุทธองค์
ดวงจิตที่ตั้งใจทำความดี กำลังถูกขัดขวางการสร้างบารมี จะต้องปฏิบัติตนอย่างไร ให้ผ่านบททดสอบ ฟังธรรมคลิปนี้ จะมองเห็นประโยชน์ของมาร(สรุป : 22.40)
...ตอนที่ ๑๓๔ ไม่หยุดทำความดี *****
จัดงานบุญนั้นแล้ว จัดต่องานนี้ เมื่อไหร่จะหยุดจัดงานซะที คนที่เดินตามก็เหนื่อย จะหยุดสร้างความดีได้เมื่อใด เป็นสิ่งที่พระยาธรรมทูลถามพระพุทธเจ้า เพื่อให้รู้ถึงเหตุที่ทำ ตามความเป็นจริง(คิดดี พูดดี ทำดี)
...ตอนที่ ๑๓๕ ทำดีขนาดไหนถึงจะเต็ม *****
มีสิ่งใดเป็นเครื่องวัดความดี ทำขนาดนั้นขนาดนี้ถึงจะเต็ม บางคนสร้างวัดวา ศาลาใหญ่โต บางคนรักษาศีล ภาวนา สิ่งใดที่บอกได้ว่าเป็นความดีที่เต็ม
...ตอนที่ ๑๓๖ อยู่เหนือทุกข์*****
การยึดติดในสิ่งใด ก็จะเป็นเหตุปัจจัย ให้เกิดความทุกข์ ยึดติดในความดีก็จะทุกข์ เพราะคนอื่นทำไม่ดี เมื่อยึดติดในสิ่งไม่ดี ทำในสิ่งไม่ดี ก็จะเกิดหนี้กรรมที่ต้องชดใช้ จึงเกิดความทุกข์อยู่ร่ำไป ถ้ายังไม่สลายความยึดติดและปล่อยวาง(สลายกระแสทุกข์)(สมมุติรูป สมมุตินาม)
...ตอนที่ ๑๓๗ ถอดถอนความทุกข์ *****
มีสิ่งกระทบเข้ามาผ่านหูตา จมูกลิ้นกายใจ ไม่ว่าจะผ่านมาทางใด มันติดอยู่ในความคิด สลัดออกไปไม่ได้ จึงกลายเป็นความทุกข์กายทุกข์ใจ จะมีวิธีการอย่างไร ที่จะถอดถอนความทุกข์(นำสมาธิ)(ทุกข์เพราะความคิด ความกังวล).(อารมณ์ของสักแต่ว่า)
ความฝันเกิดจากอะไร ถ้าฝันว่าละเมิดศีลไป จะทำให้อาบัติเป็นบาปไหม พระยาธรรมิกราชสงสัย จึงได้ทูลขอฟังธรรมจากพระพุทธองค์
...ตอนที่ ๑๓๙ บททดสอบจากคนใกล้ชิด*****
ผู้ปฏิบัติตนเพื่อหวังความหลุดพ้น แต่มีบุคคลที่เป็นญาติมิตร ที่อยู่ชิดใกล้ เกิดปัญหานั้นปัญหานี้มากมาย ต้องคอยช่วยเหลือคอยแก้ไข อย่างนี้เขาเรียกว่าเป็นมารหรือไม่ พระยาธรรมสงสัยจึงทูลถามต่อพระพุทธองค์(บุญสัมพันธ์ บาปสัมพันธฺ)
พระยาธรรมิกราชได้มองเห็นรูปกาย ของมารทั้งหลาย ที่เกิดขึ้นทั้งภายนอกและภายใน จึงมีความสงสัยในรูปกายของมาร จึงได้เข้าเฝ้าทูลถามต่อพระพุทธองค์
...ตอนที่ ๑๔๑ แต่ละวันของชีวิต
พระยาธรรมิกราชทูลถามพระพุทธองค์ ว่าต่อไปจะต้องเรียนรู้สิ่งใด พระพุทธองค์จึงบอกให้เรียนรู้ กับสิ่งที่เข้ามาในชีวิต ของแต่ละวัน รายละเอียดจะเป็นยังไง ขอเชิญท่านทั้งหลายติดตามฟัง
แม่อ้อยได้เข้ามาศึกษาปฏิบัติในสายธรรมที่พระยาธรรมนำมาเผยแผ่ จนสามารถยกจิต เข้าถึงความเป็นอริยบุคคล ขั้นที่ไม่ต้องกลับมาเวียนตายเวียนเกิดในโลกอีก ในวาระการครบรอบ การจากไปหนึ่งปี พระยาธรรมิกราช จึงได้ขอพลังพุทธบารมี สื่อสภาวธรรมชีวิตหลังความตายของแม่อ้อย ให้ผู้ที่ยังอยู่ในโลก ได้รู้ความเป็นจริง จะได้เร่งสร้างความดี หาทางออกจากวัฏสงสาร ให้ได้เช่นเดียวกัน
หนังสือพุทธธรรมสำหรับนักบวช เล่มที่ 1 เป็นคัมภีร์ธรรมในกึ่งพุทธกาล แนะนำให้ผู้ที่ปรารถนา หาทางพ้นทุกข์ ได้ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ ใกล้จะพิมพ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว พระยาธรรมิกราช จึงได้ทูลถามต่อพระพุทธองค์ว่า ควรจะแจกใครบ้าง
ชีวิต คือดวงจิตที่บริสุทธิ์ ว่างเปล่าไม่มีอะไร แต่สิ่งที่น้อมรับเข้ามา น้อมที่จะกระทำออกไป เกิดเป็นสิ่งที่ครอบงำดวงจิต ครอบงำชีวิต เกิดเป็นตัวเป็นตน เกิดเป็นผู้รับผลของกรรม ขึ้นอยู่กับผู้กระทำ จะเลือกรับสิ่งใด
...ตอนที่ ๑๔๕ เหตุที่จิตวิญญาณตาม*****
มูลเหตุของกรรม ไปทำสิ่งใดมา จึงทำให้มีจิตวิญญาณตาม พระยาธรรมิกราชสงสัย จึงทูลถามต่อพระพุทธองค์
...ตอนที่ ๑๔๖ พระธรรมมีแสงสว่าง*****
การรู้แจ้งในธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ทำให้ดวงจิตเกิดความรู้แจ้งในโลก ในจักรวาล ในวัฏสงสาร จึงไม่มีแสงสว่างใด จะเสมอแสงธรรมได้เลย
...ตอนที่ ๑๔๗ พุทธโอวาทวันวิสาขบูชา 2562
เนื่องด้วยวาระ วันวิสาขบูชาเวียนมาถึง พระยาธรรมิกราชจึงได้เข้าเฝ้า ขอฟังพุทธโอวาทจากพระศาสดา และน้อมนำมาเผยแผ่ เพื่อให้ดวงจิตทั้งหลายได้รับฟังกัน
...ตอนที่ ๑๔๘ อานิสงส์ผ้าป่าอภิมหาเศรษฐี*****
การทำบุญผ้าป่าสามัคคี เพื่อเปลี่ยนสีพระใหญ่เป็นทองคำ มีอานิสงส์ความดีความสุข เช่นใด พระยาธรรมิกราชจึงได้ ขอฟังธรรมจากพระพุทธองค์
...ตอนที่ ๑๔๙ ความไม่ดีที่เล็กน้อย
การที่ละกรรมชั่วใหญ่ได้ แต่ละกรรมชั่วเล็กน้อยยังไม่ได้ เกิดการสะสมกรรมชั่วเล็กน้อยร่ำไป ก็จะเกิดผลกรรมใหญ่ ให้ได้รับทุกข์มากมายได้เดียวเช่นกัน
ถ้าหากมีเรื่องบางอย่าง ที่ทำให้ทุกข์ใจ มีคลื่นกระแสความทุกข์ครอบงำเอาไว้ จะต้องทำยังไง ให้กระแสของมันสลายไป ให้เราออกจากความทุกข์
...ตอนที่ ๑๕๑ ครบรอบห้าปีที่เปิดสายธรรม
วันที่ 16 พฤษภาคม 2562 เป็นวันครบรอบห้าปี ของการเปิดสายธรรม สัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ โดยมีหลักสูตรค้นหาตัวตน ให้รู้ถึงความเป็นจริงของชีวิต ว่าเราเป็นใคร มาจากไหน เกิดมาทำอะไร ตายแล้วจะไปไหน จะได้ไม่ลังเลสงสัยในการทำดี ในหน้าที่แห่งตน จะได้หลุดพ้นจากความทุกข์
...ตอนที่ ๑๕๒ ยิ่งให้ยิ่งได้ความสุข
ทุกข์ทั้งหลายเกิดขึ้นมาได้เพราะมีเรา สลายเราได้หมดเมื่อใด ความทุกข์ย่อมหมดไป การให้จึงเป็นการฝึกปล่อยวาง จิตว่างได้มากเท่าไหร่ ย่อมความถึงความสุขมากเท่านั้น
...ตอนที่ ๑๕๓ สิ่งที่ทำให้ความดีไม่ดับสูญ
ความดีที่ทำไปแล้ว เกิดผลแห่งความดี มาค้ำหนุนดวงจิตให้เกิดสุขขึ้นมา แต่ท้ายที่สุดก็หมดไป ต้องสร้างต้องทำความดีใหม่ จะมีวิธีการใด ที่ทำความดีแล้ว จึงจะไม่หมดไป พระยาธรรมิกราชถาม พระพุทธองค์เป็นผู้ตอบ เราทั้งหลายเป็นผู้ฟัง
...ตอนที่ ๑๕๔ ความดีอันบริสุทธิ์
ทำความดีตามกำลังของตน ทำจากจิตที่สงบ ทำอย่างไม่ยึดติด ยึดถือ ปล่อยวาง ทำอย่างไม่ลังเลสงสัยในสิ่งที่ทำ ทำอยู่ในทางสายกลาง เป็นการทำความดีที่สมบูรณ์และบริสุทธิ์
...ตอนที่ ๑๕๕ จิตที่อยู่นอกกาย
ดวงจิตที่ถูกอำนาจของกายครอบงำ ให้เจ็บให้ป่วย ให้ปรุงแต่ง หวั่นไหวไปตามกิเลสตัณหา ให้ทุกข์ตามเหตุที่ร่างกายเป็นไป แต่เมื่อจิตแยกออกจากกาย จึงมีความสว่างไสว มีพลังพุทธบารมีมากมาย เหตุใดจึงมีสภาวธรรมเช่นนั้น พระยาธรรมิกราชสงสัย และได้ทูลถามต่อพระพุทธองค์
...ตอนที่ ๑๕๖ วิธีฝึกจิตไม่ให้ยึดติดในกาย
จิตที่ยึดติดกับรูปกายของตน รูปกายของบุคคลผู้อื่น จะมีวิธีใดที่จะทำให้จิตคลายความยึดติดในกาย ขอพระพุทธองค์ช่วยแก้ไข แสดงธรรมให้ได้รู้วิธี
...ตอนที่ ๑๕๗ ควรมีสติทุกการกระทำ
สติ คือการระลึกรู้ ระลึกรู้ว่าตอนนี้ กำลังคิดอะไร ระลึกรู้ว่าตอนนี้ กำลังพูดอะไร ระลึกรู้ว่าตอนนี้ กำลังทำอะไร ระลึกรู้ จึงเกิดความเข้าใจ มีสติและปัญญา ผู้ที่มีสติในการกระทำ จึงมักเป็นผู้ที่สร้างกรรมที่ดี เพราะเป็นผู้มีปัญญา
เมื่อพระยาธรรมิกราชได้ฟังธรรม จากพระพุทธองค์จบลง ก็จะชอบพูดคำว่า พอที่จะเข้าใจบ้างแล้วพระพุทธเจ้าข้า จึงมีญาติธรรมบางคนสงสัย ว่าทำไมถึงไม่บอกว่า เข้าใจไปเลย จึงเป็นเหตุให้ได้ยกขึ้นมา กล่าวธรรมในคลิปนี้
...ตอนที่ ๑๕๙ กล่าวอ้างพระพุทธเจ้า
ธรรมะที่เผยแผ่ก็ดี แต่มีข้อสงสัย ทำไมต้องแอบอ้างว่าเป็นพระพุทธเจ้า แอบอ้างว่าเป็นธรรมะที่พระพุทธองค์แสดง ไม่กล้วตกนรกหรืออย่างไร ทำไมไม่บอกว่าตนเองแสดงไปเลย กล่าวอ้างพระพุทธเจ้าทำไม
...ตอนที่ ๑๖๐ ปรารถนาออกจากกองไฟ
บุคคลที่รู้ว่าตนตกอยู่ในกองไฟ ปรารถนาที่จะออกไปจากความทุกข์ จะต้องทำฉันใด จึงจะทำให้พ้นจากความทุกข์ เป็นสิ่งที่พระยาธรรมิกราช ได้ทูลถามต่อพระพุทธองค์
ดวงจิตที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา นั่งเฝ้าภาวนาใต้ต้นโพธิ์ ตรงที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ ต่างประพฤติปฏิบัติตามที่ตนรู้และเข้าใจ ตึงไปบ้างหย่อนไปบ้าง เพื่อที่จะหาหนทาง ไปให้ถึงที่สุดแห่งความดี
จิตอยู่ตรงไหน มีสภาวธรรมเป็นอย่างไร จะทำความเข้าใจเรื่องของจิตได้อย่างไร ขอพระพุทธองค์ช่วยไขปัญหาคาใจ ให้ได้รับฟังกัน