ชีวิตของแม่ชีกชพร
พุทธธรรมคลายทุกข์ วันที่ 1 ตุลาคม 2559
ตอนที่ 4 **ชีวิตของแม่ชีกชพร**
+ +
ข้าพเจ้า ได้เข้าเฝ้านอบน้อมทูลถามต่อองค์พระพุทธบิดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงชีวิตของแม่ชีกชพร ผู้ที่แสดง
ธรรมให้ทุกคนฟังมาโดยตลอด ผู้ที่สื่อธรรมะผ่านพระยาธรรมิกราช เพราะข้าพเจ้าคิดว่า คงมีหลายคนที่ข้องใจกับชีวิต
ความเป็นมาเป็นไปของ แม่ชีกชพร และตัวของข้าพเจ้าเอง ผู้ที่เป็นพระยาธรรมิกราช สื่อธรรมะพระธรรมคำสอนในกาย
ของแม่ชีกชพร ก็สงสัยบางอย่างเกี่ยวกับชีวิตของแม่ชีเหมือนกัน
ฉะนั้น.. วันนี้ จึงจะขึ้นเข้าเฝ้าทูลถามถึงเรื่องราวของแม่ชีกชพร ได้นอบน้อมทูลถามพระองค์ท่าน ดังไปนี้ว่า...
" วันนี้ ลูกจะมาเข้าเฝ้าทูลถามเกี่ยวกับเรื่องราวของแม่ชีกชพร ผู้ที่ทำหน้าที่รับธรรมะมาเผยแผ่ ลูกจึงอยากถามว่า แม่ชี
กชพรเกิดมาในชาตินี้เพื่ออะไร เกิดมาทำไมต้องมีชีวิตที่ผ่านเรื่องราวเยอะแยะมากมาย และทำไมถึงสามารถสื่อธรรมะ
พระธรรมคำสอน จากพระพุทธองค์ได้ -- มันเป็นเรื่องจริง หรือเป็นไปได้หรือเปล่า ?
ซึ่งลูกก็แน่ใจ เข้าใจบางอย่าง.. แต่คนอื่นๆ บางคนเขาก็อาจจะยังลังเลสงสัยอยู่ จึงปรารถนาที่จะถามพระองค์ เจ้าค่ะ"
- - - -
พระยาธรรมเอ๋ย.. ในโลกใบนี้ กว้างใหญ่ยิ่งนัก มีหลายสิ่งหลายอย่าง เกิดขึ้นแตกต่างกันไป
ในภาคเหนือ ไม่เหมือนภาคใต้
ในทิศตะวันออก ไม่เหมือนทิศตะวันตก
ผู้คน ก็มีภาษา การพูดจา แตกต่างกันไป
ในทวีปต่างๆ ก็จะมีการดำรงชีวิตที่ต่างกันไป ทุกที่ ทุกแห่งหน มีผืนแผ่นดิน มีอากาศที่แตกต่างกันไป
ลูกเอ๋ย.. โลกใบนี้ มีอะไรเยอะแยะมากมาย ที่มีความแปลกแตกต่างจากกันมากมาย...
ฉะนั้น.. การที่บุคคลคนหนึ่ง จะเกิดขึ้นมาในโลกนี้ เพื่อทำหน้าที่สำคัญอะไรบางอย่าง เพราะถูกลิขิตกำเนิดให้เกิดมา จึง
เป็นเรื่องปรกติ
ลูกเอ๋ย..
บางคน อาจจะถนัด หรือเก่งไปในอีกเรื่องหนึ่ง อีกมุมหนึ่ง นั่นเพราะว่าเหตุที่เขาได้ทำเอาไว้
บางคนเกิดมาทุกข์ยากลำบาก เกิดเป็นลูกขอทาน - นั่นก็เพราะว่ากรรมที่เขาได้ทำไว้ ลิขิตมา
ส่วนแม่ชีผู้ที่ทำหน้าที่รับสื่อจากพระยาธรรมนั้น - ก็เป็นเพราะว่าถูกลิขิตมา เช่นเดียวกัน
เพียงแต่สาเหตุที่ถูกลิขิตมานั้น - แตกต่างกัน ++
คนอื่นๆที่เกิดมานั้น เพราะกรรมที่ดีและไม่ดี ลิขิตให้มาเกิด แต่ดวงจิต หรือแม่ชีกชพร ผู้ที่เกิดมาเป็นผู้ที่มีความสามารถ
หรือมีร่างกายที่เชื่อมต่อกับพระยาธรรมิกราชได้ รวมถึงสามารถรับสื่อธรรมคำสอน จากองค์พระพุทธเจ้าได้ -- นั่นก็เพราะ
ว่า ถูกลิขิตด้วยพลังพุทธบารมี ด้วยพลังอานิสงส์ผลบุญ ที่มีเหตุให้ก่อเกิดในยุคของกึ่งศาสนา
พระยาธรรมเอย.. โลกใบนั้น ที่เธออยู่ มีหลายสิ่ง และหลายอย่างที่เกิดขึ้น
บางอย่าง เราก็รู้จัก และเคยเห็น
บางอย่าง เราก็ไม่รู้จัก และไม่เคยเห็น
ทุกคน จะไม่มีใครเคยเห็นอย่างในโลก
บางสิ่งอาจดูแปลกๆ แต่เขาก็เกิดขึ้นจริงอยู่ในโลก -- เพราะเหตุที่เขาเกิดนั้น มาจากผลที่เขาทำ รวมถึง การเกิด -- ก็
เพราะเหตุมาจากการที่ถูกวางแผนเอาไว้แล้ว ด้วยอานิสงส์คุณงามความดี
-- และเป็นรอบของยุคกึ่งศาสนา ที่จะต้องนำธรรมคำสอนสั่งจากองค์พระพุทธเจ้า ไปเผยแผ่ **
พระยาธรรมเอ๋ย.. ฉะนั้น ลูกก็จงทำความเข้าใจ เช่นดังที่กล่าวมานี้
และจงระลึกรู้ไว้ว่า แม้แต่องค์พระพุทธเจ้า ก็ยังบังเกิดขึ้นในโลกนี้ ++
ถ้าเกิดว่า จะมีใครสักคนหนึ่งที่บังเกิดขึ้นมา และมีความสามารถที่สามารถเข้าเฝ้าต่อองค์พระพุทธเจ้าได้ / สามารถรับ
ธรรมสื่อผ่านพระยาธรรมิกราชได้ / สามารถที่จะมีดวงจิตอื่น คือ พระยาธรรมิกราช เชื่อมต่อมาสู่กายได้ สิ่งเหล่านี้ ก็เป็น
เรื่องที่ธรรมดา เพราะแม้กระทั่งองค์พระพุทธเจ้า- ก็ยังตรัสรู้ในโลก
แล้วเป็นเพียงคนที่สื่อธรรมมาเผยแผ่ ทำไมจะเกิดขึ้นในโลกไม่ได้ล่ะ.. ลูกเอ๋ย
+ +
พระยาธรรม :: แล้วการที่ร่างกายของแม่ชีกชพร สามารถเกิดความเป็นทิพย์ ได้ค่อนข้างสูงและชัดเจน เกิดจากอะไร
หรือเจ้าคะ - เพราะว่าถูกเปิดสภาวธรรม หรือว่าเพราะว่าสาเหตุอะไร และมีความเป็นไปได้สูง มากน้อยเพียงใด ทำไมถึงมี
ความเป็นทิพย์ที่ค่อนข้างละเอียด น่ะเจ้าค่ะ ?
พระยาธรรมเอ๋ย.. รถคันนี้ ถูกกำหนดลิขิตมาให้ต้องใช้งานในลักษณะนี้ กายนี้ถูกกำหนดมาแล้ว ว่าจะต้องเกิดมาเพื่อ
รองรับภาระหน้าที่นี้ จึงมีการสร้างขึ้นมาโดยพิเศษแตกต่างจากกายอื่นๆ จึงสามารถเปิดความเป็นทิพย์ได้ค่อนข้างสูง รวม
ถึงเมื่อถึงเวลา ถึงอายุขัยที่ร่างกายนี้ จะต้องนำมาใช้งานแล้ว - ก็มีการเปิดโลก เปิดจักรวาล เปิดวัฏสงสาร เปิดสภาวธรรม
ต่างๆ ให้ได้รู้ ได้เห็น ทำความเข้าใจอย่างชัดเจน…
ลูกเอ๋ย..
กายนี้ถูกลิขิตมาแล้ว เป็นข้อที่หนึ่ง
ข้อที่สอง คือ กายนี้ถูกชำระแล้ว
ข้อที่สาม คือ กายนี้ถูกเปิดโลก เปิดจักรวาล
เป็นกายที่มอบถวายแด่องค์พระพุทธเจ้า เพื่อทำกิจในการเผยแผ่ธรรม
-- เพื่อคนส่วนรวม ดวงจิตต่างๆทั้งหลาย จะได้ฟังธรรมจากองค์พระพุทธเจ้า ++
กายนี้ ก็เลยเหมือน กายโล่งๆ ว่างๆ ที่มีสภาวธรรมเข้าใจในทุกๆภพภูมิ ทุกๆสิ่งทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น ในการเวียนว่ายตาย
เกิด โดยมีกายที่ประคองเอาไว้ เพื่อที่จะทำงานรองรับสภาวธรรม จึงเป็นร่างกายที่แตกต่างจากคนอื่น มีความเป็นทิพย์ที่สูง
กว่า สามารถเข้าใจอะไรๆได้ง่ายมากกว่า เพราะว่ามีญาณบารมีของผู้ที่บำเพ็ญมามาก บำเพ็ญสูง หลายดวงจิตที่เฝ้าดูแล
และคอยมาเพื่อที่จะเปิดสภาวธรรมต่างๆ และกายก็สักแต่ว่า เป็นกายโล่งๆ
จิตก็ไม่มีอยู่แล้ว นอกจากจิตของผู้มีบารมีมาอยู่ เพื่อทำหน้าที่อะไรบางอย่าง
++
พระยาธรรม :: เพราะอย่างนั้น ก็เลยมีความเป็นทิพย์ที่ค่อนข้างชัดเจน เพราะว่าร่างกายก็เหลือก็เหลือแต่ร่างกาย ดวง
จิตไม่มีอยู่ในร่างกาย
กายนี้เหมือนกายของผู้ที่จะเอามาใช้ทำงาน ในสิ่งที่พระองค์ ได้วางระบบแผนการเผยแผ่ธรรมเอาไว้แล้ว
เช่น พระยาธรรม หนูนั่นแหละเจ้าค่ะ.. หนูจะมาใช้งานในการเผยแผ่ธรรม
แล้วก็พระพุทธองค์ ก็จะมาใช้งานในกายนี้ ให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ ตามภารกิจที่ท่านสั่งให้ทำ…
พระพุทธองค์เจ้าขา.. แล้วมนุษย์เขาจะสามารถอยู่ได้แบบนั้นจริงๆหรือเปล่าเจ้าคะ หมายถึง จิตที่ไม่อยู่ในร่าง หรือร่างที่
ไม่มีจิตน่ะ เจ้าค่ะ ?
พระยาธรรมเอย.. ก็เพราะว่าเป็นกรณีพิเศษไงลูก สร้างขึ้นมาเพื่อทำงาน ถูกติดตั้งระบบที่สามารถทำได้-- ก็เลยทำได้ ++
สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้.. ก็ล้วนแล้วแต่ถูกสร้างขึ้นมา จากผู้มีบุญ มีบารมี ทำให้เป็นไปเช่นนั้น เช่นนี้ คือ ตามกรรม
ของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นร่างกายที่ไม่มีแขน -- นั่นก็เพราะว่า กรรมเขาลิขิตมา
-- แต่ก็มีผู้มีบารมีดูแลร่างกายนั้น ให้ดวงจิตนั้นได้มาเกิด ++
ไม่ว่าจะเป็นคนที่เกิดมา มีรูปร่างหน้าตาสวยงามยิ่งนัก นั่นก็เป็นเพราะว่ากรรมดี / กรรมที่เขาได้ทำเอาไว้ ส่งผลมาให้เขา
เป็นเช่นนั้นไงลูก -- ก็เลยมีเทวดา มีผู้มีบารมี กำหนดให้ร่างกายนั้นแก่เขา…
ฉะนั้น.. ถ้าองค์พระพุทธเจ้า จะให้กายใดกายหนึ่งเกิดขึ้นมา เพื่อที่จะสื่อธรรมะได้ / เพื่อที่จะทำหน้าที่ และเพื่อที่จะให้กาย
นั้นว่างเปล่า ปราศจากดวงจิตใดๆ ที่ครองร่างกาย เพื่อเกิดความเป็นทิพย์ที่สูง และบุคคลที่อยู่ในกายนั้น ก็คือ ดวงจิตที่มา
จากความเป็นทิพย์ ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะลูก -- ย่อมเป็นไปได้อยู่แล้ว
และเป็นเรื่องธรรมดา -- เพราะร่างกายของคนเรานั้น ก็ไม่แตกต่างอะไรจากรถสักคันหนึ่ง ที่คนขับซื้อมา เพื่อไปทำกิจ
ธุระต่างๆ...
ดวงจิตของเราเกิดมาอยู่ในร่างกายต่างๆ ก็เพราะว่าจะใช้ร่างกายนี้ ประกอบกิจ ทำหน้าที่ของตน
ฉะนั้น.. กายนี้ถูกเปลี่ยนคนขับ ก็ยังคงอยู่ได้ เพราะกายยังไม่ดับ - มีพลังพุทธบารมีช่วยดูแลรักษา **
มีดวงจิตของผู้มีบารมี มาใช้กายนี้ ในการทำงาน ทำกิจหลายอย่าง "ที่ต้องเผยแผ่ธรรม"
ฉะนั้น.. ก็เป็นไปอยู่แล้วลูก ที่จะไม่มีจิตที่ครองกายอยู่ตลอด มีแต่จิตที่วนเข้ามาเพื่อทำงาน ++
+ +
พระยาธรรม :: แล้วทำไม ถึงสามารถใช้ชีวิตอยู่ เหมือนคนปรกติ ทั่วไปได้ล่ะเจ้าคะ ?
ทำไมถึงสามารถอยู่ กิน ดำรงชีวิต อะไรแบบนี้ น่ะเจ้าค่ะ
พระยาธรรมเอ๋ย.. กายก็ยังไม่ดับ จิตมีผู้มีบารมีก็อยู่ อยู่ก็ต้องทำให้เหมือนกับคนอื่น ไม่อย่างนั้นจะสามารถอยู่ในโลกนี้
ได้มั้ยล่ะลูก ก็จำเป็นที่จะต้องประคองกายนี้ ให้แนบเนียนเหมือนกันกับมนุษย์ทั่วไป...
... แต่ในความเหมือน - ก็ไม่เหมือนนี่ลูก ถ้าลองดูให้ชัดเจน ดูให้ดีๆ !
ลูกเอ๋ย.. สภาวธรรมต่างๆที่ให้เป็นไปอย่างนั้นอย่างนี้ -- ก็เป็นเพราะว่าจะได้เข้าใจมนุษย์ไงลูก.. ว่าเขาอยู่ยังไง
ทุกข์ยังไง หลงยังไง โลภยังไง โกรธยังไง - แล้วดับยังไง !
ก็เพื่อจะได้เรียนรู้ชีวิตกับจริงของมนุษย์ไงลูก - ก็เลยต้องมีสภาวธรรม ที่ไม่แตกต่างอะไรจากเขาเหล่านั้น
แต่ความแตกต่างที่มี ที่ซ่อนอยู่ ก็คือ...
- เป็นผู้ที่มีสติ รู้ตื่น พิจารณาในทุกอย่างอยู่เสมอ
- และสามารถเข้าใจสภาวธรรม ต่างๆ หลายสิ่งหลายอย่างได้ ที่แตกต่างจากคนอื่นทั่วไป
- สามารถมีหลายบุคลิก ในขณะที่มีกายเดียวกัน
- สามารถแสดงธรรมได้ ในทุกอย่าง ทุกระดับ
- สามารถเฝ้าองค์พระพุทธเจ้า เชื่อมต่อกับพระยาธรรมได้
- เข้าใจในโลกทิพย์ ในมุมต่างๆ กฎแห่งกรรม กฎของเกมส์ ทุกอย่างไงลูก
- สามารถทำงาน โดยที่ไม่ต้องคิดเอาไว้ก่อน ทำไป เดี๋ยวก็ปรากฏขึ้นมาเป็นงาน
ลูกเอ๋ย.. ก็มีความแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป ซ่อนอยู่ในความเหมือน
* สิ่งที่เหมือน ก็เพราะให้เรียนรู้
* สิ่งที่ไม่เหมือน ก็เพราะว่า มีความแตกต่างในการรับรู้ หรือหน้าที่ ไงลูก..
+ +
พระยาธรรม :: ถ้าอย่างนั้น แล้วทำไมถึงจะต้องให้เกิดมา แล้วก็ไปเรียนรู้เรื่องครอบครัว เรื่องพ่อแม่ พี่น้อง เรื่องเจ็บป่วย
สารพัดปัญหาล่ะเจ้าค่ะ ทั้งที่ให้เกิดมาเพื่อการเผยแผ่ธรรม เท่านั้นน่ะเจ้าค่ะ ?
พระยาธรรมเอย.. ก็เพราะว่าอย่างนั้นนั่นแหละ- ก็เลยให้เกิดมา เจอกับทุกสิ่งทุกอย่าง
เรียนรู้ว่า การที่มีภาระหน้าที่ จะต้องทำเช่นไร
ไม่ว่าจะเป็นภาระของพ่อแม่ พี่น้อง
ภาระที่มีครอบครัว การสูญเสีย ความเป็นแม่
... ก็จำเป็นไงลูก ที่จะต้องศึกษาเรียนรู้ "ทุกข์ของชาวโลกทั้งหลาย" --
// จะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้
// จะได้นำพาดวงจิตเหล่านั้นได้ ถ้าตนสามารถฟันฝ่าได้.. ลูกเอ๋ย
พระยาธรรม :: แล้วที่ร่างกายชอบเจ็บป่วยบ่อยๆ เป็นเพราะอะไรหรือเจ้าคะ ?
พระยาธรรมเอย.. เกิดมาเป็นคน ก็เจ็บ ก็ป่วยกันทั้งนั้นแหละลูก...
ทุกคน ก็จะมีการเจ็บ การป่วย เกิดขึ้นในชีวิต เป็นธรรมดา ++
ฉะนั้น.. ก็ต้องอยู่แบบคนธรรมดา ต้องเจ็บ ต้องป่วยเหมือนกันกับคนอื่นๆ
.. ศึกษาเรียนรู้ไปลูก !
สิ่งที่หลายที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตของลูกนั้น ล้วนแล้วแต่มีเหตุและผล // มีประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ในนั้น
ไม่ว่าจะมีแม่ เป็นคนแบบไหน หมายถึงแม่ผู้ให้กำเนิด
ไม่ว่าจะมีพ่อ มีญาติพี่น้อง มีลูก มีครอบครัว เป็นแบบไหน สิ่งเหล่านั้น.. ก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์แก่ลูกทั้งนั้น
พระยาธรรมเอย.. เพราะว่า จะต้องใช้กายนี้ กายที่สมมุติว่าชื่อ *แม่ชีกชพร* ประกอบกิจต่างๆ มากมาย ให้กับดวงจิตทั้ง
หลาย ให้ได้เข้าใจความหลุดพ้น จึงให้ศึกษาเรื่องราวต่างๆ อย่างละเอียดอ่อน
จงตั้งใจศึกษา เรียนรู้เถิดลูก..
การที่จะมาเป็นองค์พระพุทธเจ้าหนึ่งพระองค์ ที่สามารถตรัสรู้ได้นั้น --
** นั่นก็ต้องสั่งสมบารมีมามากมาย หลายภพชาติ จนนับไม่ถ้วน **
การที่ลูกเกิดมาเป็นพระยาธรรม หรือเป็นร่างกายที่พระยาธรรมต้องใช้งานเผยแผ่ธรรม ต้องเรียนรู้ ศึกษา เข้าใจทุกสิ่ง
อย่างละเอียดอ่อนเช่นเดียวกัน..
จงศึกษาไปเรื่อยๆเถิด อย่าคิดว่ามันมากไปเลย -- เพราะความเป็นจริงของชีวิต ยังมีอะไรอีกมากมาย ที่ลูกยังไม่เข้าใจ…
+ +
พระยาธรรม :: กราบขอบพระคุณพระพุทธองค์ ที่ได้โปรดเมตตาอธิบายสภาวธรรมของแม่ชีกชพร ให้ลูก และทุกคนที่
กำลังสงสัยอยู่ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้ หรืออยู่ไกล เขาเหล่านั้นได้เข้าใจสภาวธรรมของแม่ชีกชพรว่า ถูกลิขิต กำหนดมา ให้เกิดมา
เป็น "ร่างกายที่จะต้องให้พระยาธรรม หรือผู้มีบารมีมาใช้งาน"
จึงสามารถที่จะเปิดโลกทิพย์ หรือเข้าใจสภาวธรรมทางทิพย์ ได้อย่างละเอียด รวมถึงร่างกายนี้ ก็ไม่มีดวงจิตที่
ที่ครอบครอง -- นอกจากดวงจิตของผู้ที่มีบารมี จะมาใช้ในการประกอบกิจ ++
การที่อยู่ร่วมกับผู้คนได้เหมือนคนปรกติ นั่นก็เพราะว่าต้องศึกษา เรียนรู้ ทำความเข้าใจกับเรื่องของมนุษย์ และจึงอยู่กับ
ผู้คนทั่วไปได้.. ไม่แปลกแตกต่างไป
ลูกได้เข้าใจ และคนอื่นๆ ก็คงเข้าใจเช่นเดียวกันแล้ว เจ้าค่ะ
ส่วนการเรียนรู้ ยังมีอีกมากมาย สภาวธรรมต่างๆทั้งหลาย ก็เพื่อให้ได้เรียนรู้
ต่อจากนี้ไป.. ลูกก็จะตั้งใจทำหน้าที่ของตน เข้าใจสภาวธรรมของร่างกายนี้แล้วเจ้าค่ะ
แท้ที่จริง ร่างกายของคนเรา ก็เหมือนรถสักคันหนึ่ง ถ้าถูกสร้างขึ้นมา เพื่อทำกิจบางอย่าง -- ย่อมเป็นไปได้ ตามพลัง
บารมีของพระพุทธองค์ที่เมตตา เจ้าค่ะ
-- ต่อจากนี้ไป.. ขอให้ลูกทั้งหลาย ได้รับธรรมจากพระองค์ เพื่อที่จะพบแสงสว่าง รู้ / เข้าใจ ตามความเป็นจริงทุกอย่าง
เจ้าค่ะ --
สาธุ