ในกรณีที่ได้รับหมายจากศาลคดีแพ่ง ให้เราทำการตรวจสอบว่าเป็นหมายเกี่ยวกับอะไร
ถ้าเป็นหมายแจ้งให้ไปไกล่เกลี่ย เกี่ยวกับการชำระหนี้บัตรเครดิต ก็สมควรทำตามนั้น เพื่อไปเจรจาไกล่เกลี่ยตกลง ยอดหนี้ที่เราเป็นหนี้ หากเราไม่ไปตามหมายศาลที่เราได้รับแล้ว เราอาจต้องรับผิดในยอดหนี้บัตรเครดิตตามที่ถูกโจทก์ฟ้องมาเต็มจำนวน เป็นผลเสียกับตัวเราเอง เพราะตัวเลขยอดหนี้ที่แจ้งมาอย่างไรเราควรเข้าไปพูดคุยเจรจาต่อรองว่า อะไรมันมากเกินไปขอผ่อนขอลด หากถึงที่สุดแล้วเราไม่ไปเจรจาต่อรองหรือไม่ใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้ ท่านอาจถูกบังคับคดีได้ เช่นการถูกยึดทรัพย์ หรือการถูกอายัดเงินเดือน 30%
สำหรับในคดีแพ่งนั้นไม่มีโทษจำคุก ไม่เหมือนคดีอาญา ซึ่งมีโทษจำคุก
ส่วนมากคดีแพ่งมักจะเป็นคดีเกี่ยวกับเรื่องเงินทองหรือการชดใช้ค่าเสียหาย เช่นคดีละเมิดท่านไปทำ ทรัพย์สินของคนอื่นเสียหาย แบบนี้ก็จะฟ้องเป็นคดีแพ่งเพื่อให้ท่านชดใช้ค่าเสียหายบรรเทาความเดือดร้อนให้กับโจทก์ผู้เสียหายนั้น ต่างกับคดีอาญา เพราะคดีอาญามุ่งเน้นการเอาตัวผู้กระทำความผิดนั้นมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้
>>> ปรึกษากฎหมายฟรี
หาทนายสิครับ รอไรล่ะ ปรึกษาทนายก่อนเลย เพราะท่านต้องยื่นคำให้การภาย 15 วัน(รับหมาย) หรือ 30 วัน(กรณีปิดหมาย) [สำหรับคดีแพ่งสามัญ]
การที่จำเลยไม่ยื่นคำให้การ เป็นผลเสียหายมาก ฝากเตือนไว้
เมื่อได้รับหมายศาลคดี หรือถูกฟ้องคดีแพ่ง ก็จะต้องตรวจสอบดูว่าคดีนั้นขาดอายุความหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องทำการวิเคราะห์โดยทนายความที่มีความรู้เท่านั้น
โปรดอ่าน คดีแพ่งมีอายุความกี่ปี
การไม่ได้ไปตามหมายนัดไกล่เกลี่ยในคดีแพ่ง ต้องตรวจสอบดูว่าเป็นคดีแพ่งสามัญหรือ เป็นคดีแพ่งผู้บริโภค หรือเป็นคดีอื่น เช่น มโนสาเร่ หรือไม่มีข้อยุ่งยาก ผลที่เกิดขึ้นจากการไม่ไป ตามหมายนัดไกล่เกลี่ยย่อมแตกต่างกันออกไป อ่านเพิ่มเติม
ดังนั้นท่านจึงเตรียมตัวในเรื่องของรูปคดีเพียงอย่างเดียว เช่น เมื่อได้รับหมายเรียกในคดีแพ่งสามัญและสำเนาคำฟ้อง ให้ท่านดำเนินการดังนี้
1.อ่านสำเนาคำฟ้องโดยละเอียด ตามที่เขาฟ้องมา
2.มีประเด็นไหนบ้างที่ท่านจะต้องรับสารภาพ แต่ละประเด็นท่านจะรู้ข้อเท็จจริงเองว่าได้กระทำความผิดจริงหรือไม่
3.ประเด็นไหนที่ท่านจะปฏิเสธ เช่น ยอดหนี้ตามฟ้องอาจจะเยอะเกินไป เพราะท่านได้ชำระหนี้ ให้เจ้าหนี้ไปบ้างแล้ว ท่านเป็นคู่ความท่านจะรู้ดีมากกว่าทนายว่าได้ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ไปแล้วกี่บาท แต่บางครั้งการชำระหนี้อาจจะทำหลักฐานการชำระเงินหาย
4.รีบปรึกษากับทนายความ แต่งตั้งทนายความ เนื่องจากท่านต้องรีบยื่นคำให้การ ซึ่งในคดีแพ่งสามัญคำให้การเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
5.หากท่านยื่นคำให้การไม่ทัน ท่านจะเป็นจำเลยผู้ขาดนัดยื่นคำให้การ ซึ่งผลเสียหายจะตกกับตัวจำเลยคือท่านเอง เสียหายอย่างมากๆขอย้ำ
6.การที่ท่านจะปฏิเสธควรจะรู้ได้ว่าท่านต้องมีพยานหลักฐานอะไรบ้าง ไม่ใช่หลับหูหลับตาปฏิเสธโดยไม่มีพยานหลักฐาน อย่างนั้นเขาเรียกปฏิเสธลอย ซึ่งทำไปก็ไม่มีประโยชน์ดังนั้นการที่จะปฏิเสธอะไรควรคิดถึงตัวพยานหลักฐานอันดับแรกว่าเรามีหรือไม่
ต้องการคำแนะนำทางกฎหมายเมื่อมี หมายศาลคดีแพ่ง มาถึงท่านรีบปรึกษาทนายความที่ท่านไว้ใจ อย่าช้าและอย่ารอเวลาให้ผ่านไป เมื่อท่านไม่ไปตามหมายนัดของศาลผู้ที่เสียหายอย่างมากก็คือตัวจำเลยนั่นเองเพราะว่าท่านจะเสียสิทธิ์ต่างๆทางกฎหมายซึ่งเขาให้สิทธิ์แก่ท่านไว้