สำหรับท่านที่ต้องการปรึกษาคดีอาญานั้นแบ่งเป็น 2 อย่างคือท่านเป็นโจทก์ กับท่านเป็นจำเลย
กรณีที่ท่านเป็นโจทก์
ท่านเป็นโจทก์ในคดีอาญาข้อหาความผิดอะไร ที่จะทำการฟ้องเป็นคดีต่อจำเลยและอายุความขาดหรือยัง ท่านมีการแจ้งความไว้ต่อพนักงานสอบสวนหรือเปล่า
กรณีท่านเป็นจำเลย
เป็นการที่โจทก์ฟ้องตรงต่อศาลซึ่งศาลจะมีหมายนัดให้ท่านไปทำการไต่สวนมูลฟ้อง หรือแบบที่ 2 เป็นการที่ผู้เสียหายหรือโจทก์แจ้งความไว้ต่อพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง
สำหรับคดีอาญา ในกรณีที่โจทก์ฟ้องตรงต่อศาล ในวันที่ศาลนัดสอบคำให้การจะต้องมีการประกันตัวก่อนหรือในวันนัดสอบคำให้การด้วย
สำหรับกรณีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องเราจะต้องทำการประกันตัว ในวันที่อัยการส่งฟ้องศาลด้วย เป็นการประกันตัวในชั้นศาล
คดีอาญาแผ่นดิน ซึ่งเป็นความผิดอันไม่อาจยอมความได้
คดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวอันเป็นความผิดที่โจทก์กับจำเลยสามารถเจรจาตกลงยอมความกันได้
โจทก์แจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน จากนั้น ส่งสำนวน ไปยังอัยการและฟ้องต่อศาลต่อไป
โจทก์ฟ้องตรงต่อศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องว่าคดีมีมูลหรือไม่ถ้าคดีมีมูล ศาลประทับรับฟ้อง และเรียกจำเลย เข้ามายื่นคำให้การต่อไป
การดำเนินการฟ้องคดีอาญาหรือการแจ้งความคดีอาญาต้องอยู่ภายใต้อายุความ หากดำเนินการหลังจากอายุความสิ้นสุดลงศาลมีอำนาจ พิพากษายกฟ้องคดีได้เลยเนื่องจากอายุความในคดีอาญาเป็นปัญหาความสงบ เรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนศาลมีอำนาจยกขึ้นเองได้