เมื่อถูกฟ้องในบัตรเครดิต ซึ่งเป็นคดีแพ่ง ประเภทคดีผู้บริโภค เมื่อโจทก์ฟ้องคดี ศาลจะส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปให้กับจำเลย ณ ภูมิลำเนาของจำเลย
ในนัดแรกศาลจะทำการนัด ไกล่เกลี่ย/ให้การ/สืบพยาน ในนัดเดียวเลย จำเลยมีหน้าที่ดังนี้
1. กรณีเรื่องราวในคำฟ้องไม่ถูกต้องต้องทำคำให้การยื่นต่อศาล
2. เนื่องจากเป็นคดีผู้บริโภค สามารถยื่นคำให้การด้วยวาจาได้ โดยศาลจะจดบันทึกไว้
3. หากประสงค์เจรจาไกล่เกลี่ย กับเจ้าหนี้ก็ให้คุยกัน
4. กรณีมีพยานหลักฐานอะไรที่จะมาแย้งต้องเตรียมมาด้วย
คดีบัตรเครดิตโดยทั่วไปจะเป็นคดีผู้บริโภค โจทก์ต้องยื่นคำฟ้องต่อจำเลยที่ศาล ณ ภูมิลำเนาของจำเลย ซึ่งโดยทั่วไปบัตรเครดิตก็มีอยู่หลายประเภท เช่น บัตรกดเงินสด หรือเงินให้กู้ยืม โดยผ่อนชำระคืนเป็นงวด
1. หากข้อมูลตามฟ้องไม่ถูกต้อง เช่นยอดหนี้เกินจากที่เราเป็นหนี้จริง ศาลก็ต้องพิพากษาไปตามนั้นเพราะศาลไม่ได้รู้ว่าเราเป็นหนี้จริงกี่บาท เพราะว่าเราไม่ได้ไปแย้ง
2. เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว โจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาสามารถยึดอายัดทรัพย์จำเลยได้
1. อย่าใช้เงินเกินตัว
2. เป็นหนี้เท่าที่จำเป็น
3. ตรวจสอบสถานะการเงินของตนเองดีๆและตลอดเวลา
คดีบัตรเครดิตเป็นคดีผู้บริโภค โดยปกติคดีบัตรเครดิตมีอายุความ 2 ปี แต่ต้องดูด้วยว่าบัตรเครดิตเป็นบัตรประเภทใด บางครั้งเป็นบัตรกดเงินสดอายุความก็จะแตกต่างกันออกไป
รวมถึงเงื่อนไขการชำระเงิน ชำระเงินคืนเป็นงวดขั้นต่ำ หรือชำระเงินเงินเป็นงวดๆ อายุความไม่เท่ากัน ดููเพิ่ม อายุความคดีแพ่ง
นิติลอว์ทีม ให้คำปรึกษาเรื่องคดีบัตรเครดิต ติดต่อหาเราได้เลย