ใครที่มีประสบการณ์โดนฟ้องศาลเรื่องรถยนต์ หรือขึ้นศาลเรื่องรถแล้วไม่มีรถคืน ไม่ใช่เรื่องสนุกเพราะว่าเป็นสิ่งที่ท่านจะต้องรับผิดชอบ รถยนต์เป็นเหมือนปัจจัยที่ 5 ที่มีความสำคัญต่อชีวิตท่านที่ขาดมันไม่ได้ หากโดนฟ้องเรื่องรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์และขึ้นศาลเรื่องรถยนต์ สาเหตุเกิดจากการที่ท่านผ่อนค่างวดรถไม่ตรงตามเวลา เช่น ติดค้างค่างวดรถหลายงวด ซึ่งเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอนไฟแนนซ์ก็จะต้องมาตามเอากับท่าน หากเกิดปัญหาเหล่านี้ ท่านโทรมาสอบถามเราเบื้องต้นได้
กรณีการเช่าซื้อรถยนต์มาแล้วจะนัดผ่อนชำระเป็นรายเดือนยามที่ท่านมีรายได้แน่นอนก็ไม่มีปัญหา แต่เมื่อไหร่ที่รายได้ท่านขาดตอน ท่านก็จะผ่อนชำระรถยนต์ไม่ตรงตามเวลา ซึ่งมีปัญหาตามมาแน่เพราะบริษัทที่ให้เช่าซื้อก็จะติดตามทวงถามเอากับท่าน และหากท่านผ่อนชำระไม่ตรงเวลาหรือขาดการผ่อนชำระ 3 หรือ 4 งวดขึ้นไป มีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน ดังนั้นเราจึงมีคำแนะนำเบื้องต้นดังนี้คือ
1.รถยนต์ไม่ต้องซื้อราคาแพงมากหรือถ้ามีความรู้ก็ซื้อรถมือสองไปเลยจ่ายเงินดาวน์เยอะๆจะได้ผ่อนน้อย
2.รุ่นรถบางรุ่นไม่จำเป็นที่จะต้องรุ่นท็อป เพราะมันไม่ได้มีความแตกต่างอะไรกันมากส่วนมากเป็น Option จุกจิก
3.ประเมินรายได้ให้ดีรายจ่ายการผ่อนรถอย่าสูงมากเผื่อความไม่แน่นอนไว้เยอะๆ
4. ถ้ามีเงินมากพอพยายามซื้อลดเงินสด โดยซื้อรถที่ในราคาไม่แพงดีกว่าอย่างน้อยที่สุดท่านก็มีรถใช้
ขอขอบคุณ สำหรับการติดตามเราที่ : https://www.facebook.com/nitilawlawyer
ออกรถยนต์มาแล้วหรือออกรถจักรยานยนต์มาแล้วต่อมามีปัญหาการงานสะดุดอย่างน้อยที่สุดถ้าท่านมีเงินสำรองในกระเป๋าช่วงที่สะดุดท่านก็พอที่จะผ่อนรถต่อไปได้และช่วงนี้ถ้าไม่อยากเสียหายมากให้ทำการขายรถของท่านเสียในเว็บหรือที่มีการซื้อขายกันอย่าพยายามขายกับพ่อค้าหรือเต็นท์รถเพราะจะได้ราคาต่ำอันหนึ่งแล้วในการขายรถย่อมใช้เวลาพอสมควรหากท่านมีเงินสำรองจะทำให้ท่านมีเวลาหายใจได้อย่างน้อยการขายรถก็ใช้เวลาสักประมาณ 2 เดือนเพราะผู้ซื้อบางท่านจะต้องทำเรื่องไฟแนนซ์อีกซึ่งมันเสียเวลาพอสมควร
แต่หากไม่ไหวจริงๆก็จำจำเป็นที่จะต้องนำรถไปคืนไฟแนนซ์แต่ปัญหาต่อไปคือ ท่านจะไม่มีรถใช้งานอันนั้นต้องแก้ไขอาจจะเปลี่ยนรถที่มีขนาดเล็กลงซึ่งแต่ละท่านก็มีปัญหาแตกต่างกันออกไป
บริษัทผู้ให้เช่าซื้อรถยนต์สามารถเรียกร้องได้ดังต่อไปนี้คือ
1.ขอให้ท่านคือรถยนต์
2.ขอให้ท่านชำระค่าเช่าซื้อที่ยังค้างชำระ
3.เรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์รวมถึงดอกเบี้ยหรือค่าทวงถามต่างๆ
จะเห็นว่าเมื่อท่านเป็นลูกหนี้ท่านจะถูกฟ้องแล้วเรียกค่าใช้จ่ายหยุมหยิมยิบย่อยต่างๆมากมาย ซึ่งทางที่ดีอย่าโดนฟ้องคดีดีที่สุด
เมื่อถูกฟ้องเรื่องรถยนต์หรือขึ้นศาลเรื่องรถในท้ายคำฟ้องของโจทก์ถ้าหากเรายังไม่ได้คืนรถโจทก์จะขอให้จำเลยคืนรถยนต์คันดังกล่าว หากจำเลยไม่สามารถคืนได้ก็ให้ใช้ราคาแทน แน่นอนตรงนี้มีการคิดดอกเบี้ยตามขั้นตอนของกฎหมายดังนั้นค่าใช้จ่ายของท่านจะเพิ่มขึ้นมาอีกแน่
แต่หากมีการคืนรถหรือบริษัทไฟแนนซ์มายึดรถและนำรถของเราไปขายทอดตลาดซึ่งราคารถยนต์ในการขายทอดตลาดจะมีราคาไม่ดีเท่าไรเมื่อมีส่วนต่างท่านก็จะต้องรับผิดชอบในส่วนต่างนี้อีกด้วย
ปัจจุบันนี้รถยนต์มีการถูกยึดเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีรถยนต์มือสองในท้องตลาดมากมายในเมื่อมีแต่ Supply คือสินค้าแต่ผู้ซื้อไม่ได้เยอะมาก เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ดังนั้นราคารถยนต์จึงมีราคาค่อนข้างถูก ยิ่งรถยนต์ที่ไม่ใช่ยี่ห้อแบรนด์ตลาด หรือลูกค้าไม่เล่นกัน จะได้ราคาต่ำมาก จึงอยากบอกท่านว่าหากซื้อรถมาใช้แล้วแค่ปีสองปีแล้วถูกยึดจะไม่คุ้มอย่างมาก ถ้าแบบนั้นไปเช่ารถใช้เสียจะดีกว่าเป็นครั้งคราวไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูสถานการณ์ของแต่ละคนด้วยว่า มีความจำเป็นแค่ไหนอย่างไร ตัวท่านเท่านั้นที่จะเป็นผู้ให้คำตอบได้
การเช่ารถยนต์รายเดือนอย่างน้อยก็จะทำให้ท่านมีค่าใช้จ่ายที่แน่นอนเดือนไหนไม่ต้องการเช่ารถยนต์ก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเหมาะกับท่านที่ไม่ได้เดินทางหรือใช้รถยนต์ตลอดเวลาหรือบางท่านอาจจะใช้รถยนต์แค่เดือนละไม่กี่ครั้งแบบนี้ก็พอจะช่วยลดค่าใช้จ่ายท่านได้
รถยนต์กรณีท่านค้างค่าผ่อนชำระกับไฟแนนซ์ ท่านสามารถที่จะมาทำเรื่องผ่อนชำระกับไฟแนนซ์ในศาลได้ โดยทำเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความสำหรับในคดีแพ่งซึ่งจะทำให้ท่านผ่อนชำระเป็นรายเดือนได้แต่ต้องดูด้วยว่าบริษัทไฟแนนซ์ยอมตามที่ท่านร้องขอไปหรือเปล่าต้องพูดคุยกันดู
ส่วนใหญ่ปัญหาที่เกิดก็คือบริษัทไฟแนนซ์ต้องการเรียกร้องเงินจำนวนสูง แต่ท่านไม่มีเงินผ่อนชำระหรือไฟแนนซ์ต้องการเงินก้อน แต่ท่านไม่มีเงินก้อนไปปิดให้ไฟแนนซ์
สอบถาม
ค่าจ้างทนายคดีแพ่ง