ภาคใต้ เป็นภูมิภาคหนึ่งของไทย ตั้งอยู่บนคาบสมุทรมลายู ขนาบด้วยอ่าวไทยทางฝั่งตะวันออก และทะเลอันดามันทางฝั่งตะวันตก มีเนื้อที่รวม 70,715.2 ตารางกิโลเมตร ความยาวจากเหนือจดใต้ประมาณ 750 กิโลเมตร ทุกจังหวัดของภาคมีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล ยกเว้นจังหวัดยะลาและจังหวัดพัทลุง
(ภาพจากhttp://travel.edtguide.com/guide/) (ภาพจาก http://osl101.ldd.go.th/soilgr_man/south/gen_south.htm) (ภาพจาก https://th.wikipedia.org/wiki/ภาคใต้)
ดูแผนที่ภาคใต้
https://www.google.co.th/maps/@7.6138261,98.3501214,807641m/data=!3m1!1e3
สภาพทั่วไปและอาณาเขต
ภาคใต้ ตั้งอยู่ระหว่างละติจูดที่ 5 ถึง 12 องศาเหนือ และลองติจูดที่ 98 ถึง 103 องศาตะวันออก ประกอบด้วย 14 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง ภูเก็ต สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
มีเนื้อที่รวม 44,196,992 ไร่ หรือ 70,715.187 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 13.78 ของเนื้อที่ทั้งประเทศ
อาณาเขตด้านทิศเหนือจดอำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้านทิศใต้จดประเทศมาเลเซีย ด้านทิศตะวันออกจดอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ ด้านทิศตะวันตกจดทะเลอันดามันและสาธารณรัฐสังคมนิยมแห่งสหภาพพม่า
สภาพภูมิประเทศ
ความสัมพันธ์ภูมิลักษณ์กับประชากร
ภาคใต้มีพรมแดนติดต่อกับประเทศพม่า และมาเลเซีย ติดกับทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก มีทรัพยากรมากมาย ทั้งแร่ประเภทต่างๆ ป่าไม้ ชายหาดและหมู่เกาะที่สวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมติดอันดับโลกมากมาย ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ปลูกยางพารา ทำงานในเหมืองแร่ ทำงานบริการด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น
ภาคใต้มีทั้งหมด 14 จังหวัด (จากเหนือไปถึงใต้สุด) ได้แก่ จังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต กระบี่ พัทลุง สงขลา ตรัง ปัตตานี สตูล นราธิวาส และยะลา
10 เกาะในภาคใต้ ที่น่าไปสัมผัส
เป็นคาบสมุทรขนาบด้วยทะเลสองด้าน ด้านตะวันตกคือทะเลอันดามัน ด้านตะวันออก คืออ่าวไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลจีนใต้ ทางตอนบนของภาคมีทิวเขาตะนาวศรีซึ่งวางตัวในแนวเหนือ-ใต้ต่อเนื่องมาจากภาคเหนือและภาคกลาง เป็นแนวกั้นพรมแดนกับประเทศพม่า ทางตอนล่างของภาคมีทิวเขาภูเก็ตและทิวเขานครศรีธรรมราชวางตัวในแนวเหนือ-ใต้ แบ่งภาคนี้ออกเป็นสองส่วน คือ ที่ราบชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกติดกับอ่าวไทย ซึ่งมีอาณาเขตกว้างขวาง และที่ราบด้านตะวันตกขนานกับชายฝั่งทะเลอันดามัน และช่องแคบมะละกาซึ่งเป็นบริเวณแคบกว่าที่ราบด้านตะวันออก ทางทิศใต้ของภาคมีทิวเขาสันกาลาคีรีเป็นแนวกั้นพรมแดนกับประเทศมาเลเซีย
ลักษณะภูมิประเทศด้านด้านตะวันออกและตะวันตกมีความแตกต่างกัน
1. พื้นที่ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก เกิดการยกตัวของแผ่นดิน (emerged shore line) ทำให้เกิดเป็นพื้นที่ราบเรียบ หาดทราย เนินทราย หรือสันทรายชายทะเล ชายฝั่งทะเลตื้นที่เป็นตะกอนดินเลนหรือตะกอนทราย อ่าวสำคัญอยู่เพียง 2–3 แห่ง คือ อ่าวสวี อ่าวบ้านดอน และอ่าวนครศรีธรรมราช แต่มีชายหาดยาวมากมายหลายแห่ง เช่น ชายหาดทางจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ที่ราบชายฝั่งตะวันออกมีความกว้างประมาณ 5 – 35 กิโลเมตร แม่น้ำที่ไหลเป็นสายสั้น ๆ มีกำเนิดมาจากทิวเขาตอนกลาง เช่น แม่น้ำหลังสวน แม่น้ำตาปี แม่น้ำปัตตานี เป็นต้น เกาะสำคัญทางภาคตะวันออก คือ เกาะสมุย และเกาะพงัน โดยเฉพาะเกาะสมุยเป็นแหล่งผลิตมะพร้าวเด่นที่สุดของภาคใต้ เนื่องจากชายฝั่งด้านนี้มีที่ราบกว้างขวางกว่าฝั่งตะวันตก ประชากรจึงทำอาชีพทางการเกษตร ปลูกข้าวเจ้า ทำสวนผลไม้ สวนยางพารา มะพร้าว และการประมง
2. พื้นที่ชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกเกิดการจมตัวของแผ่นดิน (submerged shore line) ทำให้ชายฝั่งทะเลมีลักษณะเว้าๆ แหว่งๆ มีอ่าวและเกาะแก่งมากมายที่เกิดจากแผ่นดินจมลงไปในทะเล ชายฝั่งทะเลลึก หรือเกิดหน้าผาชันบริเวณแผ่นดินที่เป็นพื้นที่ภูเขาและจมลงไปในทะเล มีหาดทรายน้อย และที่ราบชายฝั่งมักจะเป็นที่ราบแคบ ๆ มีป่าโกงกางขึ้นอยู่ทั่วไป เศรษฐกิจของประชากรทางชายฝั่งนี้ขึ้นอยู่กับการทำเหมืองแร่เป็นสำคัญ โดยเฉพาะแร่ดีบุกและวุลแฟรม และการทำประมงในทะเลอันดามัน
(ข้อมูลจาก http://osl101.ldd.go.th/soilgr_man/south/gen_south.htm)
สภาพภูมิอากาศ
ตามการแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิปเปน ลักษณะภูมิอากาศของภาคใต้ เป็นเขต ภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน (Am) นอกจากนี้ ภาคใต้เป็นพื้นที่ซึ่งมีฝนมากที่สุดของประเทศไทย เนื่องจากได้รับอิทธิพลของลมมรสุม 3 ทิศทาง ได้แก่
1. ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดพาเอาไอน้ำและความชื้นจากมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามันเข้ามายังแผ่นดิน ในช่วงเดือนพฤษภาคม-เดือนกันยายน ทำให้เริ่มมีฝนตกชุกทางแถบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกก่อนชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก
2. ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพัดพาเอาไอน้ำและความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามายังแผ่นดินในช่วงเดือนตุลาคม-เดือนมกราคม ทำให้เริ่มมีฝนตกชุกทางแถบชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกก่อนชายฝั่งทะเลด้านตะวันตก
3. ลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ จะพัดพาเอาไอน้ำ ความชื้นและความร้อนจากเส้นศูนย์สูตรผ่านอ่าวไทย เข้ามายังแผ่นดินในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เดือนเมษายน ทำให้มีอุณหภูมิสูงและมีฝนตกกระจัดกระจายเป็นบางครั้ง
จากอิทธิพลของลมมรสุมทั้ง 3 ทิศทาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกและกระจายสม่ำเสมอเกือบตลอดทั้งปีตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมกราคม และอาจมีฝนตกบ้างในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนและมีอุณหภูมิสูงขึ้นในช่วงนี้
(ข้อมูล http://osl101.ldd.go.th/soilgr_man/south/gen_south.htm)
คำขวัญประจำจังหวัดภาคใต้
คำขวัญประจำจังหวัดบ่งชี้ถึงภูมิลักษณ์และอัตลักษณ์ วิถีชีวิตของประชากรในแต่ละจังหวัดได้เป็นอย่างดี จังหวัดในภาคใต้ มีคำชวัญประจำจังหวัด ดังนี้
คำขวัญประจำจังหวัด
https://th.wikipedia.org/wiki/คำขวัญประจำจังหวัด
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับภาคใต้
ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมกับประชากรในภาคใต้ : ปัญหาและผลกระทบ ปั
ๅ 1. ปัญหาเกี่ยวกับดิน เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาและที่สูงเป็นแกนกลางของภูมิภาค และยังมีฝนตกชุก ซึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิด การพังทลายของดิน ได้โดยง่าย ถ้าหากป่าไม้ถูกทำลาย เพาะปลูกพืชที่ผิดวิธี และมีการทำเหมืองแร่ที่ปราศจากการควบคุม ซึ่งในปัจจุบันนี้ปัญหาเกี่ยวกับการใช้ที่ดินในภาคใต้ จะเป็นเรื่องของการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อเพาะปลูกยางรา และปาล์มน้ำมัน ที่เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคใต้ รวมถึงการบุกรุกเพื่อทำนากุ้ง เหล่านี้เป็นปัญหาที่ทำให้ที่ดินในภาคใต้เกิดความเสื่อมโทรมและถูกทำลาย
2. ปัญหาเกี่ยวกับน้ำ ภาคใต้มีฝนตกชุกและมีฝนตกเกือบทุกเดือน จึงมีปัญหา เรื่องน้ำท่วมหรืออุทกภัยเกิดขึ้นทุกปี นอกจากนี้ยังมีปัญเกี่ยวกับเรื่องมลพิษทางน้ำ และปัญหาน้ำทะเลรุกล้ำเข้าแม่น้ำ ลำคลอง ก่อให้เกิดปัญหาทั้งในด้านอุปโภคและบริโภคของประชาชน
3. ปัญหาเกี่ยวกับป่าไม้ ภาคใต้เป็นภาคที่มีป่าชายเลนมากกว่าภาคอื่นๆ ซึ่งป่าชายเลนนี้มีประโยชน์ต่อประชากรในพื้นที่ ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและเพาะพันธุ์ของสัตว์น้ำ ในปัจจุบันป่าชายเลนได้ถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความเสียหายทางด้านนิเวศวิทยาของสัตว์น้ำ ย่อมมีผลเสียทั้งในปัจจุบันและอนาคต
4. ปัญหามลพิษทางอากาศ ในช่วง 2 - 3 ปีผ่านมานี้ ภาคใต้จะประสบกับปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดจากหมอกควันปกคลุมเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะพื้นภาคใต้ตอนล่าง หมอกควันนี้เกิดจากการเผ่าป่าในประเทศเพื่อนบ้านทั้งอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ทำให้เกิดปัญหาทั้งต่อสุขภาพของประชาชน เกิดปัญหากับการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจะไม่เข้ามาเที่ยวในช่วงที่เกิดปัญหาดังกล่าว รวมถึงปัญหาด้านการคมนาคมขนส่งทางอากาศด้วย
ข่าวสถานการณ์หมอกควันในภาคใต้
http://www.krobkruakao.com/ข่าวอากาศ-สิ่งแวดล้อม/142529/สถานการณ์หมอกควันภาคใต้.html