สาระสำคัญ
โปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft word) เป็นโปรแกรมที่เหมาะสำหรับนำเสนอข้อมูลสารสนเทศในรูปเอกสาร รายงาน บันทึกข้อความ หรือเอกสารสำนักงานต่าง ๆ นิยมใช้ในการประกอบอาชีพหรือใช้ในสำนักงานเป็นส่วนใหญ่ จึงถือว่าเป็นโปรแกรมสำเร็จรูปเบื้องต้นที่ทุกคนจะต้องใช้และศึกษา
1.การใช้งานโปรแกรมประมวลผลคำ
การเข้าสู้โปรแกรม Microsoft word มีวิธีการปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้
คลิกที่ Start > Programs > Microsoft Office > Microsoft Word 2010 ดังภาพ
2. จะเปิดหน้าต่างโปรแกรม Microsoft Word 2010 ดังภาพ
ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft word 2010
1. แถบแสดงชื่อเรื่อง (Title Bar) = แสดงชื่อของโปรแกรมและชื่อเอกสารที่กำลังใช้งานอยู่
2. แถบเครื่องมือด่วน (Quick Access) = เป็นส่วนที่ใช้แสดงคำสั่งที่ใช้งานบ่อย
3. ปุ่ม แฟ้ม (File) = เป็นส่วนที่ทำหน้าที่จัดเก็บคำสั่งที่ใช้ในการทำงานเอกสาร
4. ปุ่มควบคุม (Control Button) = เป็นส่วนที่ใช้ควบคุมการเปิด หรือปิดหน้าต่างโปรแกรม
5. ริบบอน (Ribbon) = เป็นส่วนที่ใช้แสดงรายการคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำงานกับเอกสาร
6. แถบเลื่อน (Scroll Bar) = ใช้สำหรับเลื่อนดูหน้าเอกสารที่ไม่สามารถแสดงได้ในหน้าเดียว
ซึ่งสามารถเลื่อนได้ทั้งบน ล่าง ซ้าย ขวา
7. แถบแสดงสถานะ (Status Bar) = แสดงสถานะการทำงาน เช่น จำนวนหน้า
8. ไม้บรรทัด (Ruler) = แสดงความกว้างยาวของกระดาษ ตั้งแท็บ ย่อหน้า ตั้งค่ากระดาษ
9. ย่อ/ขยาย (Zoom in/out) = ใช้สำหรับย่อ และขยายหน้าเอกสาร
10. ตำแหน่งการพิมพ์ (Insertion Point) = แสดงตำแหน่งเริ่มต้นในการพิมพ์ข้อความ
11. ปุ่มมุมมอง (View Button) = ในสำหรับมองเอกสารในรูปแบบต่างๆ
12. พื้นที่สำหรับการพิมพ์ (Text Area) = เป็นส่วนที่ใช้ในการพิมพ์และแสดงข้อความ
แถบเครื่องมือต่าง ๆ (Tool Bar)
- Home (หน้าแรก)
- Insert (แทรก)
- Page Layout (เค้าโครงหน้ากระดาษ)
- References (อ้างอิง)
- Mailings (จดหมายเวียน)
- Review
ตัวเลือกการกำหนดค่าในโปรแกรม Microsoft Word 2010
ตัวเลือกของโปรแกรม Microsoft Word เป็นส่วนสำคัญของโปรแกรมที่จะปรับปรุงแก้ไขหน้าจอให้สะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
2. การสร้างงานด้วยโปรแกรมประมวลผลคำ
การตั้งค่าหน้ากระดาษ (Page Setup)
- คลิ๊กเลือกแท็บเมนู เลือก เค้าโครงหน้ากระดาษ (Page Layout)
- เลือก แนวตั้ง หรือแนวนอน
การกำหนดกั้นระยะ( tab)
รูปแบบการกั้นระยะมี 4 แบบ คือ
1 left tab กั้นระยะชิดซ้าย
2 center tap กั้นระยะกลาง
3 right tab กั้นระยะชิดขวา
4 decimal tab กั้นระยะจุดทศนิยม
ส่วน bar tab first line indent hanging indent จะไม่ใช้การกำหนดตำแหน่งข้อความ เหมือนกับ
การกำหนด tab ทั้ง 4 แบบ
วิธีการกำหนดกั้นระยะ
การกำหนดกั้นระยะ( tab ) มีวิธีปฏิบัติ 2 วิธี คือ
1 กำหนดที่ Ruler (ไม้บรรทัด)
2 กำหนดที่ Paragraph (การจัดการกับย่อหน้า)
การกำหนดค่าที่ ruler( ไม้บรรทัด)
การกำหนดที่ ruler( ไม้บรรทัด) มีวิธีปฏิบัติ ดังนี้
1 เลือกรูปแบบของ tab
2 คลิกที่บริเวณไม้บรรทัดตามตำแหน่งที่ต้องการ
การยกเลิกกั้นระยะที่กำหนดไว้ ให้กดเมาส์ค้างไว้ที่บริเวณ tab ที่ต้องการลบ แล้วลากลงพอประมาณ แล้วปล่อย ส่วนการย้ายตำแหน่งก็เช่นเดียวกัน ให้กดเมาส์ค้างไว้ที่บริเวณ tab ที่ต้องการย้าย แล้วลากไปวางบนตำแหน่งที่ต้องการ
การกำหนดที่ Paragraph(การจัดการกับย่อหน้า)
การกำหนดที่Paragraph(การจัดการกับย่อหน้า)มีวิธีปฏิบัติ ดังนี้
1 คลิกเลือกที่แท็บเมนู page layout ( เค้าโครงหน้ากระดาษ)
2 คลิกที่กลุ่ม Paragraph
3 จะปรากฏกรอบดังนี้
4 คลิกที่ปุ่ม tabs (แท็บ...)
5 จะปรากฏกรอบให้กำหนดรายละเอียดการตั้งกั้นระยะ ( tabs ) ใน tab stop position ( ตำแหน่งแท็บ หยุด)
6 เมื่อกำหนดเรียบร้อยแล้วให้คลิกที่ปุ่ม ok แต่ถ้าต้องการยกเลิก tab ที่กำหนดไว้ ให้คลิกที่ปุ่ม clear ( ล้าง )หรือ clear all ( ล้างทั้งหมด )
การกำหนดรูปแบบตัวอักษร
การกำหนดรูปแบบตัวอักษร จะมี 2 วิธี คือ
1การปฏิบัติก่อนลงมือพิมพ์
2 การปฏิบัติหลังจากที่พิมพ์แล้ว
ปฏิบัติก่อนลงมือพิมพ์
การกำหนดรูปแบบตัวอักษร โดยปฏิบัติก่อนลงมือพิมพ์ มีวิธีปฏิบัติ ดังนี้
1 กำหนดที่แถบเครื่องมือ font (ตัวอักษร)
2 กำหนดรูปแบบตัวอักษรที่ต้องการ
B = Bold (ตัวหนา)
I = Italic (ตัวเอียง)
U = Underline (ขีดเส้นใต้หนึ่งเส้น )
ปฏิบัติหลังลงมือพิมพ์แล้ว
การกำหนดรูปแบบตัวอักษร โดยปฏิบัติหลังจากลงมือพิมพ์ มีวิธีปฏิบัติ ดังนี้
1 ทำแถบสีคลุมข้อความที่ต้องการกำหนดรูปแบบ
2 เลือกเครื่องมือกำหนดตัวอักษรและรูปแบบที่กลุ่ม font (ตัวอักษร) ดังวิธีที่ 1
การกำหนดรูปแบบข้อความ
เมื่อจัดพิมพ์งานในบางส่วนเรียบร้อยแล้ว สามารถที่จะจัดรูปแบบข้อความให้เหมาะสมและสวยงาม โดยใช้เครื่องมือในกลุ่มของ Paragraph ดังนี้
ชิดซ้าย (Align Text Left)
กึ่งกลางหน้ากระดาษ (Center)
ชิดขวา (Align Text Right)
ชิดซ้ายและชิดขวา (Justify)
ชิดซ้ายและชิดขวาแบบไทย (Thai Distributed)
การแก้ไขข้อความ
การแก้ไขข้อความให้ถูกต้อง จะมีวิธีปฏิบัติ 5 แบบ คือ
1 แก้ไขอัตโนมัติ
2 แก้ไขตามพจนานุกรม
3 แก้ไขด้วย Replace
4 แก้ไขโดยใช้ Backspace และ Delete
5 แก้ไขด้วย Insert
6 แก้ไขโดยใช้เครื่องมือ Undo, Redo
การแก้ไขอัตโนมัติ
โปรแกรมประมวลผลคำ จะมีการแก้ไขอัตโนมัติให้ เช่น
แต่บางครั้งพิมพ์ถุกต้องแล้ว แต่โปรแกรมแก้ไขให้ผิด ให้กดแป้น Ctrl + Z จะกลับมาเหมือนเดิม
การแก้ไขตามพจนานุกรม
เมื่อมีการพิมพ์ผิด จะปรากฏเส้นสีแดงที่ใต้ข้อความนั้น ซึ่งสามาราถที่จะแก้ไขได้
3.การนำเสนอข้อมูลสารสนเทศประเภทสื่อสิ่งพิมพ์
การนำเสนอบนหน้าจอ/จอรับภาพ
ในกรณีที่ต้องการเปิดแฟ้มที่พิมพ์ไว้ เพื่อดำเนินการพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์
คลิกที่แท็บเมนู File (แฟ้ม) แล้วเลือกคำสั่ง Open (เปิด)
เลือกแหล่งที่เก็บข้อมูลไว้ในช่อง Look in (มองหาใน) แล้วเลือกชื่อแฟ้มงานที่ต้องการเสร็จแล้วคลิกที่ปุ่ม Open (เปิด)
จะปรากฏข้อมูลที่จะใช้ในการนำเสนอ
การพิมพ์เอกสารออกทางเครื่องพิมพ์
1. คลิก แฟ้ม
2. คลิก พิมพ์
3. เลือกกระดาษ ขนาดของกระดาษ ขนาดมาตรฐานจะใช้ A4
4. เลือกจำนวนสำเนาต้องการกี่ชุดระบุลงไป
5. ในส่วนการตั้งค่า (Setting) จะใช้สำหรับการกำหนดค่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพิมพ์ เช่น ขนาดกระดาษ การกำหนดเครื่องพิมพ์ในแต่ละโปรแกรมย่อยๆ ของ Office 2010 จะไม่เหมือนกัน
6. กำหนดค่าเสร็จแล้ว คลิก พิมพ์ เริ่มพิมพ์ลงกระดาษ
การใช้งานเครื่องมือรูปวาด
1. คลิกเครื่องมือหรือรูปทรงที่ต้องการ
2. ที่พื้นที่ทำงาน ให้ชี้เมาส์ตำแหน่งที่ต้องการวาดภาพ กดปุ่มซ้ายของเมาส์ค้างไว้ แล้วลากออกวาดภาพ ได้ภาพตามต้องการแล้วก็ปล่อยเมาส์
3. วาดเสร็จแล้วคลิกที่ว่างๆ เสร็จสิ้นการวาดภาพ
4. ก่อนวาดภาพให้กดปุ่ม Shift ที่แป้นพิมพ์ค้างไว้ จะได้ภาพรูปทรงแบบสมส่วน หรืออาจจะกดปุ่ม Shift + Ctrl ค้างไว้ทั้งสองปุ่ม แล้วจึงวาดภาพ วิธีนี้จะเป็นการ วาดภาพแบบออกจากจุดศูนย์กลาง กรณีต้องการวาดภาพไว้ภายในรูปใดๆ
5. การลบภาพที่วาด ให้คลิกที่ภาพเพื่อเลือกก่อน แล้วกดปุ่ม Delete ที่แป้นพิมพ์เพื่อลบภาพได้เลย
6. การย้ายภาพให้ชี้ที่ภาพ จนปรากฏสัญลักษณ์ของเมาส์ตามตัวอย่าง จากนั้นกดปุ่มซ้ายของเมาส์ค้างไว้แล้วลากเมาส์ออก ย้ายภาพไปวางตำแหน่งใหม่
1. ช่วยในการจัดเก็บและค้นหาเอกสารมีความรวดเร็วมากขึ้น เพราะงานเอกสารต่างๆ จะถูกจัดเก็บอยู่เป็นแฟ้มข้อมูลลงในสื่อบันทึกข้อมูลต่างๆ และสามารถค้นหาและเรียกใช้งานได้สะดวกและรวดเร็ว
2. ช่วยลดปริมาณกระดาษที่จัดเก็บทำให้ประหยัดพื้นที่ในการเก็บเอกสาร เพราะเอกสารจะถูกจัดเก็บอยู่ในสื่อบันทึกข้อมูลต่างๆ ที่มีขนาดเล็กแต่มีความจุในการเก็บข้อมูลได้เป็นจำนวนมาก
3. ช่วยลดขั้นตอนในการจัดทำเอกสาร เช่น ถ้าต้องส่งจดหมายที่มีข้อความเหมือนกันไปให้ผู้รับจดหมายเป็นจำนวนมากอาจทำได้โดยการจัดทำจดหมายเวียน ซึ่งมีขั้นตอนการทำที่สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งถ้าหากใช้เครื่องพิมพ์ดีดก็อาจจะต้องเสียเวลาในการจัดทำมาก
4. ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพืเอกสาร
5. ช่วยสร้างเอกสารให้มีความสวยงาม ท้้งนี้เพราะผู้ใช้สามารถนำรูปภาพ รูปวาด ภาพกราฟฟิกต่างๆ มาแทรกลงในเอกสารได้โดยตรง
6. ช่วยให้การทำงานกับเอกสารถูกต้องและมีข้อผิดพลาดลดน้อยลง เพราะผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารได้โดยตรงบนหน้าจอจนพอใจจึงสั่งพิมพ์เอกสารออกทางเครื่องพิมพื์ หรืออาจใช้ระบบการตรวจสอบคำผิดแบบอัติโนมัติ ในการตรวจสอบการสะกดคำหรือไวยากรณ์ของภาษาก็ได้