นักเลงเห็ดโคน
พื้นเพเดิมผมเป็นคนท่ายาง, เพชรบุรี ถ้าใครมีความชำนาญด้านไหนหรือนิยมชมชอบอะไรเป็นพิเศษ เขาจะเรียกคำนำหน้าติดปากว่านักเลง เช่น ชอบวัวลานก็เรียกนักเลงวัวลาน ชอบนกก็เรียกนักเลงนก ชอบหาปลาก็เรียกนักเลงปลา ชอบตีไก่ก็เรียกนักเลงไก่ ไม่ใช่นักเลงหัวไม้ไต่ตีหัวหมาด่าแม่เจ๊กให้เดือดร้านชาวบ้านไปวัน ๆ นักเลงในที่นี้หมายถึงความนิยมชมชอบและความชำนาญรอบรู้ของแต่ละคน (๑)
คนที่จะใช้คำนำหน้านามว่านักเลงได้ จะต้องมีความชำนิชำนาญในศิลปะด้านนั้นจริงๆ จังๆ ประเภทฉาบฉวยเช้าชาม เย็นชาม หนักไม่เอา เบาไม่สู้ อู้ทุกงาน ไม่มีโอกาสได้รีบเกียรติอันสูงส่งยกระดับดีกรีขึ้นเป็นนักเลงกับเขาหรอก อย่างมากก็เป็นได้แต่ลูกไล่ให้เขาหลอกใช้ แบบคู่ซ้อมในโหลปลากัดเท่านั้น (๒)
พวกหาเห็ดเก่งๆ เขาก็เรียก "นักเลงเห็ด" เหมือนกัน ตามชื่อเรื่องที่ผมโฆษณาไว้นั่นแหละ เพราะมีความชำนาญเรื่องการหาเห็ดเป็นพิเศษ จึงได้รับการยกย่องเรียกขานว่านักเลงเห็ด จึงอยากจะเล่าแจ้งแถลงไขเรื่องความบันเทิงของคนหาเห็ดที่กว่าจะบุกป่าฝ่าดง ที่มีทั้งแตนทั้งต่อ, หมามุ่ย, งูเห่า, งูจงอาง อีกทั้งยังจะต้องข้ามเขาข้ามห้วย กว่าจะเอาเห็ดโคนมาให้กินกันได้
ต้องใช้ความสามารถ ความทรหดอดทนกันไม่ใช่น้อย งานทุกอย่างย่อมมีปัญหาและอุปสรรคทั้งนั้น ไม่ได้สะดวกโยธิน
เหมือนเข้าเซเว่นฯหรอก (๓)
ชื่อเรื่องสั้นๆ พอเข้าใจ แต่ไม่ทราบทิศทางว่าจะเป็นอย่างไร แต่คนอ่านคาดได้ว่าน่าจะเล่าเกี่ยวกับคนเก็บเห็ดโคน
ย่อหน้าที่ ๑ จะอธิบายคำว่านักเลง โดยเท้าความถึงพื้นเพของผู้เขียนว่าเกิดเป็นคนเพชรบุรี เอาเรื่องเกี่ยวกับตัวเองมานำเรื่อง
ย่อหน้าที่ ๒ อธิบายเพิ่มเติมเรื่องคำว่า นักเลง โดยเสริมเกร็ดความรู่
ย่อหน้าที่ ๓ โยงไปที่ชื่อเรื่องคือ นักเลงเห็ด แล้วอธิบาย มีมุกตลกเสริมให้น่่าอ่าน
ย่อหน้าต่อๆ ไปจะเข้าเรื่องเกี่ยวกับคนเก็บเห็ด
ผู้เขียนนำเรื่องได้น่าติดตาม และน่าสนใจ โดยค่อยๆ แคะความหมายของคำว่านักเลงเห็ด แต่ละย่อหน้า มีรายละเอียดต่างๆ ที่ผู้อ่านน่าจะยังไม่เคยทราบ และโยงไปยังย่อหน้าต่อไป