สถานศึกษาทำงานภายใต้ปรัชญา
"การมีส่วนร่วมความเป็นสาธารณะ ประชาธิปไตยเคารพในคุณค่าทุกคน
ส่งเสริมความเป็นเลิศนักเรียนค้นหาแนวทางตนเอง"
การมีส่วนร่วมความเป็นสาธารณะ
โรงเรียนดำเนินงานวิชาการ การเรียนรู้ และการบริหารจัดการในสถานศึกษาที่เน้น "การมีส่วนร่วม" และ "ความเป็นสาธารณะ" เป็นแนวทางที่สำคัญในการสร้างความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีบทบาทในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้:
สถานศึกษาที่มีการทำงานโดยการมีส่วนร่วมจะเปิดโอกาสให้บุคคลหรือกลุ่มที่เกี่ยวข้องได้เข้ามามีบทบาท เช่น:
นักเรียน: มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนการสอน การจัดกิจกรรม หรือแม้แต่การประเมินครู
ผู้ปกครอง: เข้ามาร่วมเสนอแนะในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การดูแลพฤติกรรมนักเรียน หรือร่วมพัฒนาหลักสูตร
ครูและบุคลากร: มีสิทธิเสนอแนวทางการจัดการเรียนรู้ แผนพัฒนาวิชาชีพ หรือวิธีบริหารจัดการภายในโรงเรียน
ชุมชน/องค์กรท้องถิ่น: เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนทรัพยากร การจัดกิจกรรม หรือสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ภายนอกห้องเรียน
ความเป็นสาธารณะหมายถึงการเปิดเผยข้อมูลและการดำเนินงานต่าง ๆ ให้ตรวจสอบได้ เช่น:
การเปิดเผยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน: เช่น คะแนน O-NET, NT, รายงานประเมินคุณภาพผู้เรียน
การมีระบบประเมินผลแบบเปิดเผย: ให้ผู้ปกครองและชุมชนเข้ามาตรวจสอบ หรือเสนอความคิดเห็นต่อระบบการจัดการเรียนรู้
การเปิดเวทีสาธารณะ: เช่น การจัดประชุมผู้ปกครอง การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของชุมชนเกี่ยวกับการบริหารงาน
การใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารข้อมูล: เช่น เว็บไซต์โรงเรียนที่อัปเดตข้อมูลข่าวสาร ผลงานนักเรียน แผนการสอน แผนงบประมาณ ฯลฯ
โรงเรียนจัด “ประชุมแผนพัฒนาการศึกษา” โดยเชิญชวนผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และนักเรียนมาร่วมเสนอแนวคิด
เปิดรายงานการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีผ่านเว็บไซต์โรงเรียน
มีการประเมินครูโดยนักเรียน และผลสรุปการประเมินนั้นมีการนำไปใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนอย่างเป็นรูปธรรม
ประชาธิปไตยเคารพในคุณค่าทุกคน
โรงเรียนดำเนินงานวิชาการที่ส่งเสริมประชาธิปไตยและเคารพในคุณค่าของทุกคน จะมุ่งเน้นการพัฒนา "กระบวนการเรียนรู้" และ "บรรยากาศการอยู่ร่วมกัน" ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ เสียงของตนเอง และได้รับการเคารพอย่างเท่าเทียม ซึ่งสามารถดำเนินการได้ในหลายมิติ ดังนี้:
✅ แนวทางการดำเนินงานในด้านงานวิชาการและการเรียนรู้
จัดการเรียนรู้แบบ Active Learning / Learner-Centered
เน้นการเรียนรู้ที่ผู้เรียนมีส่วนร่วม แสดงออกความคิด แสดงความคิดเห็น ถกเถียงอย่างมีเหตุผล
เปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกหัวข้อเรียนรู้หรือวิธีเรียนรู้ในบางกิจกรรม เพื่อฝึกการตัดสินใจ
บูรณาการแนวคิดประชาธิปไตยในบทเรียน
นำหลักสิทธิมนุษยชน ความเสมอภาค กฎหมายพื้นฐาน หรือสิทธิพลเมืองเข้าสู่บทเรียน เช่น ในวิชาสังคม ภาษาไทย ประวัติศาสตร์
ใช้กระบวนการกลุ่มอย่างเท่าเทียม
การทำงานกลุ่มที่ส่งเสริมบทบาทของทุกคน ไม่ให้มีการผูกขาดหน้าที่หรือความคิด
สลับบทบาทผู้นำ-ผู้ตาม เพื่อฝึกความเข้าใจในการฟังและการเคารพความคิดเห็นผู้อื่น
✅ ด้านการบริหารจัดการและบรรยากาศในโรงเรียน
เปิดเวทีให้ทุกเสียงมีความหมาย
เช่น การมี "สภานักเรียน" ที่มีบทบาทจริงในการเสนอแนวทางแก้ปัญหาในโรงเรียน
มีช่องทางให้ครู นักเรียน ผู้ปกครอง เสนอความคิดเห็น เช่น กล่องรับฟังความคิดเห็น การประชุมประจำภาคเรียน
เคารพและส่งเสริมความหลากหลาย (Diversity)
ไม่เลือกปฏิบัติต่อศาสนา เชื้อชาติ เพศ หรือฐานะทางเศรษฐกิจ
ส่งเสริมให้ทุกคนภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของตน
เน้นการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี
การจัดการวินัยนักเรียนอย่างให้เกียรติ ใช้การพูดคุย ทำความเข้าใจ มากกว่าการลงโทษแบบรุนแรง
มีระบบเพื่อนช่วยเพื่อน / ครูที่ปรึกษา / พี่เลี้ยงทางอารมณ์
✅ กิจกรรมเสริมหลักสูตร
จัด กิจกรรมเลือกตั้งสภานักเรียน แบบสมจริง
มี ชมรมอภิปราย ยุวชนประชาธิปไตย หรือ กิจกรรมจำลองรัฐสภา
จัด โครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับชุมชน เช่น เชิญผู้รู้จากชุมชนมาเล่าเรื่องสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม หรือประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
✅ สรุปหลักการสำคัญ
แนวคิดหลัก วิธีปฏิบัติในสถานศึกษา
ประชาธิปไตย เปิดเวทีแสดงความคิดเห็น รับฟังผู้อื่น มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ ให้โอกาสทุกคนอย่างเท่าเทียม
การมีส่วนร่วม ส่งเสริมบทบาทนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ในทุกมิติของการจัดการศึกษา
ความเคารพ เคารพความคิดเห็น ความแตกต่าง และศักดิ์ศรีของทุกคน
ส่งเสริมความเป็นเลิศนักเรียนค้นหาแนวทางตนเอง
โรงเรียนดำเนินงานวิชาการและการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศของนักเรียน และ สนับสนุนให้นักเรียนค้นพบแนวทางของตนเอง เป็นการพัฒนาการศึกษาที่มุ่งเน้นศักยภาพรายบุคคล ไม่ใช่เพียงการเรียนให้เก่งแบบเดียวกันทั้งหมด สถานศึกษาสามารถดำเนินการได้ดังนี้:
ออกแบบการเรียนรู้ที่ตอบสนองความถนัด ความสนใจ และศักยภาพของนักเรียน เช่น
ให้นักเรียนเลือกทำโครงงานตามความสนใจ
จัดกลุ่มเรียนรู้เสริมตามความสามารถ (กลุ่มเรียนรู้เชิงลึก / กลุ่มพัฒนาเพิ่มเติม)
ใช้เทคโนโลยีหรือแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ตามจังหวะของตนเอง
มีการประเมินความถนัด ความสนใจ และคุณลักษณะเฉพาะของนักเรียน เช่น
แบบวัดอาชีพ (Vocational Interest Inventory)
การสังเกตพฤติกรรมโดยครูแนะแนวหรือครูประจำชั้น
จัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียนลองหลายด้าน เช่น วิชาการ กีฬา ดนตรี ศิลปะ หุ่นยนต์ ฯลฯ
ส่งนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันในระดับเขต/ประเทศ เช่น
การแข่งขันคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษา
แข่งขันทักษะอาชีพ แข่งขันสิ่งประดิษฐ์
จัดเวทีภายในโรงเรียน เช่น
งาน "Open House" ให้นักเรียนแสดงผลงาน
นิทรรศการโครงงาน/กิจกรรมโชว์ศักยภาพ
จัดครูพี่เลี้ยงดูแลรายบุคคล โดยเฉพาะนักเรียนที่มีศักยภาพพิเศษหรือมีความต้องการเฉพาะ
มีการให้คำปรึกษาแบบเป็นระบบจากครูแนะแนว เพื่อช่วยนักเรียนค้นหาเส้นทางเรียนต่อ หรือสายอาชีพในอนาคต
ปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักใช้ความสามารถเพื่อประโยชน์ของตนเองและสังคม
สนับสนุนการเรียนรู้ด้วยหัวใจแห่งความรับผิดชอบและการทำงานเป็นทีม
การเรียนรู้ตามศักยภาพ/ โครงงานวิทยาศาสตร์, วิจัยในชั้นเรียน
ส่งเสริมศักยภาพเฉพาะ/ ชุมนุม/ชมรมเฉพาะทาง เช่น คณิตศาสตร์ หุ่นยนต์ ศิลปะ
เวทีแสดงความสามารถ/ งานศิลปหัตถกรรม, วันวิชาการ, งานประกวดผลงาน
การแนะแนวอาชีพ/ จัดแนะแนวรายบุคคล จัดค่ายแนะแนว เข้าชมสถานที่ทำงานจริง
พี่เลี้ยง/โค้ช/ โครงการติวเข้มเฉพาะกลุ่ม, ครูพี่เลี้ยงนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ
ปรับปรุงข้อมูลโดย นายวีระชัย จันทร์สุข