๑. ข้อใดเป็นการเขียนอวยพร
ก. จงเชื่อในความดี ข. ขอให้มีความสุข
ค. ซ่าโดนใจ ง. จงทำดี
๒. ข้อใดใช้คำในการเขียนอวยพรเหมาะสมกับบุคคล
ก. ขอให้คุณครูมีสุขภาพ พลานามัยสมบูรณ์
ข. ขออวยพรให้คุณปู่จงเจริญด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ
ค. ขอให้คุณย่าอายุยืนหมื่นปีให้ราศีงามผ่องใสให้คนรักทั่วๆ ไป
ง. ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายดลบันดาลให้คุณตาคุณยายมี
ความสุข
๓. คำขวัญ มีลักษณะอย่างไร
ก. ข้อความสั้นๆ ไพเราะ
ข. ข้อความที่ส่งเสริมให้ทำความดี
ค. ข้อความสั้นๆ ที่มีพลังในการโน้มน้าวใจผู้ฟัง
ง. ข้อความที่เป็นคำแนะนำให้ผู้ฟังประพฤติปฏิบัติตาม
๔. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของคำขวัญที่ดี
ก. ผู้รับสารสนใจ ข. กระทบใจผู้รับสาร
ค. ผู้รับสารมีความนิยม ง. ผู้รับสารสนใจและจำได้ทันที
๕. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของคำคม
ก. ถ้อยคำที่ไพเราะ ข. ถ้อยคำที่แหลมคม
ค. ถ้อยคำที่ชวนให้คิด ง. ถ้อยคำที่เป็นหลักความจริง
๖. ข้อความที่ยกตัวอย่าง เป็นคำคมประเภทใด
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
ก. คำคมที่ใช้คำเปรียบเทียบให้ความหมาย ข. คำคมที่แต่งด้วยคำประพันธ์
ค. คำคมที่เป็นคำสัมผัสคล้องจอง ง. คำคมที่เป็นคำพูดไพเราะ
๗. ข้อใดเขียนโฆษณาถูกต้องตามหลักเกณฑ์การเขียนโฆษณา
ก. ลูกอมตราม้า เย็นซ่าชื่นใจ
ข. รองเท้าตราลิง ใส่วิ่งเหาะได้
ค. น้ำปลาตราหอย เค็มน้อยกว่าน้ำปลาตราไก่
ง. นมตราสับปะรด ดีกว่านมสดตราลำไย
๘. ข้อใดเป็นวัตถุประสงค์หลักของการโฆษณา
ก. เพื่อให้รู้ถึงชื่อสินค้าหรือการบริการ
ข. เพื่อประโยชน์ในการขายสินค้าหรือบริการ
ค. เพื่อให้รู้ถึงสรรพคุณหรือจุดเด่นของบริการ
ง. เพื่อประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์สินค้าหรือการบริการ
๙. สุนทรพจน์ หมายความว่าอย่างไร
ก. คำกล่าวที่ดีงาม ไพเราะ มีแนวคิดคมคาย ลึกซึ้งทำให้ผู้ฟังประทับใจ
ข. คำกล่าวที่สัมผัสคล้องจอง ไพเราะ มีแนวคิดที่ทันสมัยลึกซึ้ง ทำให้ผู้ฟังประทับใจ
ค. คำกล่าวที่ถูกต้องตามหลักความจริง มีแนวคิดใหม่คมคาย ลึกซึ้ง ทำให้ผู้ฟังประทับใจ
ง. คำกล่าวที่กล่าวในที่ประชุมชน ถูกต้องตามหลักความจริง มีแนวคิดทันสมัย ทำให้ผู้ฟังประทับใจ
๑๐. ข้อความในข้อใดจับคู่ถูกประเภท
ก. คำขวัญ - รักลูกหลานอย่าผลาญป่า
ข. คำคม - จงแสดงพลังประชาธิปไตย
ค. คำอวยพร - ความไม่เป็นโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
ง. คำโฆษณา - เวลาและกระแสน้ำไม่คอยใคร