ใบความรู้ เรื่อง สุภาษิตสอนหญิง
สุภาษิตสอนหญิง เป็นผลงานกวีนิพนธ์แบบกลอนประพันธ์โดยสุนทรภู่ ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าประพันธ์เรื่องนี้ขึ้นเมื่อใด เนื้อหาเป็นการสอนสตรีในด้านต่างๆ เช่น การวางตัว การเจรจา การเลือกคู่ เป็นต้น นักวิชาการบางส่วนเห็นว่า วรรณกรรมเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นผลงานของสุนทรภู่ แต่น่าจะเป็นของนายภู่ จุลละภมร ผู้เป็นศิษย์[1] อย่างไรก็ดีนักวิชาการส่วนใหญ่ยังถือว่าวรรณกรรมเรื่องนี้เป็นผลงานของสุนทรภู่อยู่ ทั้งนี้แนวคิดหลายประการที่ปรากฏอยู่ในวรรณกรรม แสดงให้เห็นว่าผู้ประพันธ์ค่อนข้างมีความคิดทันสมัย และเห็นความสำคัญของเศรษฐกิจการเรือนที่อยู่ในมือของผู้หญิง
คุณค่าจากวรรณคดี
โดยวรรณคดีเรื่องสุภาษิตสอนหญิงนั้น สามารถสรุปคำสั่งสอนที่สำคัญได้ดังนี้
1. การรักนวลสงวนตัว
- ไม่ชิงสุกก่อนห่าม
" จงรักนวลสงวนงามห้ามใจไว้ อย่าหลงใหลจำคำที่พร่ำสอน
คิดถึงหน้าบิดาและมารดร อย่ารีบร้อนเร็วนักมักไม่ดี
เมื่อสุกงอมหอมหวนจึงควรหล่น อยู่กับต้นอย่าให้พรากไปจากที่
อย่าชิงสุกก่อนห่ามไม่งามดี เมื่อบุญมีคงจะมาอย่าปรารมภ์ "
2. การแต่งกาย
- ไม่แต่งตัวเยอะจนเกินงาม
" จะนุ่งห่มดูพอสมศักดิ์สงวน ให้สมควรรับพักตร์ตามศักดิ์ศรี
จะผัดหน้าทาแป้งแต่งอินทรีย์ ดูฉวีผิวเนื้ออย่าเหลือเกิน "
3. การนอน
- ไม่นอนตื่นสาย
" แม้นสมรจะไปนอนที่เรือนไหน อย่าหลับไหลลืมกายจนสายสาง
ใครเห็นเข้าเขาจะเล่านินทานาง ความกระจ่างออกกระจายเพราะกายตัว "
-ไม่นอนดิ้น
" ประพฤติกายสายสมรจะนอนหลับ อย่ากลิ้งกลับมือไม้ไปป่ายเขา
นอนให้ดีมีสติสิริเรา อย่าซมเซาอยู่จนแจ้งแสงพะยับ "
4. การเดิน
- ไม่เสยผมขณะเดิน ไม่เดินแกว่งแขนมากเกินไป
" ประการหนึ่งซึ่งจะเดินดำเนินนาด ค่อยเยื้องยาตรยกย่างไปกลางสนาม
อย่าไกวแขนสุดแขนเขาห้ามปราม เสงี่ยมงามสงวนไว้แต่ในที
อย่าเหินกรายย้ายอกยกผ้าห่ม อย่าเสยผมกลางทางหว่างวิถี
อย่าพูดเพ้อเจ้อไปไม่สู้ดี เหย้าเรือนมีกลับมาจึงหารือ "
5. การฟัง
- ฟังหูไว้หู ไม่เชื่อคำพูดของใครง่าย ๆ
" อันความชั่วอยู่ที่ตัวของเราหมด ต้องกำสรดโศกร้างอยู่กลางหน
จงฟังหูไว้หูกับผู้คน สืบยุบลเสียให้แน่อย่าแร่ไป "
" อันคำคมลมบุรุษนั้นสุดกล้า เขาย่อมว่ารสลิ้นนี้กินหวาน
จงระวังตั้งมั่นในสันดาน อย่าลนลานหลงระเริงด้วยเชิงชาย "
6. การพูด
- คิดก่อนพูด
" เป็นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปาก จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ "
-ไม่พูดตะคอก
" จะพูดจาปราศรัยกับใครนั้น อย่าตะคั้นตะคอกให้เคืองหู "
-ไม่พูดคำหยาบ
" ไม่ควรพูดอื้ออึงขึ้นมึงกู คนจะหลู่ล่วงลามไม่ขามใจ "
7. การเลือกคู่ครอง
" จะหาคู่สู่สมนิยมหวัง จงระวังชั่วช้าอัชฌาสัย
ที่ชายดีนั้นก็มีอยู่ถมไป ใช่วิสัยเขาจะชั่วไปทั่วเมือง "
" แม้นชายใดใจประสงค์มาหลงรัก ให้รู้จักเชิงชายที่หมายมั่น
อันความรักของชายนี้หลายชั้น เขาว่ารักรักนั้นประการใด
จงพินิจพิศดูให้รู้แน่ อย่ามัวแต่ใจเร็วจะเหลวไหล
เปรียบเหมือนคิดปริศนาอย่าไว้ใจ มันมักไพล่แพลงขุมเป็นหลุมพราง "
8. การเลือกคบเพื่อน
" อย่าคบพวกหญิงพาลสันดานชั่ว ที่แต่งตัวไว้จริตผิดกระสวน
สุริย์ฉายบ่ายคล้อยเที่ยวลอยนวล เป็นเชิงชวนพวกเจ้าชู้เขารู้กล "
9. การประหยัด
- หมั่นออมเงินและไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย
" มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
จงมักน้อยกินน้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน "
10. กตัญญูต่อบิดามารดา
" เมื่อพ่อแม่แก่เฒ่าชรากาล จงเลี้ยงท่านอย่าให้อดระทดใจ
ด้วยชนกชนนีนั้นมีคุณ ได้การุญเลี้ยงรักษามาจนใหญ่ "
11. การมีสติอยู่เสมอ
" เมื่อจะจรนอนเดินดำเนินนั่ง จงระวังยั้งจิตขนิษฐา
อย่าเหม่อเมินเดินให้ดีมีอาณา แม้นพลั้งพลาดบาทาจะอายคน "
12. การรักเดียวใจเดียว
" อย่าจับปลาสองหัตถ์จะพลัดพลาด จับให้คงลงให้ขาดว่าเป็นผัว
จึงนับว่าคนดีไม่มีมัว ถ้าชายชั่วร้างไปมิใช่ชาย "
13. การอ่อนน้อมถ่อมตน
- ไม่อวดร่ำอวดรวย
" อย่าอวดดีมีทรัพย์เที่ยวจับแจก ทำเกี่ยวแฝกมุงป่าพาฉิบหาย
ใครจะช่วยตัวเราก็เปล่าดาย อย่ามักง่ายเงินทองของสำคัญ "
-ไม่โอ้อวดยศถาบรรดาศักดิ์เกินจริง
" อันตัวต่ำแล้วอย่าทำให้เกินศักดิ์ เขาจะมักเหม็นปากเหมือนซากผี
เปรียบเหมือนเกลือเจือปนกับชลธี มันก็มีแต่จะจืดไม่ยืดยาว "
14. หน้าที่ของภรรยา
- ซื่อสัตย์ต่อสามี
" จงซื่อสัตย์ต่อภัสดาสวามี จนชีวีศรีสวัสดิ์เจ้าตัดษัย
อย่าให้มีราคินที่กินใจ อุประมัยเหมือนอนงค์องค์สีดา "
-เคารพ นอบน้อมสามี
" แม้นเขารักแล้วอย่าดื้อทำถือจิต เร่งเกรงผิดกลัวภัยใหญ่มหันต์
คำนับนอบสามีทุกวี่วัน อย่าดุดันดื้อดึงตะบึงตะบอน "
-ตื่นนอนก่อนสามี เตรียมอาหารให้พร้อม
" จงรีบฟื้นตื่นก่อนภัสดา น้ำล้างหน้าหาไว้ให้เสร็จสรรพ
จึงหุงข้าวต้มแกงแต่งสำรับ จัดประดับเทียบทำให้น้ำนวล "
- สามีทานอาหารเสร็จจึงค่อยทาน
" อยู่จนผัวรับประทานอาหารแล้ว นางน้องแก้วเจ้าจงกินเมื่อภายหลัง
อย่ากินก่อนภัสดาดูน่าชัง เขาจะรังเกียจใจดูไม่ดี "
-ปรนนิบัติสามี
" ถ้าแม้นว่าภัสดาเข้าไสยาสน์ จงกราบบาททุกครั้งอย่าพลั้งหลง
เขาเมื่อยเหนื่อยเจ็บปวดในทรวดทรง ช่วยบรรจงนวดฟั้นให้บรรเทา "
" ถ้าผัวทำราชการพระผ่านเกล้า เคยเข้าเฝ้าสู่วังนะรังศรี
ทั้งล่วมปัดจัดแจงแต่งให้ดี หมากบุหรี่หาใส่ให้ไปกิน
อุตส่าห์ทำบำเรอเสนอสนอง ตามทำนองมิ่งมิตรเป็นนิจสิน
ปรนนิบัติภัสดาอย่าราคิน จึงจะภิญโญยศปรากฏไป "
-ไม่ก้าวร้าวหรือเถียงสามี
" แม้นผัวเดือดเจ้าจงดับระงับไว้ อย่าพอใจขึ้นเสียงเถียงประสม
เขาเป็นไฟเราเป็นน้ำคอยพร่ำพรม แม้นระดมขึ้นทั้งคู่จะวู่วาม "
-ไม่นินทาหรือด่าว่าสามี
" แม้นพิโรธโกรธขึ้งกับภัสดา อย่านินทาว่าผัวตัวลับหลัง
พึงข่มขืนกลืนไว้ในอุรัง อุตส่าห์บังกลบเกลื่อนที่เงื่อนเงา "