ใบความรู้ เรื่อง จากผาแต้มสู่อียิปต์
เนื้อเรื่องย่อ
อินบอกเอื้องน้องสาวว่า ปิดเทอมนี้พ่อกับแม่จะพาไปเที่ยวภาคอีสานด้วยการไปทอดกฐินที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่ (พ่อของอินกับเอื้องเป็นชาวเหนือ) แม่ปรึกษากับพ่อว่า จะไปเที่ยวที่อำเภอโขงเจียม เพราะมีธรรมชาติที่สวยงามและมี "ผาแต้ม" ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ส าคัญทางประวัติศาสตร์ด้วย โดยแม่จะทำหน้าที่เป็นผู้นำทาง พ่ออาสาเป็นผู้ขับรถให้ อินสงสัยจึงถามแม่ว่า ทำไมถึงเรียกว่า “ผาแต้ม” แม่จึงอธิบายให้ฟังว่า “เพราะที่หน้าผามีภาพเขียนเหมือนใครมาแต้มสีไว้ มีอายุราว 3,000 ปี มาแล้ว นับได้ว่าเป็นภาพสีที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย” พ่อพูดเสริมว่า “ภาพที่ว่านี้วาดต่อ ๆ กันเป็นร้อย ๆ ภาพเลย”
เมื่อถึงวันที่กำหนด พอถวายผ้ากฐินที่วัดเสร็จแล้ว วันรุ่งขึ้นพ่อกับแม่ก็พาอินและเอื้องเดินทางไปอุทยานแห่งชาติผาแต้มแต่เช้ามืดเพื่อให้ทันชมพระอาทิตย์ขึ้น ทุกคนมายืนบนลานหินขนาดใหญ่ที่ทอดยาวคดเคี้ยวไปตามลำน้ำโขง ทำให้มองเห็นป่าไม้ และเทือกเขาของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอยู่ไกลลิบ ช่างเป็นภาพที่สวยงามมาก อินกับเอื้องตื่นตาตื่นใจกับธรรมชาติที่สวยงามนั้นยิ่งนัก ส่วนพ่อก็มีความสุขมากกับการถ่ายภาพคนในครอบครัวกับธรรมชาติ จากนั้นทุกคนก็เดินลงมาจากลานหิน เดินไปตามสะพานที่เลาะเลียบให้เพิงผาเพื่อชมภาพเขียนสีแดงเหมือนสีน้ำหมาก ซึ่งมีมากกว่า 300 ภาพ เด็ก ๆ พากันชี้ชม มีภาพช้างกับลูก ภาพปลาบึก และภาพสัตว์ต่าง ๆ อีกมากมาย
พ่ออธิบายว่า “นี่เป็นภาพที่คนสมัยโบราณก่อนประวัติศาสตร์เขาบันทึกให้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนะรรมของ พวกเขาในสมัยก่อน” แม่อธิบายว่า “คนสมัยก่อนไม่มีตัวอักษร จึงใช้รูปภาพแทนตัวอักษรแล้ววาดลงบนแผ่นหิน” พ่อกับแม่บอกว่า “ไทยเรามีตัวอักษรไทยใช้มาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแล้ว โดยพระองค์ท่าน โปรดให้มีการจารึกเรื่องราวต่าง ๆ เป็นตัวอักษรไว้บนศิลาจารึก”
พอเปิดเทอม อินก็น าเรื่องการไปเที่ยวผาแต้มมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง ณภัทรเพื่อนร่วมชั้นของอินก็ได้ไปเที่ยวที่ประเทศ "อียิปต์" กับพ่อแม่และอา เขาจึงนำเรื่องมาเล่าบ้างว่า “ถ้าเอ่ยถึงอียิปต์ ทุกคนต้องนึกถึงพีระมิด กระดาษปาปิรุส และ แมลงสคารับ โดยเฉพาะ "พีระมิด" ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลกในยุคโบราณที่ก่อสร้างเป็นรูปกรวยเหลี่ยมใช้สำหรับเป็นที่เก็บพระศพของฟาโรห์กษัตริย์ของอียิปต์โบราณ ที่ใช้เวลาในการก่อสร้างนานนับ 10 ปี ทีเดียว มัคคุเทศก์ ได้พาไปเที่ยวที่มหาพีระมิดแห่งเมืองกีซา ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด และมีชื่อเสียงมากที่สุด ในจำนวน 110 แห่ง ทั่วประเทศอียิปต์ ซึ่งมีการแกะสลักรูป ต่าง ๆ มากมายไว้ตามผนัง และเสาทั้งรูปสัตว์ ของใช้ ทั้งนี้คนอียิปต์คิดค้นการสื่อความหมายด้วยรูปภถาพมาประมาณ 5,000 ปีแล้ว”
อินจึงว่า “งั้นอียิปต์ก็มีก่อนผาแต้มนะสิ” ณภัทรจึงอธิบายต่อว่า “ทุกชาติทุก ภาษายอมรับว่า อักษรอียิปต์โบราณนี้เก่าแก่ที่สุดในโลก เห็นได้จากตัวอักษรที่เขียนไว้ตามผนังและกระดาษปาปิรุส ” อินถามณภัทรว่า “กระดาษปาปิรุสคล้ายกระดาษสาของทางภาคเหนือหรือเปล่า” ณภัทรจึงอธิบายว่า “คล้ายกัน กระดาษปาปิรุสทำมาจากต้นกกอียิปต์ แต่กระดาษสาทำจากต้นสา ชาวอียิปต์เขียนภาพหรือตัวอักษรลงบนกระดาษปาปิรุสเพราะซึมซับน้ำสี และน้ำหมึกทุกประเภทได้ดี” แล้วณภัทรยังคลี่กระดาษปาปิรุสที่ซื้อมาให้เพื่อน ๆ ดูพร้อมกับภาพแมลงสคารับที่มีหน้าตาเหมือนแมลงกุดจี่ของภาคอีสาน พร้อมอธิบายให้เพื่อน ๆ ฟังว่า
“แมลงสคารับได้รับการยกย่องให้เป็นตัวแทนแห่งเทพ เมื่อชาวอียิปต์วาดภาพใด ก็มักจะมีแมลงสคารับอยู่ด้วยเสมอ” เรื่องที่อินและณภัทรนำมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังนั้น ล้วนเป็นภูมิปัญญาของคนโบราณที่น่ารู้ น่าศึกษา น่าสนใจ แม้ภาพเขียนที่ผาแต้ม หรือที่อียิปต์จะเกิดในที่ที่ห่างไกลกัน แต่ผู้สร้างสรรค์ก็มีความนึกคิดที่คล้ายคลึงกันอย่างน่ามหัศจรรย์