ใบความรู้ เรื่อง อ่านป้ายได้สาระ
เนื้อเรื่องย่อ
บทเรียนนี้เป็นเรื่องของเด็กชายแหลมกับครอบครัวของเขาซึ่งมี พ่อ แม่ ปู่ และน้องสาวชื่อ แป้งหอม แหลมเล่าว่าทุกเช้าเขากับพ่อจะต้องช่วยกันดูแล “เจ้าโกร่ง” รถยนต์กระบะที่เป็นสมบัติของคุณปู่ท่านยกให้พ่อของแหลม หลังจากที่ท่านเกษียณอายุราชการ แม้ "เจ้าโกร่ง" จะเก่าแก่ แต่มันก็มีสิ่งทันสมัยอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือ สติกเกอร์รูปหัวใจสีชมพู มีข้อความว่า “รักเมืองไทย ร่วมใจทำดี” ติดอยู่ที่รถให้เห็นสะดุดตา
พ่อของแหลมใช้ “เจ้าโกร่ง” เป็นพาหนะคู่ชีพไปทำงานให้ความรู้แก่เกษตรกรในการประกอบอาชีพทำนา ทำไร่ ทำสวน โดยได้น้อมนำแนวพระราชดำริการเกษตรทฤษฎีใหม่มาอบรมเกษตรกรให้ทำการเกษตรบนพื้นฐานความพอเพียง พึ่งพาตนเองและคำนึงถึงสภาวะแวดล้อม บางทีพ่อก็ใช้ “เจ้าโกร่ง” บรรทุกสารพัดอย่าง เช่น ต้นกล้า ดิน ปุ๋ย และเครื่องมือทางการเกษตร คุณพ่อของแหลมทำงานไม่มีวันหยุด เพราะมีปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา เช่น ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม ศัตรูพืชระบาด คุณพ่อจะรีบเร่งไปช่วยเหลือทันทีเท่าที่จะทำได้ก่อน บ่อยครั้งที่แหลมเห็นคุณพ่อลงจากรถอย่างหมดแรง เขาต้องเข้าไปช่วยถือกระเป๋าเอกสารซึ่งเต็มไปด้วยโครงการมากมาย ทำให้แหลมเข้าใจเลยว่าไม่เฉพาะเด็ก ๆ อย่างเขาเท่านั้นที่ต้องทำโครงงาน ผู้ใหญ่ก็มีโครงการต้องทำเหมือนกัน
วันนี้คุณพ่อขับ “เจ้าโกร่ง” พาแหลม น้องแป้งหอม คุณแม่ และคุณปู่ไปชมงานมหกรรมยานยนต์ที่ศูนย์แสดงสินค้า ระหว่างทางออกจากหมู่บ้าน ทุกคนจะไม่นั่งกันเฉย ๆ จะชวนกันอ่านเลขป้ายทะเบียนรถคันหน้าบ้าง บวกเลขทะเบียนบ้าง ถอดรหัสพยัญชนะหน้าตัวเลขป้ายทะเบียนบ้างว่าอ่านอย่างไร เป็นพยัญชนะตัวที่เท่าไร พอเบื่อก็อ่านป้ายตามเส้นทางที่ผ่าน แล้วก็พูดคุยกันไปเรื่อย เช่น น้องแป้งหอมอ่านป้ายที่เขียนว่า “ระวังรถสวน” ก็เกิดความสงสัย คุณแม่ก็ต้องอธิบายให้ฟัง แหลมเองพออ่านป้าย “ขับช้า ๆ อันตราย” ก็บอกให้คุณพ่อขับรถช้า ๆ คุณพ่อก็อธิบายให้เข้าใจว่าขับรถช้า ๆ หากมีอันตรายจะได้หยุดรถทัน ถ้าหยุดไม่ทันก็จะเกิดอันตรายได้ พอคุณพ่อขับรถมาถึงทางแยกถนนใหญ่ที่มีสัญญาณไฟแดงให้รถหยุด แหลมก็ถามคุณปู่ว่ามีไฟแดงทำไม เพราะทำให้รถติดทุกทางเลย คุณปู่ต้องอธิบายให้แหลมฟังว่า “มันเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ เพราะถ้ารถทุกคัน วิ่งมาตรงทางแยกแล้วไม่มีใครหยุดเลย มันก็จะเกิดอุบัติเหตุชนกันตายนะซี” คราวนี้แหลมอ่านป้าย “เมาไม่ขับ” ในใจเขาคิดว่า ข้อความนี้เป็นปริศนาว่า เมาอะไร เมาเหล้า หรือเมายา หรือ เมาใจ แต่จะเมาแบบไหนก็ไม่ควรขับรถ ปัญหามันอยู่ที่คนเมา คนอื่นช่วยแก้ไม่ได้ เพราะคนที่เมานั้นต้องรู้ปัญหาของตนเอง รู้ตัวเองจึงจะแก้ปัญหาได้
น้องแป้งหอมถามพี่ชายว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน แหลมจึงบอกให้น้องสาวอ่านป้ายสำนักงานของราชการ เช่น โรงเรียน สถานีต ารวจ ก็จะรู้ว่าเราอยู่ตำบล อำเภอ หรือจังหวัดใด เพราะป้ายเหล่านี้บอกรายละเอียดได้ชัดเจนที่สุด คุณพ่อกำลังจะขับรถขึ้นทางด่วน คุณแม่ส่งเงินค่าผ่านทางให้ แหลมดีใจเพราะขึ้นทางด่วนแล้วรถน้อย คุณ พ่อคงจะขับรถให้ฉิวปลิวลมไปเลย แต่ที่ไหนได้ มีป้ายก าหนดความเร็วว่าต้องขับเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แหลมเลยต้องแอบถอนใจ เพราะเขารู้ดีว่าคุณพ่อของเราต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างแน่นอน พอมาถึงสถานที่แสดงงานมหกรรมยานยนต์ แหลมรู้สึกเหมือนกับพลัดหลงเข้าไปในโลกอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว อากาศหายใจเย็นเฉียบ แสงไฟส่องวูบวาบไปทั้งวานจนตาพร่าพราย เสียงประชาสัมพันธ์เชิญชวนด้วยภาษาไทย ที่มีสำเนียงใหม่ไม่คุ้นหู เสียงเพลงกระหึ่มรอบทิศทาง มีบริษัทต่าง ๆ นำรถมาแสดงมากมายทั้งรถที่ผลิตในประเทศไทย และรถที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เพื่อให้เห็นความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์ และยังมีสาวสวยยืนแจกยิ้มหวานอยู่ข้างรถ ทำให้ชวนมองทั้งรถทั้งคน
คุณปู่และคุณพ่อพากันเดินสอบถามพนักงานขายรถ และรับเอกสารแนะนำรถยนต์มาศึกษา โดยคำนึงถึงความจำเป็นในการใช้งาน สมรรถนะของรถ ความเหมาะสมกับรายรับรายจ่าย แหลมได้แต่ช่วยถือเอกสาร และตั้งใจที่จะนำข้อมูลในเอกสารไปค้นคว้าทำโครงงานส่งคุณครู ส่วนคุณปู่และคุณพ่อจะซื้อรถคันใหม่หรือจะใช้ “เจ้าโกร่ง” ต่อไปแหลมก็เดาใจท่านทั้งสองไปถูกเหมือนกัน