ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการคัดลายมือ
ในอดีตมีการอบรมสั่งสอนและให้ความสำคัญต่อการเขียนด้วยลายมือ ดังที่ปรากฏในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน วันทองสอนพลายงามว่า “ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ” แต่ในปัจจุบันการให้ความสำคัญกับลายมืดลดลง มีการเขียนผิดรูปแบบอักษรไทย ตัวอักษรไม่มีหัว ไม่มีหาง ไม่มีความแตกต่าง ทำให้อ่านยาก ถ้าลายมืออ่านยากเพราะผู้เขียนเขียนไม่ถูกวิธี ผู้อ่านก็อ่านไม่ออกทำให้ไม่เข้าใจและไม่ทราบคุณค่าของข้อเขียนนั้นว่าดีอย่างไร ไม่สามารถสื่อสารทำความเข้าใจระหว่างกันได้ ดังนั้นการคัดลายมือจึงเป็นกิจกรรมการเขียนที่มีความสำคัญมาก เพราะการคัดลายมือให้ถูกต้องตามแบบอักษรไทยเป็นพื้นฐานที่จะนำไปสู่การเขียนที่สวยงามทำงานเป็นระเบียบ สามารถปลูกฝังความมีระเบียบวินัย ในตนเองและมีความภูมิใจในความเป็นชาติไทยที่มีตัวอักษรใช้เป็นของตนเอง
การคัดลายมือ หมายถึง การเขียนตัวอักษรไทยให้มีรูปแบบที่ถูกต้องสวยงาม และตรงตามรูปแบบตัวอักษรไทยมาตรฐาน ซึ่งมีกำหนดไว้ ๒ รูปแบบที่สำคัญ ได้แก่ ตัวอักษรประเภทหัวกลม และ ตัวอักษรประเภทหัวเหลี่ยม
ความสำคัญของการคัดลายมือ
ลายมือเป็นเครื่องมือถ่ายทอดความรู้ ความคิด การบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ที่ผู้เขียนต้องการถ่ายทอด ลายมือที่เขียนไม่ชัดเจนอาจทำให้ผู้อ่านเข้าใจคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้เขียน หรือนักเรียนเขียนตอบ ข้อสอบแต่กรรมการอ่านไม่ออกทั้งๆ ที่นักเรียนมีความรู้และความคิดดีก็ไม่เกิดประโยชน์ เมื่ออ่านไม่ออกทำให้สื่อความไม่เข้าใจก็ย่อมไม่ได้รับคะแนน
แนวทางปฏิบัติการคัดลายมือ
ทักษะการคัดลายมือสามารถฝึกฝนและพัฒนาได้ ถ้าผู้คัดลายมือได้รับการแก้ไขและฝึกฝนอย่างถูกวิธีเป็นประจำเสมอ การคัดลายมือที่ถูกวิธีนั้นมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
๑. การนั่ง ให้นั่งตัวตรง ผู้เขียนต้องนั่งหันหน้าเข้าหาโต๊ะ วางกระดาษตรงหน้าผู้เขียน เขียนด้วยมือขวา ส่วนมือซ้ายวางบนกระดาษที่จะเขียนเพื่อมิให้กระดาษเลื่อนไปมา ข้อศอกขวาวางบนโต๊ะขณะที่เขียน สายตาห่างจากกระดาษที่เขียนประมาณ ๑ ฟุต
๑.๑ ท่านั่งเขียน
- นั่งหันหน้าเข้าหาโต๊ะ หลังตรง ก้มหน้าลงเล็กน้อย ให้ห่างจากกระดาษประมาณ ๑ ฟุต และอย่าให้อกชิดโต๊ะ ถ้านั่งเขียนเอียงจะทำให้กระดูกคด
- วางแขนทั้งสองข้างไว้บนโต๊ะ ประมาณ ๓ ใน ๔ ของความยาวระหว่างศอกกับข้อมือ แขนข้างที่ไม่ได้ใช้เขียนอาจจะวางอยู่บนโต๊ะได้เต็มที่โดยให้ฝ่ามือคว่ำลงยึดกระดาษไว้ หากปล่อยแขนที่ไม่ได้ใช้เขียนไว้ข้างตัวจะปวดไหล่และทำให้กระดูกคด
- ข้อศอกไม่กางออก หรือแนบตัวมากเกินไปวางฝ่าเท้าทั้งสองราบลงบนพื้น อย่าไขว้หรือบิดตะแคงเด็กที่เรียนเขียน ควรได้รับการฝึกให้มีท่าทางที่นั่งเขียนอย่างถูกต้องเพราะจากผลวิจัยของประเทิน มหาขันธ์ ยืนยันว่า ท่าทางที่นั่งเขียน มีผลต่อความสามารถในการเขียนของเด็ก กล่าวคือ เด็กที่นั่งเขียนถูกต้อง จะมีความสามารถในการเขียนดีกว่าเด็กที่นั่งเขียนไม่ถูกต้อง
๒. จับดินสอหรือปากกาให้ถูก โดยดินสอหรือปากกาจะอยู่ที่นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้และนิ้วกลาง ส่วนนิ้วนางกับนิ้วก้อยงอไว้ในฝ่ามือ ในขณะที่เขียนอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการเขียน คือแขน มือและนิ้วมือจะต้องเคลื่อนไหวให้สัมพันธ์กัน
๓. การเขียนตัวอักษรให้เขียนให้ถูกส่วน ตัวอักษรตั้งตรง การเขียนพยัญชนะไทยทุกตัวต้องเริ่มเขียนหัวก่อน ซึ่งต้องไม่บอด ยกเว้นตัว ก และ ธ ซึ่งไม่มีหัว เว้นช่องไฟและวรรคตอนให้พองามและวางเครื่องหมายต่างๆ ให้ถูกต้องตามตำแหน่ง
๔. รูปแบของตัวอักษร ควรเป็นรูปแบบเดียวกันในแต่ละครั้งที่เขียน คือแบบกลมหรือแบบเหลี่ยม
๕. ระยะห่างของตัวอักษร (ช่องไฟ) ต้องเว้นให้เท่ากันอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ลายมือสวยงามและเป็นระเบียบ
๖. การเว้นวรรค ต้องได้ขนาดแน่นอน เช่น วรรคขนาด ๒ ช่องตัวอักษร หรือ ๔ ช่องตัวอักษร ปฏิบัติเหมือนกันทุกตอน
รูปแบบตัวอักษร
๑. ประเภทตัวกลม คืออักษรที่มีลักษณะกลมมน เรียกตามโครงสร้างของตัวอักษรว่าหัวกลมมน ได้แก่ แบบอักษรของกระทรวงศึกษาธิการ แบบอักษรขุนสัมฤทธิ์วรรณการ แบบอักษรของราชบัณฑิตยสถาน บางแบบตัวอักษรเป็นเหลี่ยมแต่หัวกลม ได้แก่ รูปแบบตัวอักษรของภาควิชาประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
๒. ประเภทหัวเหลี่ยม หัวของตัวอักษรจะมีลักษณะเหลี่ยม เรียกว่า อักษรแบบหัวบัวหรือหัวอาลักษณ์ ส่วนตัวอักษรก็จะเป็นตัวเหลี่ยมเช่นกัน ตัวอาลักษณ์เป็นแบบอักษรของแผนกอาลักษณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ส่วนมากจะใช้ในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์เกี่ยวกับราชการหรือในเอกสารพิเศษอื่นๆ เช่น ใบประกาศเกียรติคุณ ใบปริญญา
ใบประกาศนียบัตร เป็นต้น
ลักษณะการคัดลายมือ
การคัดลายมือมี ๓ ลักษณะ คือ
๑. การคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด ควรฝึกคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด เนื่องจากเป็นช่วงที่กล้ามเนื้อมือและการประสานระหว่างตากับมือยังพัฒนาไม่เต็มที่
๒. การคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด จะมีการประสานระหว่างกล้ามเนื้อมือและตาเพิ่มมากขึ้น จึงควรฝึกคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด แต่ขณะเดียวกันก็ยังต้องฝึกคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดด้วย
๓. การคัดลายมือหวัดแกมบรรจง เป็นการคัดลายมือแบบหวัดแต่ให้อ่านออก การเขียนลายมือหวัดแกมบรรจงเป็นการเขียนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งผู้เขียนจะต้องเขียนให้อ่านง่าย มีช่องไฟ เว้นวรรคตอนถูกต้อง และเขียนด้วยลายมือที่สวยงาม ควรหัดคัดลายมือลายมือหวัดแกมบรรจง โดยคัดให้รวดเร็ว สวยงาม ถูกต้อง และน่าอ่าน โดยมีการฝึกคัดลายมือ ตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัดเป็นครั้งคราว
ลายมือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเรียน เพราะลายมือที่สวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อยจะทำให้งานเขียนน่าอ่าน สะอาดตา นอกจากนี้ลายมือยังเป็นเครื่องมือบ่งชี้ให้เห็นถึงอุปนิสัยของผู้เขียน หากผู้เขียนมีลายมือที่เรียบร้อยงดงามย่อมแสดงให้เห็นว่าเป็นบุคคลที่มีระเบียบวินัยในตนเอง ใจเย็น อดทน สุขุมและมีความรอบคอบ หากผู้เขียนมีลายมือที่ไม่เรียบร้อยสวยงาม ย่อมบ่งชี้ให้เห็นถึงอุปนิสัยส่วนตัวที่ตรงข้ามกับผู้มีลายมือดี การฝึกฝนทักษะการคัดลายมือให้เรียบร้อยสวยงามจะทำให้สามารถเขียนสื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังจะได้รับความเชื่อถือจากบุคคลโดยทั่วไป