ผู้ป่วยโรคกระเพาะ เมื่อดื่มกาแฟ จะทำให้แสบ กระเพาะมากขึ้น

ผู้ป่วยโรคกระเพาะนั้นจะต้องพิถีพิถันในการเลือกรับประทานอาหารมากเป็นพิเศษ เพราะอาหารบางชนิดอาจระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและทำให้อาการป่วยแย่ลง จนทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องอืด แสบร้อนกลางอก หรืออาหารไม่ย่อยตามมา ในขณะเดียวกัน การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะกับสุขภาพของตนเองอาจช่วยควบคุมอาการของโรคกระเพาะ และทำให้อาการป่วยทุเลาลงได้อีกด้วย วันนี้เรามีข้อมูลที่เกี่ยวกับกาแฟ สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะแล้วชอบดื่มกาแฟ ควรงดดื่มกาแฟ เพราะจะทำให้ปวดแสบกระเพาะมากขึ้น พร้อมแนะนำคนอ้วนควรดื่มแก้วเล็กปริมาณน้อย หรือกาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาล เพื่อลดความเสี่ยงอ้วนลงพุง

ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ

ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน ในหนึ่งวันไม่ควรรับสารคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายเกิน 200 มิลลิกรัม เมื่อเทียบต่อแก้วไม่ควรดื่มเกินวันละ 3 แก้วในปริมาณดังกล่าวกำลังพอเหมาะสำหรับการกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว แต่ถ้ามากกว่านี้จะทำให้เกิดมือสั่น ใจสั่น หงุดหงิด และกระวนกระวาย ผลกระทบต่อร่างกายเมื่อได้รับสารคาเฟอีน อาทิ ผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ถ้าได้รับในปริมาณพอควรจะไปกระตุ้นประสาทให้ตื่นตัว มีผลทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ตาสว่าง หายง่วง แต่ถ้ารับในปริมาณมากจะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ นอนไม่หลับ กระวนกระวาย หงุดหงิด

ในระบบทางเดินอาหารจะช่วยให้มีการหลั่งน้ำย่อยและกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้น ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น แต่ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ ควรงดเพราะจะทำให้ปวดแสบกระเพาะมากขึ้น ผลต่อระบบการไหลเวียนของโลหิตคือหากดื่มกาแฟ 2 ถ้วยจะทำให้ความดันโลหิตสูง แต่ถ้าดื่มมากๆมีผลทำให้หัวใจเต้นแรงและเร็วขึ้น และอาจทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงได้ อีกทั้งยังส่งผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งจะเพิ่มการขับปัสสาวะ เมื่อดื่มกาแฟไปแล้วประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง คาเฟอีนจะออกฤทธิ์และภายในระยะเวลา 4 ชั่วโมง สารคาเฟอีนกว่าครึ่งจะถูกขับออกจากร่างกายพร้อมกับปัสสาวะ คำเตือน!! ผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะอาหารควรงดดื่มกาแฟ