ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา
ประเด็นท้าทายเรื่อง การพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้วยนวัตกรรม Means Model โรงเรียนสตรีศึกษา
สภาพปัญหาการบริหารจัดการสถานศึกษาและคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา
ในยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การใช้เทคโนโลยีในการจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรียนเป็นส่วนสำคัญมาก เพราะจะได้รับรู้ข้อมูลได้รวดเร็วโดยเฉพะโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่ มีจำนวนนักเรียน มาก นวัตกรรมจะทำให้นักเรียนทุกคนได้รับการดูแลและช่วยเหลือได้ทุกคนทุกที่ทุกเวลาด้วยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดนโยบายในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้ พ้นภัยยาเสพติดโดยมีเป้าหมาย เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนในทุกระดับ ให้มีสมรรถนะและคุณลักษณะที่พึง ประสงค์ ตามเจตนารมณ์และความมุ่งหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และเพื่อให้การดำเนินงานไปเป็นตามนโยบาย โรงเรียนสตรีศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด กำหนดนโยบายพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนทุก สายชั้น มีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีความเข้มแข็ง มียุทธศาสตร์ มาตรการและจุดเน้นในการพัฒนา คุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนทั้งระบบ อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสนับสนุนส่งเสริมให้สถานศึกษาและให้ บุคลากรภายในโรงเรียน มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน เช่น การออกเยี่ยมบ้าน นักเรียน การจัดประชุมผู้ปกครองชั้นเรียน การเสริมสร้างทักษะชีวิต การพัฒนาวินัยเชิงบวก และมีจัดตั้ง กองทุนช่วยเหลือเพื่อนครู ผู้ปกครอง นักเรียน โดยผ่านกระบวนการกิจกรรมภายในสถานศึกษาอีกด้วยปัจจุบันการพัฒนานักเรียนให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรม และมีวิถีชีวิตที่เป็นสุขตามที่สังคมมุ่งหวัง โดยผ่านกระบวนการทางการศึกษานั้น นอกจาก จะดำเนินการด้วยการส่งเสริมสนับสนุนนักเรียนแล้ว การป้องกันและการช่วยเหลือแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดกับ นักเรียนก็เป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกมิติ ทั้งด้านการสื่อสาร เทคโนโลยี ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการระบาดของยาเสพติด ปัญหาครอบครัว ปัญหาการแข่งขันทุกรูปแบบ ก่อให้เกิดความทุกข์ความวิตกกังวลและความเครียดขึ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผลเสียต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกาย ของทุกคน จนนำไปสู่การเกิดปัญหาและสภาวะวิกฤติทางสังคม
จากผลการดำเนินงานในทุกปีงบประมาณ (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565-2567 ) ได้วางแผน กำหนด นโยบายใน การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและลดปัญหาเสี่ยง ที่เป็นเหตุแห่งปัญหายาเสพติดและกำหนดแนวทาง ดำเนินงาน คือ 1. การแก้ปัญหานักเรียนขาดประจำ และ 2. จัดกิจกรรมป้องกันและ เฝ้าระวังยาเสพติด ในสถานศึกษา โดยกำหนดภารกิจงานไว้อย่างชัดเจน ได้แก่ การออกติดตามเด็กขาดประจำ การออกติดตาม นักเรียนหลบเรียนและการเฝ้าระวังการออกไปเล่นน้ำ และดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีพฤติกรรมกลุ่มก่อนเสี่ยง พฤติกรรมกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มเสพอย่างต่อเนื่อง / เสริมสร้างระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิภาพโดย เน้นเด็กกลุ่มที่ต้องการการคุ้มครองและช่วยเหลือเป็นพิเศษโรงเรียนจึงได้คิดหาวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ดังนั้น โรงเรียนสตรีศึกษา ได้ตระหนักถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียน ให้มี ความสมบูรณ์อย่างเป็นองค์รวม ทั้งด้านด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนให้มีทักษะในการดำรงชีวิต จึงจำเป็นที่โรงเรียนต้องรับผิดชอบในการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตนักเรียน ทุกกลุ่มได้รับการดูแลช่วยเหลือ ป้องกัน คุ้มครอง แก้ไขและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้วยนวัตกรรม Means Model ในการมาประยุกต์ใช้และและพัฒนาให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน
วิธีดำเนินการ
1.1) การวางแผนจัดทำระบบ แผนงาน/โครงสร้าง และผู้รับผิดชอบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
1.2) การสร้างความรู้ความเข้าใจด้วยการประชุมชี้แจงให้กับผู้บริหารสถานศึกษาและครู ผู้รับผิดชอบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
1.3) การดำเนินการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามกระบวนการ 5 ขั้นตอน ได้แก่ การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล การคัดกรองนักเรียน การป้องกันและแก้ไขปัญหา การส่งเสริมพัฒนานักเรียน และการส่งต่อ
1.4) การให้การช่วยเหลือนักเรียนที่พบปัญหา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนักเรียนเชิงบวก และ การเสริมสร้างพัฒนานักเรียน
1.5) การนิเทศ ติดตาม ประเมินผล ให้การช่วยเหลือนักเรียนที่พบปัญหาและปรับเปลี่ยน พฤติกรรมนักเรียนเชิงบวก การเสริมสร้างพัฒนานักเรียน และสรุปรายงานผล
Flow Chart การปฏิบัติงาน
การพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้วยนวัตกรรม Means Model โรงเรียนสตรีศึกษา
โดยกำหนดบทบาทหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องในระดับสถานศึกษา ซึ่งมีการดำเนินงาน 5 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ 1 M (Management) การวางแผนจัดทำระบบ แผนงาน/โครงสร้าง และผู้รับผิดชอบระบบ ดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยมีกรอบแนวคิดดังนี้
1. ศึกษาแผนการศึกษาแห่งชาติ
2. ศึกษามาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
3. ศึกษาแนวทางการดำเนินงานการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
4.ศึกษาเอกสารและงานวิจัยเกี่ยวกับการการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ได้แก่ มาตรฐานวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา คุณธรรมจริยธรรมของผู้บริหาร สถานศึกษา มาตรฐานวิชาชีพครู คุณธรรมจริยธรรมของครู จรรยาบรรณวิชาชีพ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ วิสัยทัศน์พันธกิจของโรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ ขั้นตอนของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน
5. คณะครูรับผิดชอบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนร่วมกันการวางแผนจัดทำระบบ แผนงาน/โครงสร้าง
ขั้นที่ 2 E (Educate) การสร้างความรู้ความเข้าใจด้วยการประชุมชี้แจงให้กับผู้บริหาร สถานศึกษาและครูผู้รับผิดชอบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยมีกรอบแนวคิดดังนี้
โรงเรียนโรงเรียนสตรีศึกษาได้มีการประชุมกันระหว่างผู้บริหาร คณะครูนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อสร้างความตระหนักและความเข้าใจเรื่องขั้นตอนของระบบการ ดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้วยการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้วยนวัตกรรม Means Model โรงเรียนสตรีศึกษา โดยดำเนินการให้ทุกคนมีส่วนร่วม ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมปฏิบัติ และการสร้าง ความเข้าใจโดยการบันทึกข้อเสนอแนะในวาระการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา การประชุมผู้ปกครอง นักเรียน การให้โอวาทหน้าเสาธงตอนเช้า และการจัดการความรู้โดยใช้เทคนิคของทุกฝ่ายที่มีวิธีปฏิบัติที่เป็น เลิศ นำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานเพื่อสร้างความก้าวหน้าแก่โรงเรียน และการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือ นักเรียน ต่อไป
ขั้นที่ 3 A (Action) การดำเนินการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามกระบวนการ 5 ขั้นตอน ดังนี้
1. การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
ด้วยความแตกต่างของนักเรียนแต่ละคนที่มีพื้นฐานความเป็นมาของชีวิที่ไม่ เหมือนกัน หล่อหลอมให้เกิดพฤติกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งด้านบวกและด้านลบ ดังนั้นการรู้จักข้อมูลที่ จำเป็นเกี่ยวกับตัวนักเรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้ครูที่ปรึกษามีความเข้าใจนักเรียนมากขึ้น สามารถนํา ข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อการคัดกรองนักเรียน เป็นประโยชน์ในการส่งเสริม การป้องกันและแก้ไขปัญหาของ นักเรียนได้อย่างถูกทาง เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์มิใช่การใช้ความรู้สึกหรือการคาดเดาโดยเฉพาะในการแก้ไข ปัญหานักเรียน ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดข้อผิดพลาดต่อการช่วยเหลือนักเรียนหรือเกิดได้น้อยที่สุด
2. การคัดกรองนักเรียน
การคัดกรองนักเรียน เป็นการพิจารณาข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวนักเรียน เพื่อการจัดกลุ่ม นักเรียน อาจนิยามกลุ่มได้ 4 กลุ่ม คือ
2.1 กลุ่มปกติ คือ นักเรียนที่ได้รับการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ตามเกณฑ์การคัดกรอง ของโรงเรียนแล้ว อยู่ในเกณฑ์ของกลุ่มปกติ ซึ่งควรได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันและการส่งเสริมพัฒนา
2.2 กลุ่มเสี่ยง คือ นักเรียนที่จัดอยู่ในเกณฑ์ของกลุ่มเสียงตามเกณฑ์การคัดกรอง ของโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนต้องช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาตามแต่กรณี
2.3 กลุ่มมีปัญหา คือ นักเรียนที่จัดอยู่ในเกณฑ์ของกลุ่มมีปัญหาตามเกณฑ์การคัด กรองของโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนต้องช่วยเหลือและแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน
2.4 กลุ่มพิเศษ คือ นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ มีความเป็นอัจฉริยะ แสดงออก ซึ่งความสามารถอันโดดเด่นด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้าน อย่างเป็นที่ประจักษ์เมื่อเทียบกับผู้มีอายุในระดับ เดียวกัน ภายใต้สภาพแวดล้อมเดียวกัน ซึ่งโรงเรียนต้องให้การส่งเสริมนักเรียนได้พัฒนาศักยภาพความสามารถพิเศษนั้น จนถึงขั้นสูงสุด
การจัดกลุ่มนักเรียนนี้ มีประโยชน์ต่อครูที่ปรึกษาในการหาวิธีการเพื่อดูแลช่วยเหลือ นักเรียนได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาให้ตรงกับปัญหาของนักเรียนยิ่งขึ้น และมีความรวดเร็วใน การแก้ไขปัญหาเพราะมีข้อมูลของนักเรียนในด้านต่างๆ และหากครูที่ปรึกษาไม่ได้คัดกรองนักเรียนเพื่อการจัด กลุ่มแล้วความชัดเจนในเป้าหมายเพื่อการแก้ไขปัญหาของนักเรียนจะมีน้อยลง มีผลต่อความรวดเร็วในการ ช่วยเหลือ ซึ่งบางกรณีจำเป็นต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน
3. การป้องกันและแก้ไขปัญหา
ในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ครูควรให้ความเอาใจใส่กับนักเรียนทุกคนอย่างเท่า เทียมกัน แต่สำหรับนักเรียนกลุ่มเสี่ยง/มีปัญหานั้น จําเป็นอย่างมากที่ต้องให้ความดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด และหาวิธีการช่วยเหลือ ทั้งการป้องกันและการแก้ไขปัญหา โดยไม่ปล่อยปละละเลยนักเรียนจนกลายเป็น ปัญหาของสังคม การสร้างภูมิคุ้มกัน การป้องกันและแก้ไขปัญหาของนักเรียน จึงเป็นภาระงานที่ยิ่งใหญ่และมี คุณค่าอย่างมากในการพัฒนาให้นักเรียนเติบโตเป็นบุคคลที่มีคุณภาพของสังคมต่อไปการป้องกันและการแก้ไขปัญหาให้กับนักเรียนนั้นมีหลายเทคนิค วิธีการ แต่สิ่งที่ครู ประจำชั้นหรือครูที่ปรึกษาจำเป็นต้องดำเนินการมีอย่างน้อย 2 ประการ คือ
3.1 การให้คำปรึกษาเบื้องต้น
3.2 การจัดกิจกรรมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา
4. การพัฒนาและส่งเสริมผู้เรียน
การพัฒนาและส่งเสริมนักเรียนเป็นการสนับสนุนให้นักเรียนทุกคน ไม่ว่าจะเป็น นักเรียนกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง/มีปัญหา กลุ่มความสามารถพิเศษ ให้มีคุณภาพมากขึ้น ได้พัฒนาเต็มศักยภาพ มี ความภาคภูมิใจในตนเองในด้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยป้องกันมีให้นักเรียนที่อยู่ในกลุ่มปกติและกลุ่มพิเศษกลายเป็น นักเรียนกลุ่มเสี่ยงหรือมีปัญหา และเป็นการช่วยให้นักเรียนกลุ่มเสี่ยง/มีปัญหากลับมาเป็นนักเรียนกลุ่มปกติ และมีคุณภาพตามมาตรฐานที่โรงเรียนหรือชุมชนคาดหวังต่อไปการส่งเสริมพัฒนานักเรียนมีหลายวิธีที่โรงเรียนสามารถพิจารณาดำเนินการได้ แต่มี กิจกรรมหลักสำคัญที่โรงเรียนต้องดำเนินการ คือ
4.1 การจัดกิจกรรมโฮมรูม
4.2 การเยี่ยมบ้าน
4.3 การจัดประชุมผู้ปกครองชั้นเรียน (Classroom Meeting)
4.4 การจัดกิจกรรมเสริมสร้างทักษะการดำรงชีวิตและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
4.5 การส่งเสริมทักษะด้านกีฬาเพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
5. การส่งต่อ
ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาของนักเรียนโดยครูที่ปรึกษา อาจมีกรณีที่บางปัญหามีความ ยากต่อการช่วยเหลือหรือช่วยเหลือแล้วนักเรียนมีพฤติกรรมไม่ดีขึ้นก็ควรดำเนินการส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญ เฉพาะด้านต่อไป เพื่อให้ปัญหาของนักเรียนได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกทางและรวดเร็วขึ้น หากปล่อยให้เป็น
บทบาทหน้าที่ของครูที่ปรึกษาหรือครูคนใดคนหนึ่งเพียงลำพัง ความยุ่งยากของปัญหาอาจมีมากขึ้น หรือ ลุกลามกลายเป็นปัญหา ใหญ่โตจนยากต่อการแก้ไข ซึ่งครูประจำชั้น/ครูที่ปรึกษาสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่กระบวนการรู้จักนักเรียน เป็นรายบุคคล หรือการคัดกรองนักเรียน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาของนักเรียนในแต่ละกรณีการส่งต่อแบ่งเป็น 2 แบบ คือ
1. การส่งต่อภายใน ครูที่ปรึกษาส่งต่อไปยังครูที่สามารถให้การช่วยเหลือนักเรียนได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่ลักษณะปัญหา เช่น ส่งต่อครูแนะแนว ครูพยาบาล ครูประจำวิชา หรือฝ่ายปกครอง
2. การส่งต่อภายนอก ครูแนะแนวหรือฝ่ายปกครองเป็นผู้ดำเนินการส่งต่อไปยัง ผู้เชี่ยวชาญภายนอกหากพิจารณาเห็นว่าเป็นกรณีปัญหาที่มีความยากเกินกว่าศักยภาพของโรงเรียนจะดูแล ช่วยเหลือได้
ขั้นที่ 4 N (Need) การให้การช่วยเหลือนักเรียนที่พบปัญหา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นักเรียนเชิงบวกและการเสริมสร้างพัฒนานักเรียนโรงเรียนได้มีการขับเคลื่อนระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้วยการให้การช่วยเหลือนักเรียนที่ พบปัญหา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนักเรียนเชิงบวกและการเสริมสร้างพัฒนานักเรียน การดำเนินการพัฒนา ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามกระบวนการ 5 ขั้นตอน ผนึกกำลังของผู้บริหาร ครู และนักเรียนภาคี เครือข่ายลงมือปฏิบัติดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยเน้นการรวมพลังของผู้บริหารโรงเรียน ครู บุคลากร นักเรียน รวมทั้ง ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา และชุมชนท้องถิ่น เพื่อลดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ในโรงเรียน และเพิ่มพฤติกรรมที่พึงประสงค์ร่วมกันขึ้น นำรูปแบบไปใช้ในตั้งแต่ปีการศึกษา 2567 ในการพัฒนาและ ขับเคลื่อนระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน การสร้างวินัยเชิงบวกให้กับนักเรียน
ขั้นที่ 5 S (Supervision) การนิเทศ ติดตาม ประเมินผล ให้การช่วยเหลือนักเรียนที่พบ ปัญหาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนักเรียนเชิงบวก การเสริมสร้างพัฒนานักเรียน และสรุปรายงานผล
การนิเทศ ติดตาม ประเมินผล ให้การช่วยเหลือนักเรียนที่พบปัญหาและปรับเปลี่ยน พฤติกรรมนักเรียนเชิงบวก การเสริมสร้างพัฒนานักเรียน ด้วยการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้วย นวัตกรรม Means Model ของโรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการการ ดำเนินการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามกระบวนการ 5 ขั้นตอน แล้วร่วมกันเสริมแรงเสริมความคิด กำหนดขอบเขตในการทำกิจกรรมหรือกำหนดเป็นโครงการพัฒนาผู้เรียน สรุปผลการดำเนินงานและวางแผน พัฒนาแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
1) ร้อยละของนักเรียนเรียนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์และสมรรถนะตามที่กำหนด
2) ร้อยละนักเรียนของโรงเรียนสตรีศึกษา ได้รับการช่วยเหลือ ตามแนวทาง ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
3.2 เชิงคุณภาพ
1) การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษาเป็นไปตามหลักสูตร
2) การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นไปอย่างระบบและมีประสิทธิภาพ