พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของดินแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แผนที่อาณาจักรโบราณในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อาณาจักรพุกาม/ อาณาจักรศรีเกษตร
อาณาจักรฟูนัน/ อาณาจักรเจนละ/ อาณาจักรเขมร
อาณาจักรสิงหัสส่าหรี / อาณาจักรมัชปาหิต
อาณาจักรนามเวียต/ อาณาจักรจัมปา
อาณาจักรล้านช้าง
อาณาจักรทวราวดี
อาณาจักรมะละกา
อาณาจักรศรีวิชัย
1 อาณาจักรพุกาม ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๕ - ๑๙
พุกามเป็นอาณาจักรและราชวงศ์แห่งแรกในประวัติศาสตร์พม่า มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองพุกามในปัจจุบัน เดิมมีชื่อว่า "พยูคาม"
ตั้งอยู่ลุ่มน้ำอิรวดี ซึ่งเป็นที่อาศัยของคนหลายเผ่า เช่น พวกมอญ พม่า พยูหรือปยู พวกพยูสามารถสถาปนาอำนาจได้ก่อน
ในรัชสมัยพระเจ้าจานสิตา กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์พุกาม เป็นสมัยที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด
พุกามเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดทางด้านศิลปวิทยาการในสมัยพระเจ้าอลองสิธู ใน พ.ศ. 1687 พระองค์ได้โปรดให้สร้างเจดีย์ชื่อ "ตะเบียงนิว" (แปลว่า เจดีย์แห่งความรู้) ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพุกาม
สร้างเป็นอาณาจักรศรีเกษตร โดยรับอารยธรรมจากอินเดีย อาณาจักรพุกามเสื่อมสลายลงเพราะการรุกรานของมองโกล และมอญตั้งตัวเป็นเอกราช
อาณาจักรศรีเกษตรตั้งขึ้นเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๖ มีศูนย์กลางการปกครองที่เมืองแปรในประเทศพม่า
2 อาณาจักรฟูนัน ประมาณพุทธศตวรรษที่ 6 - 12
มีเมืองหลวงชื่อ วาธปุระอยู่ในกัมพูชาในปัจจุบัน สิ้นสุดลงเนื่องจากถูกอาณาจักรเจนละ ยึดครองในปลายพุทธศตวรรษที่ 11 ด้วยเหตุนี้เขมรจึงได้รับอารยธรรมฟูนัน ซึ่งรับมาจากอินเดียอีกทอด
อาณาจักรเจนละ ประมารณพุทธศตวรรษที่ 11 - 16
เมื่อแรกก่อตั้งสันนิษฐานว่าอยู่บริเวณตะวันออกของทะเลสาบเขมร และขึ้นต่อฟูนัน
เมืองสำคัญคือ "นครเชษฐาปุระ" แต่หลักฐานของจีนกล่าวว่า สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 7 กษัตริย์ของเจนละมาประทับที่เมืองอิสานปุระ เมื่อครอบครองฟูนันแล้วชาวฟูนันอยู่ปะปนกับชาวเจนละ เจนละจึงรับวัฒนธรรมฟูนันไว้
ต่อมารัฐเจนละอ่อนแอลงจนแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ เจนละบก (Upper Chenla) และเจนละน้ำ (Lower Chenla) เมื่อหลังค.ศ.706 เล็กน้อย
ต่อมาคริสต์ศตวรรษที่ 8 เจนละตอนล่างถูกโจมตี โดยราชวงศ์ไศเลนทร์(Sailendras) แห่งเกาะชวา และเจนละทั้งหมดตกเป็นเมืองขึ้นของไศเลนทร์ระยะหนึ่ง จน ค.ศ.802 พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 (ค.ศ. 802 - 850) สามารถรวบรวมเจนละทั้งสองเข้าด้วยกัน
อาณาจักรเขมร ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๔-๒๐
มีศูนย์กลางการปกครองที่เมืองพระนครประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน
ปลายพุทธศตวรรษที่ 13 อาณาจักรชวา ตีได้เจนละน้ำและรุกรานจัมปากับตังเกี๋ย ทำให้อาณาจักรเจนละตกเป็นประเทศราชของอาณาจักรชวา พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ยกทัพมากู้เอกราชให้เจนละ และทรงรวมเจนละบกกับเจนละน้ำเข้าด้วยกัน แล้วประกาศตั้งอาณาจักรเขมร
พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ทรงรับความเชื่อในเรื่องการบูชาพระศิวะ พร้อมกับประกาศตนเป็นกษัตริย์แห่งภูเขา แสดงถึงความยิ่งใหญ่และเป็นอิสระ ดังนั้นกษัตริย์เขมรทุกพระองค์จะต้องสร้างภูเขาวิหารขึ้นในเขมร
ศาสนสถานหรือวิหารภูเขาที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์เขมร คือ นครวัด และปราสาทบายนที่นครธม (พระนครหลวง) ซึ่งเป็นศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบบายน ผสมแนวความเชื่อในพระพุทธศาสนานิกายมหายานเข้าไปด้วย
3 รัฐแถบริมทะเล
อาณาจักรมัชปาหิต ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๘ - ๒๐
เป็นอาณาจักรที่มีความเจริญต่อจากอาณาจักรศรีวิชัย มีอาณาเขตเท่ากับประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียในปัจจุบันรวมกัน
กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งมัชปาหิต คือ ฮะยัม วูรุค (Hayam Wuruk) ครองราชย์ ในช่วง ค.ศ. 1350 - 1389
เริ่มเสื่อมเนื่องจากอยุธยาได้แผ่ขยายอำนาจ
อาณาจักรสิงหัสส่าหรี
เกิดขึ้นเนื่องมาจากการแย่งชิงสมบัติในชวา
มีการผสมผสานของวัฒนธรรมฮินดูและชวา
เป็นอาณาจักรสุดท้ายในหมู่เกาะอินโดนีเซียที่มีความเจริญทางวัฒนธรรมแบบฮินดูชวา
4 อาณาจักรจัมปา ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๐-๒๑
มีศูนย์กลางการปกครองสมัยแรกบริเวณเมืองสิงหปุระต่อมาย้ายมาศูนย์กลางลงมาทางตอนใต้ที่เมืองวิชัยนคร
เป็นรากฐานของรัฐในลุ่มแม่น้ำแดง เมืองศูนย์กลางของจัมปา คือ เมืองเว้
จัมปาเคยเป็นเมืองขึ้นของจีน แม้ตกเป็นเมืองขึ้นของจีนอยู่นานแต่ไม่ได้รับเอาวัฒนธรรมของจีนมาเท่าที่ควร แต่กลับรับเอาอารยธรรมอินเดีย
อาณาจักรนามเวียด
มีศูนย์กลางอยู่ที่ลุ่มน้ำแดง เป็นถิ่นที่อยู่ของพวกโล
พวกเวียดตกอยู่ภายใต้อำนาจของจีน และได้รับเอกราชอย่างแท้จริง เมื่อราชวงศ์ถังของจีนเริ่มเสื่อมอำนาจ
เมื่อได้รับเอกราชได้เปลี่ยนชื่อเป็น อาณาจักรไดเวียด
ต่อมาทำสงครามกับอาณาจักรจามปา
พุทธศตวรรษที่ ๑๙ พระองค์ทรงตั้งถังหลงหรือฮานอยเป็นเมืองหลวง จึงทำให้เวียดนามมีอาณาเขตขยายทางใต้มาถึงปลายแหลมญวน
พุทธศตวรรษที่ ๒๓ ได้เกิดกบฎไกเซิน องเชียงสือกษัตริย์ญวนหนีมาไทย แล้วหนีกลับไปปราบกบฎไกเซินจนสำเร็จใน พ.ศ.๒๓๔๕
พ.ศ. ๒๔๖๐ ฝรั่งเศสจึงได้ยกกำลังเข้ายึดครองเวียดนามไว้ทั้งหมด ต่อมาพวกเวียดมินห์ได้ทำการกู้ชาติจากฝรั่งเศส ได้รับเอกราชในพ.ศ. ๒๔๙๗ (ค.ศ. 1954) ทำให้มีการแบ่งเวียดนามออกเป็นเวียดนามเหนือ ปกครองแบบคอมมิวนิสต์ และเวียดนามใต้ ปกครองแบบประชาธิปไตย
เวียดนามเหนือ โดยการนำของโฮจิมินห์ พยายามใช้กำลังยึดครองเวียดนามใต้
เวียดนามเหนือเป็นฝ่ายชนะ เมื่อ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๘ ( ค.ศ. 1975) จากนั้นเวียดนามจึงรวมประเทศเข้าด้วยกันสำเร็จ
5 อาณาจักรล้านช้างหรือศรีสัตนาคนหุต
เจ้าฟ้างุ้ม ได้รวบรวมรัฐอิสระของพวกลาวเป็นรัฐเดียวกัน ในพุทธศตวรรษที่ 19 มีชื่อว่า อาณาจักรล้านช้างหรือศรีสัตนาคนหุต มีเมืองหลวงอยู่ที่หลวงพระบาง
รับวัฒนธรรมพระพุทธศาสนาจากอาณาจักรเขมรและล้านนา
6 อาณาจักรทวราวดี พุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๔
สันนิษฐานว่ามีอาณาเขตบริวตะวันตกของลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบ่างบริเวณเมืองนครชัยศรี
เป็นรากฐานทางวัฒนธรรมของประเทศไทย
การปกครองเป็นระบบเครือญาติที่เป็นพันธมิตร ตามลักษณะการปกครองแบบนครรัฐ
ศิลปกรรมประติมากรรมระยะแรกเลียนแบบศิลปะอินเดีย ต่อมาจึงดัดแปลงเป็นฝีมือช่างพื้นเมือง ส่วนใหญ่เป็นศิลาจำหลักและลายปูนปั้น
ประติมากรรมสมัยนี้ได้รับอิทธิพลอินเดียสมัยคุปตะ ซึ่งเจริญแพร่หลายทางภาคกลางและตะวันตกของอินเดียระหว่างพุทธศตวรรษที่ 10-11 จนถึงระหว่างพุทธศตวรรษที่ 12-13 ซึ่งสมัยคุปตะเป็นสมัยที่เจริญสูงสุด เรียกว่า คลาสสิกของอินเดีย
7 อาณาจักรมะละกา
ผู้ก่อตั้งเป็นเชื้อสายกษัตริย์ศรีวิชัย
ส่งบรรณาการให้อยุธยาเพื่อไม่ให้ถูกรุกราน ต่อมาจีนให้การสนับสนุนมะละกา จึงทำให้สามารถขยายอำนาจออกไปได้
เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ
8 อาณาจักรศรีวิชัย ประมาณศตวรรษที่ ๑๓ - ๑๙
ก่อตั้งโดยราชวงศ์ไศเลนทร์
ดินแดนที่รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากอินเดีย โดยเฉพาะ พระพุทธศาสนา
พุทธศาสนาแบบมหายานเจริญรุ่งเรืองในอาณาจักรศรีวิชัย หลักฐานจากบันทึกหลวงจีนอี้จิงของจีน
แบบทดสอบ กิจกรรมที่ 2
พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของดินแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้