การทำนาเกลือในปัตตานีมีมายาวนานกว่า 400 ปี เป็นนาเกลือแห่งเดียวบนคาบสมุทรมลายู เกลือถือเป็นสินค้าสำคัญของเมืองปัตตานี เนื่องจากสมัยก่อนมีเรือสำเภาจากต่างประเทศมาทอดสมอที่อ่าวปัตตานีเพื่อรับซื้อเกลือ แม้ว่าเกลือของปัตตานีจะมีราคาที่แพงกว่าเกลือที่อื่น แต่กลับเป็นที่นิยมในต่างประเทศมากกว่าเกลือที่มีราคาถูก อันเนื่องมาจากความเป็นเอกลักษณ์ในด้านรสชาติที่กลมกล่อม เพราะน้ำทะเลที่นำมาทำเกลือมีส่วนผสมของน้ำจืดจากแม่น้ำปัตตานีทำให้เกลือมีรสชาติแตกต่างจากที่อื่น
จากการร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์เกลือหวานของวิสาหกิจชุมชนอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน ที่มีการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มมาตรฐานการผลิตเป็น "เกลือบริโภคเสริมไอโอดีน" และมีการใช้ภูมิปัญญาของชุมชน เพิ่มมูลค่าสินค้าเป็น "เกลือขมิ้นบานา" ผลิตภัณฑ์เกลือเอาผสมขมิ้นสดเพิ่มเติมด้วยสูตรดั้งเดิมจากครัวเรือนใช้สำหรับทาเนื้อปลาสดและทอดจะได้ปลาทอดรสชาติดีไม่เค็มเกินไป หอมขมิ้นและพริกไทย นอกจากนี้ยังมีการต่อยอดผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิว "เกลือบานาสปาขัดผิว" สูตรขมิ้น ที่มากด้วยสรรพคุณ ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำกระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ที่เรียบเนียนขมิ้นช่วยบำรุงและป้องกันการเกิดผดผื่นรักษารอยแผลและลดความมันของผิวได้ ทำให้คนในชุมชนได้มีการรายได้ที่มั่นคง ที่สำคัญเป็นอนุรักษ์อาชีพการทำนาเกลือให้อยู่คู่กับชาวปัตตานีต่อไป
ขั้นตอนการทำนาเกลือ
1. แบ่งนาออกเป็นสามส่วน
2. ปรับสภาพหน้าดินโดยการทำคันนาขึ้นมา
3.ปรับสภาพพื้นท้องนาในนาแปลงที่สามด้วยการใช้ท่อพีวีซีขนาดใหญ่เทปูนซีเมนต์ลงไปเพื่อให้แน่น
4. นำปูนซีเมนต์มาบดกับพื้นดินในท้องนาให้เรียบที่สุดเพื่อสะดวกต่อการเก็บ
5. นาแปลงที่หนึ่งจะเป็นจุดแรกที่สูบน้ำขึ้นมาจากทะเล
6. หลังจากนั้นเมื่อน้ำทะเลตกตะกอน ก็จะปล่อยน้ำทะเลจากแปลงที่หนึ่งเข้าแปลงที่สองเพื่อรอให้น้ำทะเลมีความเข้มข้นโดยอาศัยการสังเกตด้วยตา
7. เมื่อน้ำทะเลมีความเข้มข้นพอ ก็จะปล่อยน้ำทะเลเข้าสู่แปลงที่สามในนาแปลงนี้จะปล่อยให้น้ำทะเลระเหยแห้งตกผลึกจนกลายเป็นเกลือ
การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเกลือของตำบลบานา
ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทำนาเกลือมีความพยายามที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เกลือหวานปัตตานีให้มีคุณภาพ โดยได้ดำเนินการสร้างโรงเรือนที่ถูกต้องตามหลักอนามัยพร้อมทั้งได้ดำเนินการนำสินค้า "เกลือเม็ดตรากังหัน" ที่ผ่านการจดทะเบียนเครื่องหมายคุณภาพของสินค้าเพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในสินค้าจากแบรนด์และวิสาหกิจชุมชนมากยิ่งขึ้น และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทำนาเกลือกำลังพยายามที่จะขอเครื่องหมายรับรองคุณภาพสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดจากเกลือชนิดอื่น ๆ อีกด้วย
ในปัจจุบันนี้นาเกลือใน จังหวัดปัตตานีมีหลงเหลืออยู่เพียงในเขตพื้นที่ตำบล บานาและตำบลตันหยงลุโละเท่านั้น ส่วนในตำบลบางปูซึ่งเคยเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่เคยมีการผลิตเกลืออย่างกว้างขวางเมื่อประมาณ 20 - 30 ปีที่ผ่านมา วันนี้ได้ล้มเลิกหมดแล้ว พื้นที่ในตำบลแห่งนี้ปรากฏให้เห็นร่องรอยของบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำ สัตว์เศรษฐกิจ ที่เข้ามาแพร่หลายในประเทศไทยโดยเฉพาะภาคใต้ ตั้งแต่ปลายทศวรรษ 2520 เป็นต้นมา เนื่องจากเพราะการทำ นาเกลือเป็นอาชีพที่มีรายได้ไม่มากพอต่อชีวิตทางเศรษฐกิจของชาวบ้านในปัจจุบัน และการที่ต้องลงแรงหนัก ๆ ท่ามกลางทางเลือกด้านอาชีพอื่น ๆ ที่มีอยู่หลากหลาย
ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนนิยมทำนาเกลือหวานปัตตานีน้อยลง “การทำนาเกลือเป็นอาชีพที่เหนื่อยมาก ยิ่งเมื่อ ไม่มีเงินทุนที่จะลงทุนด้านเทคโนโลยีมาใช้ในการ ทุ่นแรง ทำให้ชาวบ้านบางส่วนรู้สึกว่าไม่คุ้มเหนื่อย พอมีคนมาติดต่อขอเช่าที่ดินทำบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำ จึงยอมเลิกนาเกลือ เพื่อแลกกับค่าเช่าซึ่งเป็น รายได้ที่ตายตัว ชาวบ้านบางส่วนที่ต้องการทำนาเกลือก็ยังคงมีอยู่ แต่เมื่อพื้นที่ถูกปิดล้อมด้วยบ่อเลี้ยงกุ้ง กุลาดำจึงไม่อาจทำต่อไปได้” ส่วนในตำบลบานา แม้ยังคงมีการทำนาเกลือ ปรากฏให้เห็นอยู่ แต่พื้นที่ก็ลดลงไปจากเดิมมาก นาเกลือมากกว่าครึ่งสูญหายไป บางส่วนถูกถนน ตัดผ่าน ส่งผลให้คลองส่งน้ำเค็มถูกตัดขาด ซึ่งก็ เปรียบเสมือนเส้นเลือดของการทำนาเกลือถูกตัดขาด ไปด้วย เนื่องจากชาวนาไม่สามารถเริ่มต้นขั้นตอนแรก ของกระบวนการผลิตเกลือได้
นาเกลือบางส่วนนั้น กลายสภาพเป็นนาร้าง บางส่วนกลายเป็นหมู่บ้าน จัดสรร ส่งผลให้พื้นที่นาเกลือได้กลายเป็นชุมชนที่อยู่ อาศัย และบางส่วนก็ได้แปรพื้นที่เป็นเขตอุตสาหกรรม ทางวิสาหกิจกลุ่ม นาเกลือบานาจึงได้เกิดการรวมกลุ่มขึ้นเพื่อพัฒนาและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเกลือหวานให้เป็นที่ต้องการแก่คนทั่วไป โดยมีสมาชิกในขณะนี้จำนวน 110 คน รวมทั้งกลุ่มสตรีอีก 10 คน เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านภูมิปัญญา และให้เกลือหวานคงอยู่ต่อไปสู่คนรุ่นหลัง
📌หมุดแผนที่ภูมิปัญญาท้องถิ่น เกลือหวานปัตตานี
🏡ที่ตั้ง : V7QG+VMX ตำบล บานา
อำเภอเมืองปัตตานี ปัตตานี 94000