จำนวน 1 คาบเรียน
เนื้อหาความรู้ที่ควรศึกษา
การนำเสนอโครงงาน เป็นการเผยแพร่หรือสื่อสารผลการทำโครงงานของนักเรียนให้ผู้อื่นเข้าใจเกี่ยวกับภาพรวมของกระบวนการทำงาน ตั้งแต่ แนวคิดในการแก้ปัญหา การแก้ปัญหา รวมทั้ง ผลของการแก้ปัญหา และ แนวทางการปรับปรุงแก้ไข ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การเขียนรายงาน การนำเสนอด้วยโปสเตอร์ การใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการนำเสนอ
ในการเขียนรายงานโครงงาน มีองค์ประกอบที่จำเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนนำ ส่วนเนื้อเรื่อง และส่วนอ้างอิง
ปกนอกและปกในที่ประกอบด้วย ชื่อโครงงาน ชื่อผู้จัดทำ ชื่อโรงเรียน ระดับชั้น (ที่กำลังศึกษา) ชื่อครูที่ปรึกษา ปีการศึกษาที่ทำโครงงาน
บทคัดย่อ
สารบัญ สารบัญตาราง สารบัญรูปภาพ
ประกอบด้วย 5 ส่วน ดังนี้
ระบุปัญหา
อธิบายที่มา ความสำคัญของปัญหาและโครงงาน วัตถุประสงค์ของการทำโครงงาน ขอบเขตและข้อจำกัดของโครงงาน ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ โดยนำเสนอข้อมูลของการวิเคราะห์ ตามขั้นระบุปัญหาของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
รวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา
อธิบายถึงความรู้ หลักการหรือแนวคิดต่าง ๆ ที่นักเรียนได้รวบรวมเกี่ยวกับปัญหาของโครงงาน ซึ่งใช้ในการกำหนดแนวทางการแก้ปัญหา เช่น ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ ศาสตร์อื่น ๆ ประเมินความเป็นไปได้ ข้อดีและข้อจำกัด หรือเกณฑ์อื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ความคุ้มค่า เพื่อเลือกแนวคิดหรือวิธีการที่เหมาะสมที่สุดกับวัตถุประสงค์ของโครงงานเพื่อใช้ในการดำเนินการแก้ปัญหา
ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา วางแผนและดำเนินการ
แสดงขั้นตอนการดำเนินงานประกอบด้วย (1) อธิบายการพัฒนาแนวทางในการแก้ปัญหา การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาเป็นภาพร่างในการพัฒนาชิ้นงาน ภาพร่างสมบูรณ์ของชิ้นงาน กรณีที่เป็นโครงงานของการสร้างวิธีการเพื่อแก้ปัญหาจะเป็นการเขียนแผนผังของวิธีการ (2) อธิบายขั้นตอนการดำเนินงานแก้ปัญหา หรือการสร้างช้ินงานตามแบบโดยมีแผนงานและระยะเวลาในการดำเนินการ วัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือ รวมถึงเกณฑ์วิธีการทดสอบประสิทธิภาพ วิธีการรวบรวมข้อมูล
ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไข
อธิบายถึงการทำงานของชิ้นงานหรือวิธีการ และผลการทดสอบประสิทธิภาพของชิ้นงานหรือวิธีการ ว่าเกิดปัญหาอะไรบ้าง และมีการปรับปรุงแก้ไขอย่างไร สามารถแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการตามวัตถุประสงค์ของโครงงานอย่างไร
สรุปและข้อเสนอแนะ
อธิบายข้อสรุปที่ได้จากการทำโครงงาน จุดเด่นหรือความคิดสร้างสรรค์ของโครงงาน ประโยชน์และแนวทางการนำไปประยุกต์ใช้ ตลอดจนข้อเสนอแนะแก่ผู้อ่านเพื่อการนำไปพัฒนาต่อไป หรือการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริง
บรรณานุกรม ใช้รูปแบบการอ้างอิงรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เช่น American Psychological Association (APA)
ภาคผนวก ประกอบด้วย ภาพถ่ายลำดับขั้นตอนการสร้าง และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบประสิทธิภาพ เช่น แบบสอบถาม วัสดุที่ใช้ วิธีการใช้งานของชิ้นงาน ข้อมูลที่บันทึกได้จากการทดสอบชิ้นงาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของฟัวข้อโครงงาน
การจัดทำโปสเตอร์เพื่อนำเสนอ ควรวางแผนและออกแบบขนาดที่เหมาะสม หรือตามเกณฑ์ของงานที่นักเรียนจะนำเสนอ ผู้จัดทำโครงงานอาจมีการนำเสนอรายงานด้วยคำพูดสั้น ๆ เพื่อให้โปสเตอร์อ่านได้ง่าย มีแนวทางการจัดทำ ดังนี้
1. ควรใช้ตัวหนังสือที่สามารถอ่านได้ในระยะประมาณ 1 เมตร และ ควรเป็นตัวอักษรที่อ่านได้ง่าย เมื่อใช้ภาษาอังกฤษ เนื้อความภายในไม่ควรใช้อักษรตัวใหญ่ทุกตัว เพราะอ่านยาก และ รูปแบบตัวอักษรควรเป็นรูปแบบเดียวกัน หรือคล้ายคลึงกัน
2. มีการนำเสนอชื่อโครงงาน ชื่อผู้จัดทำ ชื่อโรงเรียน วัตถุประสงค์ของโครงงาน ขั้นตอนในการดำเนินงาน และผลของโครงงาน ควรใช้รูปภาพ แผนภูมิ หรือแผนผังแบบต่าง ๆ แทนข้อความบรรยายเพียงอย่างเดียว
3. การใช้ตัวอักษรสีเข้ม บนพื้นสีอ่อนจะช่วยให้เห็นได้ดี ถ้าใช้ พื้นสีเข้มควรใช้ตัวหนังสือสีอ่อน สามารถใช้สีพื้นหรือสีตัวอักษรช่วยแยกความแตกต่างของแต่ละเรื่อง และ เน้นความสำคัญ
4. เนื้อความในโปสเตอร์ควรสรุปให้สั้นตรงประเด็น และมีการจัดเรียงลำดับเนื้อหาในโปสเตอร์ จากด้านบนลงล่าง จากทางซ้ายไปทางขวา หรืออาจใส่ตัวเลขขนาดเล็กแสดงลำดับ
5. การแสดงข้อมูลที่เป็นกราฟ ชื่อกราฟควรแสดงด้วยอักษรหรือสีที่เด่นชัด และระบุรายละเอียดทางวิชาการให้ถูกต้องและครบถ้วน เช่น ชื่อแกนของกราฟและหน่วยวัดมาตรฐาน
6. การติดโปสเตอร์แสดงผลงาน ควรติดให้อยู่ในระดับสายตา เพื่อสะดวกต่อการอ่าน
การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการนำเสนอโครงงาน มีเทคนิค ดังนี้
1. การเตรียมเนื้อหาในแต่ละหน้าหรือสไลด์
สไลด์ควรมีประเด็นในการทำโครงงานให้ครบถ้วน โดยเริ่มจากชื่อเรื่องโครงงาน ชื่อผู้ทำโครงงาน ชื่อครูที่ปรึกษา ชื่อโรงเรียน เพื่อเป็นการเตรียมให้ผู้ฟังเข้าสู่การนำเสนอ
สไลด์แต่ละหน้าควรสรุปประเด็นให้ชัดเจน เมื่อขึ้นสไลด์ใหม่ควรขึ้นหัวข้อใหม่
สไลด์แต่ละหน้าควรมีตัวอักษรไม่เกิน 5-8 บรรทัด พิจารณาปรับขนาดและความหนาของตัวอักษรตามขนาดห้องที่นำเสนอ ควรเลือกรูปแบบตัวอักษรที่เป็นรูปแบบเดียวกัน
2. ภาษาและไวยากรณ์
ระมัดระวังเรื่องการสะกดคำและรูปประโยค
การใช้เครื่องหมายตลอดจนการเว้นวรรคตอนต้องถูกต้อง
การใช้อักษรย่อต้องเป็นคำย่อที่เป็นสากลหรือเป็นทางการที่บุคคลทั่วไปรู้จัก ไม่ควรใช้อักษรย่อมากเกินไป หากใช้อักษรย่อ ควรกล่าวคำเต็มระหว่างการนำเสนอ
3. การตกแต่งสไลด์และเทคนิคการนำเสนอด้วยภาพ
ควรเน้นการใช้ภาพ แฟนภาพ หรือแผนผัง แทนการใช้ตัวอักษร
การแสดงรูปภาพประกอบทำให้เข้าใจง่ายขึ้น แต่พื้นหลังของสไลด์ควรเหมาะสมกับเรื่องที่นำเสนอ ไม่ควรใช้สีที่ฉูดฉาด หรือรูปภาพต่าง ๆ เกินความจำเป็น ไมีควรนำภาพที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาใช้
ควรเลือกใช้เทคนิคต่าง ๆ ของซอฟต์แวร์ช่วยในการนำเสนอให้เหมาะสม เช่น การเปลี่ยนสไลด์ หรือการดึงภาพและเสียงจากแหล่งอื่นมาใช้