จำนวน 1 คาบเรียน
1. หลักการออกแบบเบื้องต้น ในการออกแบบสิ่งของเครื่องใช้และผลิตภัณฑ์ จะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
2. ภาพไอโซเมตริก กับภาพฉาย เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
เนื้อหาความรู้ที่ควรศึกษา
เมื่อรวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหาแล้ว ขั้นต่อไปคือการใช้ข้อมูลและความรู้ที่ได้มา สร้างทางเลือกต่าง ๆ ในการแก้ปัญหา จาก กิจกรรมที่ 3.4 การรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน ได้เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของวิธีต่าง ๆ ในการชะลอการสุกของมะม่วงและพิจารณาถึงความสะดวกในการใช้งาน ค่าใช้จ่าย ความปลอดภัย และผลกระทบต่อคุณภาพของมะม่วง พบว่าวิธีการหนึ่งที่น่าสนใจคือ การใช้ผงถ่านกัมมันต์ดูดซับเอทิลีน เนื่องจากผงถ่านกัมมันต์เป็นวัสดุที่หาได้ง่าย มีราคาถูก และมีความเป็นพิษน้อย จึงเลือกใช้ผงถ่านกัมมันต์ ในการแก้ปัญหา และเมื่อสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม พบว่ามีการนำผงถ่านกัมมันต์ มาใช้ดูดซับเอทิลีนเพื่อชะลอการสุกของมะม่วงได้ 3 แนวทาง
แนวทางที่ 1 นำผงถ่านกัมมันต์มาบรรจุในถุงผ้า และนำไปวางในภาชนะที่เก็บรักษามะม่วง
แนวทางที่ 2 นำผงถ่านกัมมันต์มาผสมกับตัวกลาง แล้วทำเป็นแท่งนำไปวางหรือใส่ในภาชนะที่เก็บรักษามะม่วง
แนวทางที่ 3 นำผงถ่านกัมมันต์ผสมกับเยื่อกระดาษใช้แล้วหรือเยื่อวัสดุธรรมชาติ เพื่อทำเป็นกระดาษใช้ทำกล่องบรรจุมะม่วงแต่ละผล
การตัดสินใจเลือกแนวทางการแก้ปัญหา สามารถทำได้โดยประเมินความเป็นไปได้ในการทำงานจากปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งทางด้านทรัพยากรทางเทคโนโลยี ความสะดวกสบาย การใช้งาน ผลกระทบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย การบำรุงรักษา หรือปัจจัยอื่น ๆ ตามบริบทที่พบ โดยใช้การให้ค่าคะแนนที่แสดงถึงความพร้อมหรืออุปสรรคของแนวทางนั้น ๆ
ในการออกแบบสิ่งของเครื่องใช้และผลิตภัณฑ์ จะต้องคำนึงถึงหลักการออกแบบเบื้องต้น ดังต่อไปนี้
1) หน้าที่ใช้สอย (function) ควรออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีหน้าที่ใช้สอยถูกต้องตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เพื่อสนองความต้องการของผู้ใช้
2) ความปลอดภัย (safety) การออกแบบควรคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ เช่น เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์แล้วจะไม่เกิดสารพิษทำอันตรายแก่ชีวิต ไม่เกิดอันตรายได้ง่าย มีความปลอดภัยสูง เป็นต้น
3) ความแข็งแรงของโครงสร้าง (structural strength) หมายถึงความแข็งแรงของตัวผลิตภัณฑ์ ควรจะเลือกใช้โครงสร้างให้เหมาะสม ให้มีความแข็งแรงทนทาน นอกจากนี้ต้องคำนึงถึงการประหยัดด้วย
4) ความเหมาะสมกับสัดส่วนผู้ใช้งาน (ergonomics) ควรคำนึงถึงสัดส่วนที่เหมาะสมกับการใช้งาน ขนาด และขีดจำกัดของผู้ใช้ เช่น เก้าอี้ต้องมีขนาดสัดส่วนที่เหมาะสมกับการใช้งาน นั่งแล้วสบาย มีความนุ่มนวล
5) ความสวยงามน่าใช้ (aesthetics or sales appeal) ควรออกแบบให้ผลิตภัณฑ์มีรูปร่าง ขนาดสีสัน สวยงามน่าใช้ชวนให้ซื้อ นอกจากนี้แล้ว ควรจะช่วยยกระดับเกี่ยวกับรสนิยมในด้านรูปร่าง ขนาด สีสันแก่ผู้ใช้ให้ดีขึ้น
6) ต้นทุน (cost) ควรรู้จักเลือกใช้วัสดุหรือกรรมวิธีการผลิตที่เหมาะสม จะทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนที่เหมาะสม
7) ซ่อมแซมและบำรุงรักษาง่าย (ease of maintenance) ควรออกแบบให้สามารถแก้ไขและซ่อมแซมได้ง่าย ไม่ยุ่งยากเมื่อมีการชำรุดเสียหายเกิดขึ้น ค่าบำรุงรักษาและการสึกหรอต่ำ
8) วัสดุ (materials) ควรเลือกใช้วัสดุให้ถูกต้องเหมาะสมกับงาน ปริมาณของวัสดุ และคุณสมบัติ ด้านต่าง ๆ ที่นำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์
9) กรรมวิธีการผลิต (production) เมื่อทำการออกแบบผลิตภัณฑ์แล้ว สามารถผลิตได้สะดวก รวดเร็ว ประหยัดวัสดุ ค่าแรงและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่มีอยู่สามารถใช้ทำการผลิตได้หรือไม่ เป็นต้น
10) การขนส่ง (transportation) ควรคำนึงถึงการประหยัดค่าขนส่ง การขนส่งสะดวกหรือไม่ ระยะใกล้หรือระยะไกล กินเนื้อที่ในการขนส่งหรือไม่อย่างไร การขนส่งทางบก ทางน้ำหรือทางอากาศ ต้องทำการบรรจุหีบห่ออย่างไร
การนำหลักการออกแบบมาใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ ไม่จำเป็นต้อง เลือกใช้ทุกข้อแต่ควรคำนึงถึง ความเหมาะสม กับผลิตภัณฑ์นั้น ๆ
หลังจากที่ได้แนวคิดในการออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์แล้ว ควรถ่ายทอดความคิดดังกล่าวให้ออกเป็นมาเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดความชัดเจน เป็นการสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจ และสะดวกต่อการนำไปสร้างชิ้นงาน ซึ่งการถ่ายทอดความคิดให้ออกมาเป็นมาเป็นรูปธรรมอาจใช้หลักการของการเขียนภาพร่างในลักษณะต่าง ๆ เช่น ภาพไอโซเมตริก หรือภาพฉาย
ภาพไอโซเมตริก เป็นภาพ 3 มิติ ที่มีลักษณะเฉพาะในการเขียนคือ ต้องยกทำมุม 30 องศา จากแนวเส้นระนาบทั้งสองด้าน ระยะความกว้าง ความสูง และความลึกในภาพสามารถคำนวณมาตราส่วนเป็นระยะจริงได้ สัดส่วนของภาพใกล้เคียงความจริง และสามารถวาดได้ง่าย
ภาพฉาย คือ ภาพแสดงรายละเอียดของชิ้นงาน ประกอบด้วย ภาพด้านหน้า ภาพด้านข้าง และภาพด้านบน อย่างน้อย 3 ด้าน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจมีภาพด้านหลังหรือด้านล่างด้วยก็ได้ โดยภาพฉายของแต่ละด้านแสดงขนาด และหน่วยในการวัด เพื่อสามารถนำไปสร้างแบบจำลองหรือชิ้นงานในการสร้างชิ้นงาน