ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่สลับซับซ้อน มีปัจจัยที่เป็นสาเหตุอยู่หลายประการ ซึ่งเกี่ยวโยงประกอบ กัน อาจแยกพิจารณาได้เป็น ๓ ด้านคือ ตัวยา บุคคล และการใช้ยา ตลอดจนสภาพแวดล้อม รวมทั้งสังคม
สารที่ปรากฏในธรรมชาติก็ดี หรือที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นก็ดี บางอย่างจะมีคุณสมบัติ ที่ทำให้ผู้ที่ใช้แล้ว ไม่ประสงค์ไปใช้อีก และบางอย่างก็ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเฉยๆ ใช้ก็ได้ ไม่ใช้ก็ได้ แต่ก็มีสารบางอย่างที่มีฤทธิ์ ทำให้ผู้ใช้ชอบกลับไปใช้อีก หรือใช้บ่อยๆ จนติดได้ ตัวยาจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในปัญหายาเสพติด
ในบรรดาสารหรือยาที่ทำให้ปัญหาการติดยา นั้น องค์การอนามัยโลกได้จัดแยกไว้เป็น ๙ ประเภท คือ
๑.๑ แอลกอฮอล์ (alcohol) ซึ่งเป็นส่วนผสม สำคัญในเครื่องดื่มบางชนิด เช่น เหล้า เบียร์
๑.๒ แอมเฟตามีน (amphetamine) เป็นสาร สังเคราะห์ รวมทั้งสารที่มีโครงสร้าง และฤทธิ์แบบเดียวกัน
๑.๓ บาร์บิทูเรต (barbiturate) และยานอนหลับต่างๆ
๑.๔ กัญชา รวมทั้งผลผลิตจากต้นกัญชาใน รูปแบบต่างๆ
๑.๕ โคเคน (cocaine) และใบโคคา (coca)
๑.๖ ยาหลอนประสาท มีอยู่หลายชนิด เช่น แอลเอสดี (LSD)
๑.๗ แคต (khat) เป็นพืชที่ใช้เป็นยาเสพติด อยู่ในทวีปแอฟริกา
๑.๘ ฝิ่น และอนุพันธ์ของฝิ่น รวมทั้งสาร สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติอย่างเดียวกัน
๑.๙ น้ำมันระเหย ได้แก่ น้ำมันเบนซิน น้ำมันผสมสี อะซีโทน (acetone) และยาสลบบางชนิด
ในรายการขององค์การอนามัยโลกไม่มีพืช กระท่อม ซึ่งเป็นพืชเสพติดตามกฎหมายไทยด้วย
วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ที่มีผลทำให้ผู้ใช้ติดยาได้นั้น มีผลต่อจิตใจในแบบต่างๆ ได้ ๕ แบบ คือ
๒.๑ การบรรเทาความเจ็บปวด ซึ่งอาจเป็นจากโรคทางกาย โรคทางจิต หรือการปวดเมื่อยตามตัวจากการทำงานหนัก ยาหลายอย่างที่มีฝิ่นหรืออนุพันธ์ของฝิ่นเป็นส่วนประกอบมีฤทธิ์แบบนี้
๒.๒ การลดความตึงเครียด ความกระวนกระวายใจ ความหงุดหงิด ความตื่นเต้น ตลอดจนการนอนไม่หลับ ยาที่กดระบบประสาทส่วนกลาง เช่น แอลกอฮอล์ ฝิ่น มอร์ฟีน เฮโรอีน ยานอนหลับ และยากล่อมประสาท ออกฤทธิ์แบบนี้
๒.๓ การกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง เพื่อลดความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย การง่วงเหงาหาวนอน การอ่อนเพลีย การซึมเศร้า และขาดพละกำลัง สารที่ออกฤทธิ์แบบนี้ ได้แก่ กาเฟอีน (cafeine, สารที่มีในกาแฟ และชา) แอมเฟตามีน โคเคน และใบกระท่อม
๒.๔ การมึนเมา ซึ่งหมายถึง ภาวะที่การรับความรู้สึกจากสิ่งแวดล้อม และความนึกคิดผันแปรไป ไม่ชัดเจนหรือดีเท่าปกติ ความทุกข์ทรมาน หรือความวิตกกังวลค่อยมึนชาไป หรือลืมไปได้ ความกดดัน ความยับยั้งชั่งใจ หรือความอัดอั้นก็คลายออกไปได้ อาจเกิดความรู้สึกครึ้มใจ และหมดกังวลมาแทน อาจมีอาการทางกายเกิดร่วมด้วย เช่น เวียนศีรษะ เสียการทรงตัว และคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย สารที่ออกฤทธิ์แบบนี้ ได้แก่ แอลกอฮอล์ บาร์บิทูเรต กัญชา น้ำมันระเหยต่างๆ เป็นต้น
๒.๕ ประสาทหลอน ซึ่งหมายถึง ภาวะที่การรับความรู้สึกต่างๆ ผิดแปรไปจากปกติ สิ่งที่เห็นได้ยิน สัมผัส หรือรู้สึกด้วยวิธีใดก็ตาม จะรับรู้ผิดไปจากปกติ และแปลผลผิดจากปกติด้วย อาจมีความรู้สึกเกิดขึ้นโดยไม่มีสิ่งนั้นจริงๆ ก็ได้ ผู้ที่ใช้ยาอาจมีอาการมึนเมา สนุกสนาน ครึกครื้น หรืออาจถึงคลุ้มคลั่งก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ใช้ยารู้สึกว่า ไม่ได้อยู่ในโลกของความจริง แต่อยู่ในโลกของความฝัน จึงเป็นทางหนีจากความทุกข์ทรมาน และความกดดันต่างๆ ได้เช่นเดียวกับการมึนเมา กัญชา และสารสังเคราะห์ เช่น แอลเอสดี มีฤทธิ์แบบนี้
ยาเสพติดแต่ละชนิด อาจมีฤทธิ์หลายแบบ ปนกัน หรือมีฤทธิ์แตกต่างกัน แล้วแต่ขนาดของยาและวิธีใช้ ตัวอย่างเช่น แอลกอฮอล์ขนาดน้อยอาจมีฤทธิ์กระตุ้น เมื่อขนาดมากขึ้นก็มีฤทธิ์ทำให้มึนเมา และใน ขนาดมากเต็มที่อาจกดระบบประสาท จนไม่รู้สึกตัวไป เลยก็ได้ ฝิ่นที่ผสมเป็นยาหรือละลายน้ำกินทางปาก มี ฤทธิ์ในการแก้ท้องเดินและแก้ไอได้ดี และมีฤทธิ์ในการบรรเทาความเจ็บปวดได้ปานกลาง แต่ถ้าสูบ ซึ่งหมาย ถึงการเผาให้เป็นควัน แล้วสูดหายใจเอาควันเข้าไป จะมีผลเร็ว ระงับความเจ็บปวดได้มาก และลดความตึงเครียด ตลอดจนเกิดความรู้สึกสบายใจได้โดยเร็ว เฮโรอีนมีฤทธิ์คล้ายคลึงกับฝิ่นเวลาสูบ แต่ถ้าฉีดเข้าหลอดเลือด ยิ่งได้ผลเร็วขึ้นอีก มีความมึนเมาเกิดขึ้นในทันที
การเสพติดประกอบด้วยลักษณะ คือ การที่ร่างกายขึ้นกับยา หรือการติดยาทางกาย เมื่อได้รับยาเสพติดเข้าไปในร่างกายแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลง ในร่างกายส่วนต่างๆ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในสมอง เพื่อให้เกิดสมดุลใหม่ที่มียาอยู่ด้วยเป็นประจำ หากยานั้นขาดหายไป หรือลดปริมาณลง ก็จะเกิดการเสียสมดุลในร่างกาย ทำให้มีอาการผิดปกติขึ้น ที่เรียกว่า อาการถอนยายาประเภทฝิ่น มอร์ฟีน และเฮโรอีน มี สภาพที่ร่างกายขึ้นกับยาค่อนข้างรุนแรง เพราะในสมองมีสารหลายอย่าง ที่มีฤทธิ์แบบเดียวกันกับมอร์ฟีน เรียกว่า เอนเคฟาลิน (encephalin) และเอนดอร์ฟิน (endorphin) คล้ายกับว่า มีมอร์ฟีนอยู่ในสมองตามธรรมชาติแล้ว เมื่อร่างกายได้รับมอร์ฟีนเข้าไป ซึ่งจะได้จากการกิน หรือสูบฝิ่น หรือการฉีดมอร์ฟีน หรือเฮโรอีนก็ตาม จะทำให้สมดุล ของเอนเคฟาลิน และเอนดอร์ฟินในสมองเปลี่ยนไป เป็นสภาพที่ต้องได้รับมอร์ฟีน จากภายนอก เข้าไปตลอดเวลา เมื่อมอร์ฟีนจากภายนอกขาดไป จากการไม่ได้สูบฝิ่น หรือฉีดมอร์ฟีน หรือเฮโรอีน ก็จะเกิดกลุ่มอาการถอนยาที่ เรียกว่า ลงแดง กลุ่มอาการนี้ ได้แก่ อาการปวดตามตัว กระวนกระวาย ขนลุก น้ำมูกน้ำตาไหล หาว นอนไม่หลับ กล้ามเนื้อกระตุก และเป็นตะคริว และท้องเดิน ในบางรายที่เป็นมากอาจดิ้นทุรนทุราย ลักษณะอาการนี้ เกิดขึ้นจากระบบประสาทอัตโนมัติถูกกระตุ้นอย่างแรง กลุ่มอาการมีส่วนคล้ายคลึงกับโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดรุนแรง อาการดังกล่าวนี้ จะเป็นมากอยู่เพียง ๓-๕ วัน แล้วค่อยๆ สงบลงไปเองในเวลา ๑-๒ สัปดาห์ แต่ยังอาจมีอาการเพลียนอนไม่หลับ และหงุดหงิดไปอีกเป็นเวลาหลายเดือนสำหรับยานอนหลับ เช่น บาร์บิทูเรต และเมทาควาโลน (methaqualone) ก็มีอาการถอนยาที่อาจรุนแรงได้ เพราะยานี้มีฤทธิ์ในการกดระบบประสาทกลาง เมื่อใช้ไปนานๆ แล้วหยุดทันที ทำให้การกดหายไปทันที ก็มีอาการแบบเดียวกับระบบประสาทกลางถูกกระตุ้น คือ มีอาการกระวนกระวาย นอนไม่หลับ อาจมีอาการชัก ไข้สูง และไม่รู้สึกตัวไป เป็นอันตรายถึงชีวิตได้