ครอบครัวเป็นสังคมเล็กๆ สังคมหนึ่ง มีสมาชิก พ่อแม่ ลูก หรือเป็นสังคมของกลุ่มญาติประกอบด้วย บิดา มารดา ปู่ ย่า ยาย บุตร เป็นต้น สมาชิกในครอบครัว มีบทบาทหน้าที่ต่างกัน แต่ทุกคน ต้องมีความห่วงใย มีความรัก เอื้ออาทรซึ่งกันและกันให้ความช่วยเหลือดูแลกันและกันในด้านสุขภาพ แต่ละคนมีหน้าที่ดูแลสุขภาพของตนให้แข็งแรง เมื่อสุขภาพของตนแข็งแรงสมบูรณ์ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บแล้ว สุขภาพส่วนรวมหรือสุขภาพของครอบครัวก็จะแข็งแรงสมบูรณ์ ครอบครัวย่อมจะมีความสุข ทั้งนี้ ครอบครัวจะขยายใหญ่ขึ้นได้ต้องดำเนินการตามแนวทาง ดังนี้
1.สนับสนุนและเอื้ออำนวยให้สมาชิกใหม่เกิดและมีชีวิตอยู่รอดได้
2.ป้องกันและคุ้มครองให้มีการเจริญเติบโตจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่อย่างราบรื่น
3.ส่งเสริมสมาชิกของครอบครัวแต่ละคนให้อยู่ร่วมกันอย่างสามัคคี
4.ช่วยกันดูแลสุขภาพทั้งร่างกาย จิตใจและอารมณ์ ไม่นำสิ่งที่จะเข้ามาทำลายการมีสุขภาพที่ดีของสมาชิกครอบครัว
• พิจารณาประเมิน “สภาวะของสุขภาพ” โดยตนเองเป็นคนประเมินตนเองและครอบครัวของตนเองว่าอยู่ในกลุ่มใด อยู่ในกลุ่มที่มีสุขภาพดี หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง โดยสามารถประเมินสภาวะสุขภาพได้ทั้งจากลักษณะของร่างกาย และลักษณะของสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น
- ร่างกายอยู่ในสภาพที่แข็งแรงหรือทรุดโทรม
- สภาพแวดล้อมสะอาดหรือสกปรก เต็มไปด้วยมลพิษ เป็นต้น
- รูปร่างผอมหรืออ้วน
- นัยน์ตามองเห็นเป็นปกติหรือไม่ มีอาการสายตาสั้นหรืออาการสายตายาว
เมื่อทราบว่าสภาวะของร่างกายอยู่ในสภาวะอ่อนแอหรืออยู่ในสภาวะเสี่ยง ก็นำเอาปัญหานั้นๆ มาวิเคราะห์ว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุใด เช่น พฤติกรรมการกินอาหารที่อาจทำให้ร่างกายอ้วนเกินไป เกิดสภาวะน้ำตาลในเลือดสูง นำพฤติกรรมนั้นมาวิเคราะห์ว่าทำไมจึงอ้วน กินอาหารประเภทใดมากเกินไป เมื่อกินอาหารแล้วได้ออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญอาหารเป็นพลังงานหรือไม่ หรือสืบหาความเป็นมาจากพันธุกรรม เป็นต้น
เป็นกระบวนการในการสร้างเสริมสุขภาพของตนเองและครอบครัว โดยการหาวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่เหมาะสมว่าจะดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัวอย่างไรจึงจะมีสุขภาพดี ซึ่งกระบวนการแก้ปัญหานี้เป็นการวางแผนเพื่ออนาคต โดยที่เรารู้ตัวของเราเองและครอบครัวว่า จะต้องแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปในทางที่ดีได้ โดยอาศัยแนวคิดของการสาธารณสุขมูลฐานประยุกต์ให้เข้ากับสภาพจริง
ก่อนที่จะปฏิบัติให้บรรลุจุดมุ่งหมายนั้นจะต้องมีการวางแผน นำเอาแผนที่วางไว้มาปฏิบัติให้สอดคล้องกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ โดยไม่ปฏิบัติอย่างงมงาย แต้ต้องสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนเราและครอบครัว เช่น การใช้วิธีการคลายความเครียดด้วยการนวดการพักผ่อนในกิจกรรมที่สอดคล้องกับสุขภาพและแผนที่วางไว้ เป็นต้น
เป็นกระบวนการสุดท้ายของทุกๆ กิจกรรม เพื่อจะได้ทราบผลหรือบทสรุปที่เราได้ปฏิบัติตามแผนแล้วเกิดผลอย่างไร ประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด เพื่อนำผลการประเมินมาปรับปรุงพัฒนาในการดำเนินการต่อไป คือถ้าดีก็ดำเนินการต่อไปและพัฒนายิ่งขึ้น แต่ถ้าไม่ดีก็ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อจะได้สัมฤทธิผลตามที่วางเอาไว้